ไม่ยอมหมดหวัง!ไปรษณีย์ไทย เปิดบริการเก็บเงินปลายทาง
ดิ้นสู้ฟัดมากมายสำหรับ “ไปรษณีย์ไทย” ที่ต้องถูกคู่แข่งมากหน้าหลายตาเข้ามาเบียดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยไปหันมานิยมช้อปออนไลน์กันมากขึ้นทำให้ธุรกิจขนส่งเติบโตเป็นอย่างมาก ไปรษณีย์ไทย ในฐานะผู้ประกอบการรัฐวิสาหกิจสำคัญของไทยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการต่างๆ มากมายไล่มาตั้งแต่การเปิดให้บริการทุกวันแบบนอนสต็อป การเพิ่มบริการจัดส่งสินค้าใหม่ๆ เช่น ปลากัด
ล่าสุด ไปรษณีย์ไทย เปิดให้บริการ เก็บเงินปลายทางด้วยการจับมือกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ผ่านระบบสมาร์ทเพย์เมนท์เก็บเงินปลายทาง สำหรับผู้ใช้บริการอีเอ็มเอสในประเทศ โดยผู้ส่งจะได้รับเงินโอน ภายใน2 วัน หลังจากสิ่งของถึงผู้รับ ตลอดจนยังสามารถชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่น และยังมั่นใจทุกขั้นตอนด้วยระบบเอสเอ็มเอสแจ้งเตือนผู้ส่งและผู้รับ พร้อมเช็คสถานะสิ่งของได้ตลอดเส้นทางอีกด้วย
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ได้เปิดให้บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) สำหรับผู้ใช้บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในประเทศ ผ่านแอปพลิเคชัน Wallet@POST ซึ่งผู้รับสินค้าสามารถเลือกชำระได้ 3 รูปแบบ คือ เงินสด โมบายแบงก์กิ้ง (Mobile Banking) และชำระผ่านแอป Wallet@POSTโดยกำหนดวงเงินเรียกเก็บสูงสุด 3 หมื่นบาทต่อชิ้น โดยที่ผู้ส่งจะได้รับเงินโอนผ่านแอป ภายใน 2 วันหลังจากสิ่งของส่งถึงผู้รับและชำระเงินเรียบร้อย และจะมีเอสเอ็มเอส (SMS) แจ้งผู้ส่งและผู้รับเมื่อมีการชำระเงินแล้ว
ทั้งนี้ บริการเก็บเงินปลายทาง เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2561พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมเก็บเงิน3% ของมูลค่าสินค้า จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 โดยในช่วงเดือนแรก มีจำนวนธุรกรรมมากกว่า 1 แสนรายการ และคาดว่าตลอดช่วง 3 เดือนแรกของการเปิดให้บริการ จะมีจำนวนธุรกรรมมากกว่า 2.5 แสนรายการ
บริการดังกล่าว ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยระบบของ 2C2P ผู้นำในการให้บริการ Online Payment แบบครบวงจรในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อตอบสนองผู้ใช้บริการในด้านธุรกรรมทางการเงินให้สามารถ ‘เติม โอน ถอน จ่าย…ง่ายแค่ปลายนิ้ว’ โดยมีพันธมิตรสำคัญได้แก่ธนาคารชั้นนำของประเทศ คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นธนาคารหลักในการเชื่อม Wallet@POST ไปยังบัญชีธนาคารของลูกค้า ทำให้สามารถโอนเงินจาก Wallet@POST เข้าบัญชี SCB ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ขณะที่การโอนเข้าบัญชีธนาคารอื่น หรือรับเงิน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ โดยมีค่าธรรมเนียมครั้งละ 20 บาท
ทั้งนี้ การพัฒนาบริการเก็บเงินปลายทางในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของไปรษณีย์ไทย ในฐานะผู้ให้บริการพัสดุเก็บเงินปลายทาง (พกง.) รายแรกเป็นเวลานาน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากขึ้น โดยในอนาคต ไปรษณีย์ไทย มีแผนขยายให้ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการดังกล่าว คู่กับบริการส่งประเภทอื่นได้ และภายในปี 2562 ไปรษณีย์ไทย ยังเตรียมพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ เพื่อรองรับการใช้งานในด้านอื่นๆ มากขึ้น อาทิ การชำระค่าภาษีศุลกากรสิ่งของส่งไปรษณีย์ขาเข้า ค่าสาธารณูปโภค รวมถึงค่าสินค้าและบริการจากร้านค้าที่ร่วมรายการ เป็นต้น