BiznewsColumnist

‘3 ข้อคิด’ คิดแบบนี้! ธุรกิจไม่มีเจ๊ง

ผู้ประกอบการที่พาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จเรียกว่าหลุดพ้นช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของการสร้างธุรกิจให้อยู่รอดได้ พวกเขาคิดอะไร ณ ขณะนั้น คิดหรือทำแบบไหนจึงรอดมาได้ ไปดูกัน
.
#1_ยึดมั่นในหลักการของธุรกิจแต่ไม่ยึดติดในวิธีการ
.
ผู้ประกอบการที่พาธุรกิจก้าวข้ามผ่านคำว่าเจ๊ง หรือสร้างธุรกิจให้เป็นที่รู้จักได้ และประสบความสำเร็จ พวกเขาคิดและกระทำเสมอในเรื่องของการยึดมั่นในหลักการของธุรกิจ
.
พวกเขาคิด ค้นหาและสร้างตัวตนของธุรกิจให้ชัดเจนว่า “ธุรกิจเกิดมาเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า” และการแก้ไขปัญหานั้นพวกเขาเลือก Solution ที่ตนเองเก่งและเจ๋งที่สุด เรียกว่า คิดเสมอว่าตนเองเก่งอะไรก็ทำอันนั้น ยกย่องและเชิดชูสิ่งนั้นให้เด่นชัดในสายตาของลูกค้า
.
ผู้ประกอบการที่ดีจึงยึดมั่นในหลักการหรือความสามารถของธุรกิจ แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาไม่เคยยึดติด นั่นคือ วิธีการ หรือการปฏิบัติ พวกเขาพร้อมเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เรียกได้ว่าแบบกิ้งก่าเลยครับ พร้อมเปลี่ยนสีตามสถานการณ์หรือเหตุการณ์แวดล้อมต่างๆ
.
วิธีการของการแข่งขันทางธุรกิจจึงปรับเปลี่ยนสลับไปมาได้เสมอ ไม่ใช่ยึดติดกับวิธีการเดิมๆ ที่เคยใช้ไปแล้ว คู่แข่งขันเห็นภาพหมดแล้วแบบรู้ไส้รู้พุง รวมถึงลูกค้าก็เบื่อแล้วด้วยเช่นกัน
.
ผู้ประกอบการหรือธุรกิจที่ยอดเยี่ยม เราจะพบว่าพวกเขาสรรหาวิธีการทำธุรกิจแบบใหม่นำเสนอในสายตาลูกค้าเสมอ และมันสร้างความแปลกใจให้กับคู่แข่งขัน เพราะคิดตามแทบไม่ทัน เรียกว่าปรับเปลี่ยนจนเกิดความปั่นปวนในสมองของคู่แข่งขัน และปาดหน้าคว้าชัยชนะไปที่สุด
.
ดังนั้นพวกเขาจะยึดมั่นในหลักการ ตัวตน หรือความสามารถหลักของธุรกิจเสมอ มุ่งมั่นและพัฒนาสิ่งนั้นให้เหนือกว่ายิ่งขึ้นๆ ในทุกๆ วัน เรียกว่า พวกเขาเก่งในสิ่งที่เป็นมากขึ้น และพัฒนาวิธีการใช้งานความเก่งนั้นเสมอจนคู่แข่งขันตามไม่ทัน และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า พวกนี้จึงเป็น Order Winner หรือผู้ชนะในตลาด

 

.
#2_ให้ความสำคัญกับการหยุดพักและคิดให้คมมากขึ้น
.
โลกของการแข่งขันทางธุรกิจ เป็นอะไรที่วุ่นวาย หรือเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทุกๆ วัน ผู้ประกอบการ ทีมงานและธุรกิจ คิดจนสมองแทบแตกในแต่ละวินาทีเพื่อสร้าง The best solution or exit
.
เป็นการสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาหรือการหาทางออกให้กับปัญหาในการดำเนินงานทางธุรกิจ เพื่อยกระดับการดำเนินกลยุทธ์และสร้างความพึงพอใจให้เกิดขึ้นกับลูกค้าของพวกเขา
.
ยิ่งการเป็นผู้ประกอบการจะทำให้คุณต้องคิดแบบ 24/7 (24 ชั่วโมงต่อวันและ 7 วันต่อสัปดาห์) คุณและทีมงานแทบไม่มีเวลาพักที่จะคิดเลย
.
แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จนำมาใช้ คือแนวคิดแบบคิดจะพักคิดถึง Kit Kat เดี๋ยวๆ หมายถึง รู้จักพัก นั่นเองครับ
.
เมื่อความวุ่นวายในการคิดกลยุทธ์เกิดขึ้น หรือสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะไม่ใช่กระต่ายตื่นตูม ที่รีบแก้ไขปัญหาด้วยความรวดเร็วเสมอไป บางครั้งผู้ประกอบการจะหยุดนิ่งไปสักพัก หรืออาจจะพักใหญ่ๆ เลยครับ การหยุดนิ่งทำให้เกิดสมาธิและโฟกัสในเรื่องที่สนใจมากขึ้น พวกเขาจะหยุดนิ่งและใช้เวลาในการคิดให้คมขึ้นนั่นเอง
.
ลองนึกภาพเวลาคนที่กำลังเล่นหมากรุก นักหมากรุกชั้นเซียนจะเดินเกมอย่างรวดเร็วถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทั้งการสร้างกับดักให้คู่แข่งขันเดินตาม การเดินเพื่อปิดมุม หรือสร้างช่องทางในการรุกฆาตมันไม่ได้ต่างกับการทำธุรกิจเลย
.
แต่เมื่อใดก็ตามที่คู่แข่งขันไหวตัวทันและเปลี่ยนเกมบนหน้ากระดานได้ นักหมากรุกชั้นเซียนจะใช้เวลามากขึ้น พวกเขาจะนิ่งเงียบอย่างสงบ ภายใต้ความสงบนั้นพวกเขาจะดำดิ่งลงไปในก้นบึ้งของสมองและจิตวิญญาณ เพื่อที่จะคิดให้ลึกขึ้น รอบคอบขึ้น และขัดเกลาความคิดอย่างแหลมคม
.
ทำให้หมากตาต่อไปที่เขาเดินสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และเปลี่ยนหน้ากระดานไปสู่เส้นทางใหม่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เขาต้องการเช่นเดิม นั่นคือ ชัยชนะ
.
#3_หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น
.
ผู้ประกอบการที่ยอดเยี่ยม พวกเขาไม่ใช่นักรบในรูปแบบ Viking ที่จะวิ่งเข้าชนกับทุกปัญหา หรือตัดสินกันแบบนักรบทุกสมรภูมิ
.
พวกเขาระลึกเสมอว่าเมื่อใดควรชนด้วยพละกำลัง เมื่อใดควรใช้สมอง เมื่อใดควรนิ่งสงบ และเมื่อใดควรหนี
.
ไม่ใช่ทุกครั้งที่ธุรกิจจะต้องทำอะไรเท่ห์ๆ หรือเสี่ยงๆ เสมอไป บางครั้งการวิ่งหนี หรือหลบหนีความเสี่ยงอาจดีกว่าในบางสถานการณ์ อย่างน้อยมันก็ทำให้ธุรกิจอยู่รอดในช่วงที่ไม่ควรทำอะไร และรอวันที่จะเก็บเกี่ยวผลลัพธ์อาจดีกว่าด้วยซ้ำไป
.
ช่วงที่ตลาดขาลง ผู้ประกอบการอาจเลือกที่จะไม่ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือลงทุนอะไรใหม่ในการสร้างยอดขายเพิ่ม งดการใช้จ่ายเงินในการสร้างยอดขายที่มีความเสี่ยงหรือไม่รู้ว่าผลลัพธ์หรือผลตอบแทนจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่
.
พวกเขาจะเลือกเส้นทางที่ดูง่ายกว่า ถึงแม้ไม่เท่ห์แต่ก็ไม่อดตาย เช่น การขุดของเก่ามาขาย หรือการเอากลยุทธ์เก่าที่เคยประสบความสำเร็จมาใส่ตะกร้าล้างน้ำแล้วลองขายใหม่
.
เพราะสินค้าหรือสิ่งที่คนเคยรู้จักและมีภาพลักษณ์ที่ดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามมันใช้งบประมาณการตลาดที่น้อยกว่า บวกลบคูณหารแล้วยังเห็นกำไรขั้นต้นๆ เป็นกอบเป็นกำ มากกว่าการทดลองอะไรที่เสี่ยงๆ ในช่วงที่ตลาดขาลงหรือตลาดยังไม่พร้อม
.
#3วิธีคิดธุรกิจไม่มีวันเจ๊ง
1.ยึดมั่นในหลักการของธุรกิจแต่ไม่ยึดติดในวิธีการ
2.ให้ความสำคัญกับการหยุดพักและคิดให้คมมากขึ้น
3.หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น
.
อ่านกันแล้วชอบข้อไหนที่สุด แชร์กันมาเลย สำหรับผม ชอบข้อ 1 และรักข้อ 3 เพราะมัน sexy มีเสน่ห์มากในการทำธุรกิจ
.
ที่มา : ดร.ทอย
#Drtoyสปอยส์ธุรกิจ

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button
X
%d bloggers like this: