ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้คิดค้นการกำหนดช่วง Generation ของมนุษย์ และไม่รู้ว่าการกำหนดอย่างนี้นั้นมีมานมนานแล้วหรือยัง แต่การกำหนดกลุ่มอายุของคนเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ๆแบบนี้ นับว่ามีประโยชน์มหาศาลต่อนักการตลาดและการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก
สำหรับยุคปัจจุบันที่เข้าสู่ยุคดิจิตอล หรือ 4.0 ได้มีกลุ่มประชากรกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดเช่นกัน นั่นคือ Generation Y หรือคนที่เกิดระหว่างช่วงพ.ศ. 2523-2542 อายุ 18-37 ปี มีสัดส่วนถึง 32% ซึ่งมากกว่าคนในรุ่นอื่นๆได้แก่ Baby Boomers 17%, Gen X 19% และ Gen Z 26% อีกทั้งคน Gen Y ก็เป็นกลุ่มประชากรสำคัญในตลาดแรงงานปัจจุบัน อีกทั้งกำลังจะเข้าสู่ตลาดแรงงานทั้งหมด จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมทั้งโลกต่างให้ความสนใจในการเข้าถึงกลุ่มประชากร Gen Y
สำหรับประเทศไทย พ.ศ.2559 มีจำนวนประชากรทั้งประเทศจำนวน 65,931,550 คน แบ่งเป็นกลุ่ม Gen Y ถึง 18.7 ล้านคน หรือประมาณ 28.54% รองลงมาคือ Gen X ซึ่งมีจำนวนใกล้เคียงคือ 27% และ Gen Z มีสัดส่วน 22% ส่วนกลุ่มประชากรอื่นนั้นน้อยกว่าและมีแนวโน้มลดลง
เจนวาย (Generation Y) เป็นกลุ่มคนที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีไอที จัดว่าเพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน มีลักษณะนิสัยชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไข คนกลุ่มนี้ต้องการความชัดเจนในการทำงาน อีกทั้งยังมีความสามารถในการทำงานที่เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร และยังสามารถทำงานหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน
เมื่อคนเจน Y มีความสำคัญและศักยภาพสูงขนาดนี้จึงทำให้หลายธุรกิจต่างหันมาให้ความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ประกอบการหลายรายปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อรองรับความต้องการของคนกลุ่มนี้ซึ่งจะกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญต่อไป
TerraBKK ได้ทำการสำรวจความต้องการที่อยู่อาศัยของ Generation Y ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล พบว่า ส่วนใหญ่อยากซื้อบ้านเดี่ยวราคา 1-2 ล้านบาท สวนทางกับกำลังซื้อที่แท้จริง ทำให้ปีนี้ทาวน์โฮม ราคา 1.2-2.3 ล้านบาท จะเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากคน Gen Y มากกว่าคอนโดมิเนียมในระดับราคาเดียวกัน
สุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ เว็บไซต์ TerraBKK.com กล่าวว่า จากผลสำรวจพฤติกรรมคน Gen Y และพฤติกรรมการค้นหาบ้านของผู้ใช้งานเว็บไซต์ TerraBKK.com ชี้ให้เห็นว่าในปีนี้ตลาดทาวน์โฮม ราคา 1.2-2.3 ล้านบาท จะได้รับความนิยมจากคน Gen Y มากกว่าคอนโดมิเนียมในระดับราคาเดียวกัน เนื่องจากคน Gen Y ส่วนใหญ่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ส่วนตัวและไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมือง แต่ยังสามารถเดินทางเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างสะดวก โดยคาดการณ์ปีนี้ ผู้พัฒนาอสังหาฯรายใหญ่หลายบริษัท ปรับกลยุทธ์ วางแผนพัฒนาโครงการทาวน์โฮม บริเวณเมืองรอบนอกมากขึ้น คาดว่า ปีนี้ตลาดทาวน์โฮมจะครองสัดส่วนราว 30%
