ท่ามกลางยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ที่รายล้อมอยู่รอบตัว การก่อกำเนิดของค่ายอสังหสริมทรัพย์ขนาดกลางอย่าง ENRICH หนึ่งในบริษัทบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารของคนรุ่นใหม่ ก่อตั้งในปีพ.ศ.2548 ก็น่าจับตามองไม่แพ้รุ่นพี่แต่อย่างใด ด้วยที่ผ่านมาบริหารโครงการเอ็นริช พาร์ค ปิ่นเกล้า (ENRICH PARK) มูลค่าโครงการกว่า 2 พันล้านบาท จำนวน 105 ยูนิตโครงการธารา ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า (TARA) มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ด้วยจำนวนยูนิต 380 และโครงการเดอะมาร์ค ปิ่นเกล้า(THE MARQ) มูลค่าโครงการ 560 ล้านบาท จำนวน 26 ยูนิต ภายใต้แนวคิด “Creating Your Practical Life”
เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ในพื้นที่ชีวิตที่สามารถปรับเปลี่ยนเข้ากับไลฟ์สไตล์ครอบครัวรุ่นใหม่ ปัจจุบันบริหารงานโดย เจนที่ 3 ของครอบครัวอย่าง “สุพิชา พงศ์ศีลธน” หญิงสาวร่างเล็กแต่ทว่าใจใหญ่
คุณเบล – สุพิชา พงศ์ศีลธน ผู้บริหารหญิงรุ่นใหม่จากกลุ่มบริษัทเอ็นริช ซึ่งหากพูดถึงประสบการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว เธอถือเป็นผู้หนึ่งที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานกับโครงการหมู่บ้านระดับพันล้านในย่านถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งธนบุรี ภายใต้การบริหารของบริษัทในเครือเอ็นริช ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ ได้แก่ ENRICH PARK ปิ่นเกล้า, TARA ราชพฤกษ์ – ปิ่นเกล้า และล่าสุด THE MARQปิ่นเกล้า
ปัจจุบันคุณเบลดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ รับหน้าที่ดูแลด้านงานบริหารโดยรวมของกลุ่มบริษัททั้งหมด โดยเข้ามาร่วมบริหารธุรกิจของครอบครัว ตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี ด้านInformation Systems จาก The University of Melbourne ประเทศออสเตรเลีย ในปี พ.ศ.2549แม้จะเรียกว่าข้ามมาทำงานที่แตกต่างจากสิ่งร่ำเรียนมา แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะพลิกฟื้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว ทำให้คุณเบลมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้งานอย่างจริงจัง พัฒนาศักยภาพในการบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งความน่าเชื่อถือ และการรับฟังคำแนะนำต่างๆ ของลูกค้่ามาปรับปรุงและไม่หยุดยั้งในการนำนวัตกรรม รวมทั้งแนวคิดในการสร้างบ้านที่สามารถปรับประโยชน์ใช้สอยได้อย่างหลากหลาย มาผสานในทุกๆ โครงการ จากประสบการณ์กว่า 10 ปีที่ผ่านมา หล่อหลอมเธอจนอาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง “สาวแกร่ง” ของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยก็ว่าได้
