Biznews

5 วิธีคลายเครียดในที่ทำงาน

ในวันที่ 1 ไฤษภาคมของทุกปีกำหนดให้เป็นวันแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนทุกภาคส่วน ก่อนหน้านี้ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ผยผลสำรวจสถานะแรงงานไทยจากการสอบถามกลุ่มแรงงานที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน จำนวน 1,194 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า ภาระหนี้สินครัวเรือนของแรงงานไทยปี 61 มีมูลค่าสูงสุดในรอบ 10 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 52 โดยเฉลี่ยแรงงานเป็นหนี้ 137,000 บาท/ครัวเรือน เพิ่มขึ้น 4.95% เทียบกับปี 60 แบ่งเป็นกู้หนี้ในระบบสัดส่วน 65.4% ดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณ 10.6% ต่อปี และกู้หนี้นอกระบบสัดส่วน 34.6% ดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณ 20.1% ต่อเดือน

นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ตอบ 96.0% ยังมีภาระหนี้ ซึ่งเป็นสัดส่วนการตอบที่สูงสุดในรอบ 10 ปีเช่นกัน โดยสาเหตุของการก่อหนี้ ส่วนใหญ่ 36.1% ระบุเป็นหนี้เพื่อใช้จ่ายทั่วไป รองลงมาก่อหนี้เพื่อซื้อทรัพย์ เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ก่อหนี้เพื่อลงทุน ก่อหนี้เพื่อซื้อบ้าน ก่อหนี้เพื่อรักษาพยายาบาล และก่อหนี้เพื่อใช้เงินกู้ ขณะที่การผ่อนชำระหนี้ของแรงงานไทยพบว่า มีการใช้หนี้ต่อเดือนประมาณ 5,326 บาท และเมื่อถามว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาเคยผิดนัดผ่อนชำระหรือไม่ ส่วนใหญ่ 85.4% ตอบเคยผิดนัดชำระ สาเหตุจากรายได้ลดลง ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ราคาสินค้าแพงขึ้น ภาระหนี้สินมากขึ้น และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น

จากผลสำรวจดังกล่าวทำให้แรงงานไทยตกอยู่ในความเครียดเป็นอย่างมาก ดังน้ัน กรมควบคุมโรค ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพของคนทำงาน ที่เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ และในปัจจุบันพบปัญหาความเครียดจากการทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ บางรายที่มีความเครียดสูงและเรื้อรัง อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตและโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบถึงความสัมพันธ์กับคนรอบตัวรวมถึงประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดลง

สำหรับสาเหตุของความเครียดในที่ทำงาน ส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยทางบุคคล องค์กร และสภาพแวดล้อม เช่น ปริมาณงานที่มาก ช่วงระยะเวลาการทำงานนาน ความสัมพันธ์ในองค์กรไม่ดี มีระเบียบมากไป ความคาดหวังในความมั่นคงและความก้าวหน้าในการทำงาน เป็นต้น นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น อยู่ในที่ที่มีการระบายอากาศไม่เหมาะสม สภาพการทำงาน/โต๊ะทำงานที่ไม่เหมาะสม มีเสียงรบกวน และแสงสว่างไม่เพียงพอ ก็เป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดได้เช่นกัน

กรมควบคุมโรค ขอแนะนำวิธีการป้องกันความเครียดที่เกิดจากที่ทำงาน ดังนี้ 1.ค้นหาปัญหา โดยการประชุมกลุ่มในที่ทำงาน อาจจะเป็นกลุ่มเล็กๆ ก่อน ซึ่งจะทำให้ทราบปัญหาที่เกิดขึ้นได้ การทำแบบสอบถามงานที่ก่อให้เกิดความเครียด การสำรวจวันลา/หยุดงาน ความเจ็บป่วยและการเปลี่ยนงาน พร้อมวิเคราะห์สภาพปัญหานั้นๆ 2.วางแผนและแก้ไข เมื่อทราบปัญหาเราก็จะทราบแนวทางแก้ไข พร้อมแจ้งให้พนักงานทราบแนวทางรวมถึงผลที่จะได้รับ และ 3.การประเมินผลหลังจากปฏิบัติตามแผนแล้ว

นอกจากวิธีในการป้องกันความเครียดแล้ว ขอแนะนำ 5 วิธีคลายเครียดในที่ทำงาน โดยเริ่มจากความกล้าเผชิญหน้ากับความเครียดจากงานในองค์กรและจากเพื่อนร่วมงาน ดังนี้ 1.การทำงานเป็นกะหรือลดวันทำงานในสัปดาห์ (ลดวันทำงานใน 1 สัปดาห์ แต่ชั่วโมงการทำงานรวมเท่าเดิม) 2.ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสม 3.สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน มีการพูดคุย จัดกิจกรรมต่างๆ ที่สานสัมพันธ์คนในองค์กร 4.ระหว่างครอบครัวกับที่ทำงานต้องมีความสมดุล วางแผนแบ่งเวลา ปรับวันหยุดให้ตรงกัน และ 5.จัดอบรมหรือสัมมนา เพิ่มความรู้และศักยภาพคนทำงาน เปิดโอกาสให้บุคลากรถามข้อมูลสงสัยหรือตอบกลับองค์กรได้

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: