Bizlifestyle

‘The Tree House Organic Farm’ บ้านต้นไม้ริมน้ำ อยุธยา ฝันเล็กๆของสถาปนิกที่หลงรักต้นไม้

“การเกษียณเพื่อมาทำอะไรสักอย่างขึ้นอยู่กับตัวของเราเอง ค้นหาตัวเองให้เจอ ทำด้วยความตั้งใจ ผลออกมาเป็นอย่างไรก็ดีทั้งนั้น”น่าจะอยู่ในความคิดของใครหลายคน อยู่ที่ว่าใครจะแปรเปลี่ยนความคิดให้กลายร่างเป็นความจริงที่แตะต้องสัมผัสได้ก่อนกัน
วันนี้ ขออนุญาตคุณผู้อ่านทุกท่านไปทำความรู้จัก ‘The Tree House Organic Farm’ บ้านต้นไม้ริมน้ำ จ.อยุธยา ไม่ใกล้ ไม่ไกลกรุงเทพมหานครมากนัก  เจ้าของไอเดียแห่งนี้คือ  ‘พี่ก๋า’ สิริลักษณ์ ธรรมมาภรณ์ ในวัย 57 ปี อดีตสถาปนิกผู้ตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อมาค้นหาคำตอบให้กับบั้นปลายชีวิตของตนเอง
.
ความตั้งใจเริ่มแรกของพี่ก๋าคือ หาที่สักแปลงทำโคกหนองนาตามความสนใจของตนเอง แต่เมื่อลงมือทำจริงๆ ไม่ประสบความสำเร็จดั่งที่ตั้งใจไว้เหมือนเพื่อนๆ ที่มีความฝันเดียวกัน พี่ก๋าจึงเลือกที่จะหันมาทำบ้านต้นไม้ตามแนวต้นไม้ใหญ่อายุกว่า 10 ปีที่มีอยู่แล้วบนที่ดินริมน้ำ และแปลงผักเล็กๆ ไว้ปลูกกินเอง

 


.
จากนั้นก็หารายได้เพื่อเลี้ยงตนเอง ด้วยการเปิดเป็นที่พักให้แขกจองผ่าน Airbnb ตามคำแนะนำของเพื่อนๆ จนกลายเป็นที่สนใจอย่างมากของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติ
.
จากบ้านต้นไม้ 1 ห้องนอน ก็ค่อยๆ ขยาย จนปัจจุบันมีบ้านต้นไม้ 2 หลัง บ้านพักริมน้ำอีก 1 หลัง ทั้งหมด 4 ห้องนอน มีพื้นที่ส่วนกลางคอยอำนวยความสะดวกให้กับแขก ตั้งแต่ครัวกลาง ระเบียงรับประทานอาหาร พื้นที่ซักรีด และห้องสุขารวม ตามแบบฉบับมาตรฐานที่พัก Airbnb
.
นอกจากมาพักผ่อน ที่นี่ยังมีกิจกรรมเล็กๆ ให้เลือกทำ ไม่ว่าจะเป็นพายเรือคายัค หรือนำจักรยานออกไปปั่นเที่ยวเมืองเก่าอยุธยา และเมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร พี่ก๋าก็จะเป็นคนทำและตระเตรียมไว้ให้ด้วยตัวเอง โดยใช้พืชผักที่ปลูกเองในแปลงเล็กๆ มาเป็นวัตถุดิบหลัก ทำให้แขกที่มาพักต่างติดใจในความธรรมดาและธรรมชาติจนต้องกลับมาเยือน
.

 

“คนที่มาทำด้านนี้ ต้องไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ หรือคาดหวังสูงเกินไป ถ้าทำแล้วไม่ได้ดั่งใจหรือไม่สำเร็จ อย่าไปเครียดกับสิ่งนั้น แล้วคิดว่าทำไม่ได้ ไปไม่รอด อาจจะลุ่มๆ ดอนๆ เพราะเราเป็นมือใหม่ บางทีปลูกต้นไม้ 100 ต้นประสบความสำเร็จแค่ 20 ต้น…” สิริลักษณ์ ธรรมาภรณ์ เจ้าของ The Tree House Organic Farm จ.พระนครศรีอยุธยา เล่าถึงสิ่งที่สร้างมากับมือบ้านต้นไม้ บนพื้นที่ 8 ไร่ ซึ่งแรกๆ คิดว่า ทำแค่การเกษตร แต่ด้วยความรู้ด้านสถาปนิก จึงกลายเป็นที่พักเล็กๆ สองหลังริมน้ำ มีเสียงนกร้อง น้ำไหลเอื่อยๆ ในยามเช้า