สำหรับข้อมูลผู้ใช้งานในกลุ่ม Gen Y ที่ค้นหาข้อมูลบ้านมือสองและโครงการใหม่ในเว็บไซต์ TerraBKK.com พบว่า ส่วนใหญ่กว่า 51% ค้นหาทาวน์โฮม ราคา 1.5-3 ล้านบาท ทำเลสมุทรปราการ /ลาดพร้าว-บางกะปิ / แจ้งวัฒนะ-ดอนเมือง ,รองลงมาเป็น บ้านเดี่ยว 34% ราคา 3-6.5 ล้านบาท ทำเลจตุจักร-ประชาชื่น / ตากสิน-ธนบุรี / แจ้งวัฒนะ-ดอนเมือง
อย่างไรก็ดี นอกจากการปรับสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย การสร้างแบรนด์ให้มีเอกลักษณ์ แตกต่าง และเป็นที่จดจำ คือเรื่องที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายเล็กและรายใหญ่ ไม่ควรมองข้าม และต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ
ดร. วสุพล ตรีโสภากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยู รีเสิร์ช จำกัด กล่าวว่า ผลสำรวจพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์คน Gen Y อายุระหว่าง 25-37 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มวัยเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดแรงงานและเริ่มมีกำลังซื้อที่อยู่อาศัย จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 500 คน ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า คน GenY กว่า 54% ยังไม่คิดจะซื้อที่อยู่อาศัยในเร็วๆนี้ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่าง 18,000-35,000 บาทต่อเดือน และยังไม่มีเงินเก็บที่เพียงพอ เพราะปัจจุบันมีภาระหนี้จากบัตรเครดิต ผ่อนรถยนต์แต่ละเดือนอยู่ในระดับสูง
ขณะที่ 46% มีความคิดเรื่องการซื้อที่อยู่อาศัยภายใน 3 ปี โดย 57% อยากซื้อบ้านเดี่ยว, รองลงมาเป็น ทาวน์โฮม 48.7%, คอนโดมิเนียม 30.7% และ บ้านแฝด 15.8%
ทั้งนี้จากการสำรวจสามารถจัดคน GenY ได้ 4 กลุ่ม ได้แก่
• Smart Choice : วางแผนการเงินเพื่อสร้างครอบครัวใหม่ ชื่นชอบเทคโนโลยี
• Peace in Mind : กังวลเรื่องในอนาคต เอกลักษณ์ส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ
• WE Oriented : คำนึงถึงภาพลักษณ์ทางสังคม และคนในครอบครัว
• Quality Seekers : ความมั่งคั่งเป็นเป้าหมายในชีวิต ใส่ใจในทุกรายละเอียด
ซึ่งจากผลสำรวจความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของคน Gen Y ทั้ง 4 กลุ่มนี้ พบว่า กลุ่ม Smart Choice มีแนวโน้มในการซื้อที่อยู่อาศัยในอีก 3 ปีข้างหน้ามากที่สุด เพราะต้องการมีที่อยู่อาศัยของตัวเอง เพื่อแยกครอบครัว และวางแผนมีลูกในอนาคต ประเภทที่สนใจซื้อ 3 อันดับแรก ได้แก่ บ้านเดี่ยว 40% ,ทาวน์โฮม 26% และคอนโดฯ 17% และตั้งงบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัย 3 อันดับแรก ได้แก่ 1-2 ล้านบาท อยู่ที่ 40%, 2-3 ล้านบาท อยู่ที่ 30% และ 3-5 ล้านบาท อยู่ที่ 20%
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า Gen Y ส่วนใหญ่กว่า 95% เห็นว่าแบรนด์มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย โดย 3 อันดับแรกที่ผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์คน GenY มากที่สุด ได้แก่ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, พฤกษา และ แสนสิริ
สำหรับสื่อที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของคน Gen Y 5 อันดับแรก ได้แก่ คำแนะนำจากคนใกล้ชิด 27%, สื่อออนไลน์ 19%, สื่อออฟไลน์ 18%, สื่อจากผู้พัฒนาอสังหาฯ 15% และโฆษณาทางโทรทัศน์ 11%
เห็นหรือยังว่า อิทธิพลคนเจนY ไม่เบาทีเดียว
