“LINE TAXI”ทางเลือกใหม่คนกรุง
นอกจากการเป็นออนไลน์แพลตฟอร์ม ให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ผ่านแอปได้อย่างสะดวกสบายแล้ว LINE MAN ผู้ให้บริการสั่งซื้ออาหาร (Food Delivery) แมสเซนเจอร์ (Messenger) สั่งของสะดวกซื้อ (Convenience Goods) และส่งพัสดุ (Postal) ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากความต้องการของผู้ใช้งาน LINE ในประเทศไทย โดยมีปัจจัยด้านการขนส่ง (Transportation) ถือเป็นบริการที่ผู้บริโภคชาวไทยมีความต้องการเป็นอย่างสูง
ล่าสุด LINE MAN เล็งเห็นถึงปัญหาการใช้บริการแท็กซี่ที่มีอยู่เกลื่อนกลาดในเวลานี้ แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า ด้วยจำนวนแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่มากกว่า 90,000 คัน และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เข้ามาให้บริการในปัจจุบัน ยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด ผู้ใช้งานยังคงต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นปัญหาการไม่สามารถเรียกแท็กซี่ได้ในช่วงเวลาเร่งด่วนหรือฝนตก การปฏิเสธผู้โดยสาร หรือแม้กระทั่งความรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้บริการ จึงเป็นที่มาของ LINE TAXI บริการลำดับที่ 5 ภายใต้การดำเนินงานของ LINE MAN
LINE TAXI
โดย LINE และเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร ได้ประกาศความร่วมมือในพิธีลงนามเซ็นสัญญาร่วมพัฒนาบริการ LINE TAXI โดยนำความแข็งแกร่งของ LINE ด้านจำนวนผู้ใช้งาน และศักยภาพทางด้านเทคโนโลยี ผนวกกับเครือข่ายคนขับแท็กซี่ถูกกฎหมายกว่า 60,000 ราย ภายใต้เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร ในการยกระดับประสบการณ์การใช้บริการแท็กซี่ที่สะดวกและรวดเร็วให้กับผู้ใช้งานชาวไทย ด้วยการพัฒนารูปแบบการให้บริการที่ง่ายดายยิ่งขึ้นผ่าน LINE โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือให้ทุกคนสามารถใช้บริการ LINE TAXI ผ่านเครือข่ายคนขับแท็กซี่ของสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้อีกหนึ่งวัตถุประสงค์สำคัญ คือ การยกระดับมาตรฐานและความเป็นอยู่ของคนขับแท็กซี่ในประเทศไทย ด้วยจำนวนลูกค้าเรียกใช้บริการ และรายได้ที่มากขึ้น รวมถึงความปลอดภัยของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่ง LINE TAXI ถือเป็นแท็กซี่ไทยภายใต้แนวคิด Taxi 4.0 ที่พัฒนาขึ้นให้สอดคล้องตามนโยบายของกรมการขนส่งทางบก และถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย จึงนับเป็นกำลังสำคัญในการนำพาอุตสาหกรรมแท็กซี่ไทยเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0) โดย LINE TAXI จะเริ่มให้บริการภายในสิ้นปี 2017
อริยะ พนมยงค์
กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า คนขับแท็กซี่ถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0) ซึ่ง LINE และ เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ เขตกรุงเทพมหานคร มีจุดมุ่งหมายที่จะร่วมพัฒนาแท็กซี่ไทยให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยเรามองว่าเทคโนโลยี ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก แต่กลับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนขับแท็กซี่ในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยต้องการชีวิตที่รวดเร็ว สะดวกสบาย และปลอดภัย เราจึงตั้งเป้าในการพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด
จุดเด่นของ LINE TAXI คือ การนำเอาความแข็งแกร่งของแบรนด์ LINE ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานครอบคลุมมากกว่า 90% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือในประเทศไทย รวมถึงรูปแบบการใช้งานที่ง่าย ทั้งสำหรับฝั่งผู้โดยสาร และคนขับแท็กซี่ มาผนึกกำลังกับเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีสมาชิกคนขับแท็กซี่ ถูกกฎหมายร่วมให้บริการมากกว่า 60,000 ราย หรือคิดเป็น 60% ของจำนวนแท็กซี่ที่ให้บริการทั้งหมดในกรุงเทพฯ
LINE TAXI
วิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพมหานคร นับเป็นเครือข่ายผู้ให้บริการแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีสมาชิกสหกรณ์ในเครือข่ายมากกว่า 60,000 ราย ซึ่งคิดเป็นกว่า 60% ของผู้ให้บริการแท็กซี่ทั้งหมดในกรุงเทพฯ ในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาหลักที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การให้บริการของแท็กซี่โดยตรง คือ การปฏิเสธผู้โดยสาร ซึ่งมีสาเหตุจากรายได้ ของคนขับแท็กซี่ที่ไม่คุ้มทุนในแต่ละวัน โดยเราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีจะสามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ให้กับเราได้ และเมื่อ LINE แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะเข้ามาร่วมงานกับเราภายใต้การดำเนินงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงได้ตกลงที่จะร่วมมือกันในการสร้างสรรค์รูปแบบการให้บริการซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของแท็กซี่ในประเทศไทย ที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับผู้ใช้งานในช่วงที่ผ่านมา
และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนเมืองกรุงที่ต้องพึ่งพารถแท็กซี่ที่มีปัญหาไม่รับผู้โดยสารและอีกหลากหลายปัญหาที่สรา้งความปวดเศียรเวียนเกล้าแก่ผู้ใช้บริการ และยังเป็นการดับเครื่องชน Grab Taxi อีกหนึ่งบริการแอพพลิเคชั่นที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้อีกด้วย