“ 5 ปีที่แล้วเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า ชีวิตจะทำงานไปเรื่อยๆ แล้วจะจบตรงไหน จะแก่ไปกับงานตรงนั้นเลยหรือ พ่อแม่ก็แก่ลงทุกวัน ต้องหาเวลาพาไปหาหมอ เราก็อยากแบ่งเบาบางอย่างในครอบครัว ถ้าไม่ทำงานที่มีรายได้ประจำ แล้วจะทำอะไรต่อ”

ในเมื่อชอบเรื่องธรรมชาติและต้นไม้เป็นทุนเดิม เธอจึงมาเรียนรู้การเกษตรตามแนวศาสตร์พระราชา และพบว่าตอบโจทย์ชีวิตได้ ตอนนั้นจึงหาพื้นที่สักแปลง เพื่อสร้างที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สร้างอาหารปลอดภัยและมีเวลาดูแลพ่อแม่

“ที่ดิน 8 ไร่แม้จะเยอะเกินกำลัง เราได้แรงบันดาลใจจากอาจารย์ยักษ์ จึงเริ่มออกแบบพื้นที่ เพราะมีพื้นที่บางส่วนติดริมแม่น้ำ พื้นที่อีกส่วนอยู่กลางทุ่งและติดถนน เราก็คิดว่าจะทำแบบโคก หนอง นา คือ อยากกินอะไรก็ปลูก ทำกสิกรรมธรรมชาติยังชีพขาย แต่ตอนนั้นไม่ประมาณตน ทั้งๆ ที่เป็นคนอยุธยา เกิดริมน้ำ ไม่ใช่คนเมือง ก็แอบฝันว่า น่าจะทำเป็นที่พักให้คนมาพัก มาชื่นชมได้ เพราะที่นั่นมีต้นไม้ใหญ่อายุหลายสิบปี ทั้งจามจุรี ตะโก เวลามีคนมาก็จะเรียกว่า บ้านต้นไม้ ก็เลยใช้ชื่อนี้

ตอนนั้นคิดแค่ว่าสร้างที่พักเอาไว้ ถ้าเพื่อนๆ ในเครือข่ายมา จะได้นอนพักแลกเปลี่ยนความคิดกัน พอเพื่อนๆ มาเยี่ยม ก็แนะว่า น่าจะทำเป็นที่พักให้เช่าค้างคืน เราก็เลยถ่ายภาพลงเพจ เขียนเรื่องราว แล้วนำไปลงในเว็บ airbnb จนมีคนต่างชาติมาพักที่บ้านต้นไม้อยู่เรื่อยๆ ”

 

ทุกวันนี้ งานหลักของเธอคือ เปิดบ้านให้ฝรั่งพัก จึงต้องดูแลตั้งแต่หลังคาจนถึงใต้พื้นดิน เธอยอมรับว่า ธุรกิจเล็กๆ ประสบความสำเร็จพอควร เพราะลูกค้ามาพักซ้ำๆ ส่วนใหญ่ประทับใจธรรมชาติ และความดิบของที่พัก ที่ไม่ได้ตกแต่งมาก

Hi.!. I’m Ga, (ก๋า)

ฉันเคยเรียนและมีชีวิตทำงานในเมืองหลวงเช่นเดียวกับคนจากต่างจังหวัดอีกมากมาย …ยิ่งแสวงหาก็ยิ่งพบว่ามีอีกมากมายที่ต้องแสวงหา และวันหนึ่งก็พบว่ามีสิ่งหนึ่งที่สมควรทำ คือการมาสร้างพื้นที่นี้ ฉันสร้างที่นี่เพราะฝันที่จะทำอย่างเดียว แต่ได้คำตอบของทุกคำถาม มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ได้เสมอ ยินดีต้อนรับ

 

ขอบคุณข้อมูล มนุษย์ต่างวัย,กรุงเทพธุรกิจ

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button
X
%d bloggers like this: