SC ลุยเปิดแนวราบทุกระดับราคา
ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการต่อเนื่อง สำหรับ เอสซี แอสเเสท โดยเฉพาะการประกาศยุทธศาสตร์เรื่อง human-centric innovation เมื่อตอนต้นปี หลังจากนั้นมีการขยายธุรกิจใหม่และลงทุนใน platform เรื่องบริการหลังการขายกับ tech startup “Fixzy” แผนครึ่งปีหลังจึงดำเนินตามยุทธศาสตร์ “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)วางแผนดังนี้
- ร่วมพัฒนา iOT smarthome platform ชื่อ “ Rue Jai ™ (รู้ใจ™)” สำหรับลูกค้า SC ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ AIS ผู้ให้บริการDigital Life Service Provider อันดับ 1 ของประเทศไทย ให้เป็น smarthome platform ที่พัฒนาโดยคนไทย และเพื่อคนไทย พร้อมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้นำร่องที่โครงการเดอะ เจนทริ พระราม9 ก่อนที่จะขยายไปยังโครงการอื่นๆ ต่อไป
- SC 4.0 housing prototypes ได้มีการใช้design thinking ในการออกแบบ prototype สำหรับบ้านคอนเซปท์ในอนาคต โดยเฉพาะคนโสดที่นับวันจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยจะเริ่มเปิดตัวในโครงการต่างๆ ในช่วงไตรมาส 4/2560 และจะมีการพัฒนาแบบอื่นๆ ต่อเนื่อง
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์
นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลังจะเปิดแนวราบทุกระดับราคา จำนวน 9 โครงการใหม่ มูลค่า 11,450 ล้านบาท ซึ่งปลายปีจะเปิดแบรนด์ใหม่ชื่อ เวิร์ฟ (Verve) ทาวน์โฮม 2 ชั้น เริ่ม 2.59 ล้านบาท โครงการใหม่ทั้งหมดแบ่งเป็น 5 แบรนด์ ดังนี้
- The Gentry โครงการเดอะ เจนทริ พระราม 9 เริ่ม 30 ล้านบาท
- Bangkok Boulevard ได้แก่ โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รังสิต , สาทร-ราชพฤกษ์ , ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ , แจ้งวัฒนะ และ สาทร-ปิ่นเกล้า เริ่ม 6-20 ล้านบาท
- Pave โครงการเพฟ รามอินทรา-วงแหวน เริ่ม 4 ล้านต้น
- Work Place โครงการเวิร์คเพลส แจ้งวัฒนะ เริ่ม 9 ล้านบาท
- Verve โครงการเวิร์ฟ เพชรเกษม 81 เริ่ม 2.59 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรก มียอดขายรวม 7,493 ล้านบาท เติบโต 44% (yoy) ซึ่งมาจากผลตอบรับที่ดีจากยอดขายแนวราบ 4,491 ล้านบาท เติบโต 14% (yoy) กับยอดขายคอนโดฯ 3,002 ล้านบาท เติบโต 137% (yoy) ขณะที่สื่อออนไลน์ถือว่ามีประสิทธิภาพสูง โดยแนวราบในครึ่งปีแรกได้รับยอด walk-in จากสื่อนี้ถึง 30% ดังนั้นทำให้ค่าใช้จ่ายการตลาดลูกค้าแวะต่อคนลดลง 5 เท่าจาก Traditional media ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายการตลาดต่อยอดขายลดลง
เอสซี แอสเสท
ด้านมุมมองเศรษฐกิจ ณัฐพงศ์ มองว่า จากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับคาดการณ์ว่า GDP ปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นจาก3.2% เป็น 3.5% โดยปัจจัยหลักเป็นเรื่องการลงทุนภาครัฐ รวมถึงภาคการส่งออกและท่องเที่ยวที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนภาคลงทุนเอกชนและการบริโภคนั้นยังคงไม่เติบโตเท่าที่ควร และสถานการณ์หนี้ยังมีความน่ากังวล ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ณ ปลายไตรมาส 1/2560 สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ลดลงเหลือ 78.6% แต่สินเชื่อกลุ่มที่อยู่อาศัยขยายตัวแบบชะลอตัว สวนทางกับสัดส่วน housing NPLs ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 3.23% ส่งผลต่อความเข้มงวดของธนาคารในการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ไม่สามารถวางแผนการใช้เงินอนาคต
อย่างไรก็ตาม SC มียอดปฏิเสธสินเชื่อธนาคารเฉพาะแนวราบในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สัดส่วนใกล้เคียงเดิมที่ประมาณ10% โดยสัดส่วนการชำระเงินสดโดยเฉพาะในกลุ่ม luxury segment สูงถึง 50% สูงกว่าปีที่ผ่านมา สรุปได้ว่า demand ในตลาดยังมีการเติบโต แต่สถานการณ์ของหนี้ทำให้ความสามารถในการใช้เงินอนาคตน้อยลง จึงมีแนวโน้มที่จะใช้เงินปัจจุบันมากขึ้น
เอสซี แอสเสท
ณัฐพงศ์ มั่นใจว่า ปีนี้จะสามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยยอดขาย 16,000 ล้านบาท และรายได้ 14,800 ล้านบาท โดยปีนี้ SC มีโครงการเพื่อขายทั้งหมด 44 โครงการ มูลค่า 44,135 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการระหว่างการพัฒนา จำนวน 35โครงการ พร้อมกับอีก 9 โครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ได้ปรับเพิ่มงบซื้อที่ดินเพิ่มเป็น 9,100 ล้านบาท รองรับโครงการใหม่ๆ 20-30 โครงการ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมแผนการเติบโตต่อเนื่อง 3 ปี รายได้ทะลุเป้าหมาย 20,000 ล้านบาท ในปี 2562