Real Estate

OMG !!!! อสังหาฯ ดิ่งเหว ผู้บริโภคไร้ความเชื่อมั่น

เว็บไซต์ซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty.com) ภายใต้การบริหารงานของ พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป เว็บไซต์สื่อกลางด้านการค้นหาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย ได้ทำการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริ โภคไทยประจำปีนี้ต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ผลว่าลดลงเหลือเพียง 62% ในรอบผลสำรวจนี้ จาก 68% ในปี 59 เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และมาตรฐาน การปล่อยสินเชื่อที่เข้ มงวดของธนาคาร ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริ โภคตลาดอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5%, 8% และ 10% ตามลำดับ

​ พร็อพเพอร์ตี้กูรู เว็บไซต์สื่อกลางด้านการค้ นหาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในภูมิ ภาคเอเชียได้ทำแบบสำรวจออนไลน์ ในกลุ่มผู้ซื้อบ้านหลังแรกและผู้ซื้ออสังหาฯใน 4 ประเทศได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย รวมทั้งสิ้น 3,255 คน พบว่า ผู้บริโภคชาวอินโดนีเซียมี ความพึงพอใจต่อสภาวะอสั งหาฯในประเทศตนมากที่สุด โดยดัชนีความ เชื่อมั่นขยับขึ้น 5% เป็น 66% จากปีก่อน ซึ่งพวกเขามองว่าราคาสินทรัพย์ ในกลุ่มอสังหาฯ จะขยับสูงขึ้นใน อนาคต ด้านผู้บริโภคชาวมาเลเซียก็ขยั บขึ้นเช่นกันจาก 28% ในปีก่อน เป็น 38% ในปีนี้ ขณะที่ ชาวสิงคโปร์ซึ่งมองว่า เศรษฐกิจของประเทศตนอยู่ ในสภาพที่ดีเยี่ยม มีดัชนีความเชื่อมั่นในกลุ่มอสั งหาฯ ขยับขึ้นจาก 28%ในปีที่แล้วเป็น 36% ในปีนี้

ในขณะที่ไทยเป็นประเทศเดี ยวในรอบสำรวจนี้ ที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริ โภคต่อภาคอสังหาฯ ลดลง ซึ่งเป็นผล มาจาก 5 ปัจจัยหลัก คือ สภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี (55%) อสังหาริมทรัพย์มีราคาสูงจนเกิ นไป (52%) ราคาอสังหาฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเ กินไป (46%) มาตรฐานการปล่อยสินเชื่อที่เข้ มงวดของธนาคาร (30%) และสภาวะที่ ไม่แน่นอนในตลาดอสังหาฯ (25%)

อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสำรวจไทยเกือบ 50% ระบุเตรียมวางแผนซื้ออสังหาริ มทรัพย์ ภายในอีก 6 เดือน ขณะที่ผู้ซื้อชาวมาเลเซียมี แผนซื้ออสังหาฯ อยู่ที่ 58% ตามด้วยอินโดนีเซียที่ 52% โดยชาวสิงคโปร์เป็นกลุ่มที่มี ความต้องการซื้อ อสังหาฯ น้อยที่สุดเพียง 42% เท่านั้น เนื่องจากชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่ มองว่าราคาอสังหาฯ จะปรับตัว ลดลงภายในอีก 6 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการจะมีการตัดราคา เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าต่ ออายุ และค่าปรับ จากห้องที่ขายไม่หมด ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ซื้ออสังหาฯในสิงคโปร์ จะสามารถซื้ออสังหาฯ ได้ในราคาที่ต่ำลง

ด้านการถือครองอสังหาริมทรัพย์ ชาวสิงค์โปร์เป็นกลุ่มที่มี การถือครองน้อยที่สุดในบรรดาทั้ ง 4 ประเทศที่ 60% ตาม มาด้วย อินโดนีเซีย 82% มาเลเซีย 66% และไทย 65%

สำหรับปัจจัยในการตัดสินใจซื้ ออสังหาฯ ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ให้ความสำคัญ กับทำเลที่ตั้งเป็นอันดับแรก ส่วนชาวสิงคโปร์คำนึงถึ งความปลอดภัยเป็นปัจจัยที่สำคั ญที่สุด (รูป2: 5 ปัจจัยสำคัญที่ใช้พิ จารณาประกอบการซื้ออสังหาริมทรั พย์)

​หากมองถึงชนิดของอสังหาฯที่ได้ รับความนิยมสูงสุดภายในอีก 6 เดือนข้างหน้า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้ง 4 ประเทศให้ความสนใจทั้งสินทรัพย์ ใหม่และสินทรัพย์มือสองมากที่สุ ด แต่สำหรับในประเทศสิงคโปร์ บ้านมือสองได้รับความนิยมมากกว่ าเนื่องจากราคาไม่สูงเกินไป สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ง่ ายกว่า

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังแสดงถึงเงินทุนที่ แตกต่างกันในกลุ่มผู้ที่ต้ องการซื้ออสังหาฯในอีก 6 เดือนข้างหน้า ชาวไทย 34% ต้องการซื้อบ้านราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท, 16% ที่ราคา 3-4 ล้านบาท และ15% ที่ราคา 5-8 ล้านบาท ชาวสิงคโปร์ 25%ต้องการซื้ออสังหาฯที่ ราคาประมาณ 250,000-500,000 เหรียญสิงคโปร์ (6.25-12.5 ล้านบาท) และ ชาวมาเลเซีย 38% ที่ราคา 300,000-500,000 ริงกิตมาเลซีย (2-3.5 ล้านบาท) ชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่กว่า 50% ต้องการซื้อบ้านที่ราคา 500 ล้าน รูเปียอินโดนีเซีย หรือต่ำกว่า 1 ล้านบาท (รูป3: งบประมาณเพื่อซื้ออสังหาริมทรั พย์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า)

​ด้านระยะเวลาพักอาศัยโดยเฉลี่ย ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยมีแนวโน้ มที่จะอยู่ในบ้านที่ตนซื้อเป็ นเวลาประมาณ 12 ปี ชาวสิงคโปร์และอินโดนีเซียที่ 11 ปี และมาเลเซียที่ 9 ปีเท่านั้น

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: