“กาแฟ” ถือเป็นเครื่องดื่มที่คนไทยคุ้นเคยมายาวนานและดูจะขาดเสียมิได้ไปแล้วในชีวิตประจำวัน เมื่อกาแฟได้รับความนิยมมากขึ้นทำให้ธุรกิจร้านกาแฟแพร่หลาย โดยเฉพาะธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟที่มีมากกว่า 100 แบรนด์และมีร้านกาแฟจำนวนไม่น้อยที่ต้องล้มหายตายจากไป ในขณะที่ธุรกิจร้านกาแฟที่สามารถปรับตัวมีกลยุทธ์การตลาดที่เข้มแข็งและมีเอกลักษณ์ของตัวเองก็สามารถอยู่รอดได้
ปัจจุบันธุรกิจกาแฟมีมูลค่ารวมทั้งหมด 170,000 ล้านบาท โดยธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟมีมูลค่า 12,750 ล้านบาท คิดเป็น 75% ของตลาดรวม และมีแนวโน้มที่จะเติบโตเพิ่มมากขึ้น
หนึ่งในบรรดาร้านกาแฟที่คนไทยรู้จักกันและคุ้นลิ้นเป็นอย่างดีคือ ร้านกาแฟอินทนิล ร้านกาแฟที่เติบโตมาจากธุรกิจปั๊มน้ำมันของกลุ่มบางจากซึ่งเปิดให้บริการสาขาแรกในสถานีบริการน้ำมันบางจาก เมื่อปี 2549 เพื่อเป็นเพื่อนร่วมทางให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วประเทศ และต่อมาได้ขยายสาขาเป็นรูปแบบสแตนอโลน (Standalone) นอกสถานีบริการน้ำมัน อาทิ ศูนย์การค้า มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล โดยมีแผนการขยายสาขาในประเทศไทยมากกว่า 1,000 สาขา ภายใน 3 ปี และจัดเป็นร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ ปัจจุบันมีสาขาถึง 450 สาขา
นอกจากขยายสาขาให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคในประเทศแล้ว ร้านกาแฟอินทนิลยังมองไกลด้วยการต้ังเป้านำแบรนด์ร้านกาแฟคนไทยออกไปยังตลาดโลก โดยใช้ความได้เปรียบจากมีพันธมิตรทางด้านธุรกิจค้าปลีกระดับโลก ซึ่งได้รับสิทธิมาสเตอร์ไลเซนส์ (Master License) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จากสพาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (SPAR International) ซึ่งมีเครือข่ายกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมกว่า 12,500 ร้านค้า ทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพสูงในการขยายธุรกิจร้านกาแฟอินทนิลไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่อไปถือเป็นใบเบิกทางให้ร้านกาแฟอินทนิลติดสอยห้อยตามไปด้วย ซึ่งนั่นเป็นแผนในระยะยาว
ขณะที่แผนระยะสั้น อินทนิล ขอกวาดตลาดประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนก่อน นำร่องโดยประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว ประเทศบ้านพี่เมืองน้องที่ไลฟ์สไตล์ใก้เคียงกับผู้บริโภคชาวไทยมากที่สุด ด้วยการมอบสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ (Master Franchise) ร้านกาแฟอินทนิลในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว ระหว่าง บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด และบริษัท อาร์ซีจี รีเทล (กัมพูชา) จำกัด ซึ่งจะเปิดบริการแฟล็กชิพสโตร์ (Flagship Store) ณ กรุงพนมเปญ ภายในไตรมาสแรกของปี 2561
วิบูลย์ วงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด บอกว่าจะขยายตลาดร้านกาแฟอินทนิลออกไปสู่ตลาดต่างประเทศ ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ ซึ่งมีการขายสินค้าที่หลากหลายมากกว่าร้านกาแฟทั่วไป อาทิ อินทนิล บิสโทร สาขาแรกที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นอกจากกาแฟและเบเกอรี่แล้วยังมีอาหารอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งสลัด สปาเกตตี้ ไอศกรีม หรือ อินทนิล การ์เด้น ที่จำหน่ายกาแฟออแกนิค อราบิก้า 100% ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่รักกาแฟออแกนิคอย่างแท้จริง ทำให้ปัจจุบันอินทนิลเป็นผู้นำที่สำคัญของกาแฟออแกนิค ส่วนรูปแบบร้านกาแฟอินทนิลที่จะขยายในต่างประเทศ จะขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าในประเทศนั้นๆ เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่จะขยายไปในกัมพูชาและสปป.ลาว จะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกัน คือ “More than just a high quality coffee”
สำหรับตลาดกาแฟในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการขยายตัวสูงมาก เนื่องจากความนิยมในการบริโภคกาแฟของชาวกัมพูชาและสปป.ลาวมีอัตราเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงได้มอบสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ (Master Franchise) ให้กับ บริษัท อาร์ซีจี รีเทล (กัมพูชา) จำกัด ทั้งในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว โดยมีแผนเปิดสาขาแรกที่เมืองเสียมราฐ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยวของกัมพูชา และขยายสาขาแฟล็กชิพสโตร์ (Flagship Store) กลางกรุงพนมเปญ ภายในไตรมาสแรกของปี 2561 ส่วนในสปป.ลาว จะเปิดภายในไตรมาส 3 ของปี 2561 และขยายอีกกว่า 100 สาขาในทั้ง 2 ประเทศ
ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงของร้านกาแฟที่เปิดให้บริการในปั้มน้ำมันมากมายหลายแบรนด์ การฉีกไปยังต่างประเทศถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่หลายค่ายให้ความสนใจ แต่แบรนด์ไหนจะประสบความสำเร็จมากกว่ากัน ผู้บริโภคเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้ดี ไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหนก็ตาม