การดูแลโครงการหมู่บ้านระดับพันล้านถึง 3 โครงการในเวลาไล่เลี่ยกัน ได้ส่งความท้าทายมาให้คุณเบลได้เดินหน้าพัฒนาการทำงานอย่างไม่หยุดนิ่ง พร้อมด้วยทีมงานที่มีความสามารถคอยเป็นกำลังสนับสนุนที่ดี ส่งผลให้ทุกโครงการภายใต้การสร้างสรรค์และการบริหารของกลุ่มบริษัทเอ็นริชได้รับการตอบรับอย่างดีและสามารถปิดการขายได้ตามเป้าหมายทุกโครงการด้วยคำนึงถึงการซื้อบ้านซักหลังนั้น เปรียบเสมือนพื้นที่ชีวิตที่ต้องอยู่กับผู้ซื้อไปยาวนานไม่ต่ำกว่า 20 ปีคุณเบลและทีมงานจึงคำนึงถึงหลัก “Practical Life” ในทุกๆ รายละเอียด ด้วยการให้ความสำคัญไปกับการพัฒนาโปรดักต์ ปรับแบบให้พื้นที่ใช้สอยเหมาะกับการอยู่อาศัยจริงๆ ให้มากที่สุด การตกแต่งภายในจึงเน้นความเรียบหรู และสามารถปรับให้เข้ากับรสนิยมของเจ้าของบ้านได้ง่าย รวมทั้งคำนึงถึงพื้นที่สีเขียวที่จะมอบความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของบ้านอีกด้วย
ระยะเวลากว่า 12 ปี ที่เอ็นริชพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและเปิดขายไปแล้ว 3 โครงการในพื้นที่โซนตะวันตก ย่านถนนกาญจนาภิเษก ได้รับการตอบรับที่ดีจึงเดินหน้าเตรียมพัฒนาโครงการเพิ่มอีก 2 โครงการในปี 2561 โดยโครงการแรกในช่วงต้นปีหน้าคือ โครงการคูณ ราชพฤกษ์ (KUUN) ตั้งอยู่ในโซนตะวันตก ใกล้วงเวียนพระราม 5 ริมถนนราชพฤกษ์ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นครึ่ง มีจำนวน 20 ยูนิตเท่านั้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 13.99 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ถือได้ว่าเป็นการส่งต่อความสำเร็จจากโครงการเดอะมาร์ค ปิ่นเกล้า ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีกับรูปแบบบ้านสไตล์ Urban Luxury
ส่วนโครงการถัดไปคือโครงการคอนโดมิเนียมซึ่งถือเป็นคร้ังแรกและแตกต่างไปจากสิ่งที่เคยทำมาก่อนน่ันคือบ้านเดี่ยว แต่คุณเบลยืนยันว่าในเชิงธุรกิจจำต้องมีทางเดินต่อเนื่องซึ่งต้องมีการทำการบ้านเพิ่มขึ้นมีการเตรียมความพร้อมเพื่อปิดจุดเสี่ยงให้มากที่สุดและใช้มืออาชีพเข้ามาช่วย คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ราวต้นปีหน้าเช่นเดียวกัน และแน่นอนเธอมีที่ดินพร้อมลงทุนอยู่ในมือร่วม 10 ไร่
คุณเบล ให้เหตุผลสำคัญที่ทำให้โครงการต่างๆ ของเอ็นริช อยู่บนพื้นที่ในโซนกรุงเทพฝั่งตะวันตกนั้นส่วนหนึ่งมาจากการที่ครอบครัวมีรากฐานอยู่ในโซนนี้และเก็บสะสมที่ดิน (แลนด์แบงก์) ในทำเลที่คุ้นเคยมาต่อเนื่อง แต่การพัฒนาโครงการจากนี้ไปของเอ็นริช จะไม่จำกัดขอบเขตอยู่แค่โซนตะวันตก แต่พร้อมที่จะขยายการลงทุนในไปพื้นที่อื่นๆ ที่เล็งเห็นว่ามีศักยภาพ โดยจะมองหาจังหวะในการเข้าไปลงทุนอย่างเหมาะสม แม้แต่แนวรถไฟฟ้าก็ถือว่าน่าสนใจ พร้อมจะเข้าไปลงทุน
อย่างไรก็ตาม มองว่าทำเลในโซนตะวันตกยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่เชื่อมต่อกัน ทำให้มีความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น อย่างเช่นโครงการทางด่วนศรีรัช วงแหวนรอบนอกที่เชื่อมจากบางใหญ่ไปจตุจักร ช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางได้มาก ส่งผลให้มีผู้สนใจโครงการของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งมูลค่าที่ดินก็ปรับสูงขึ้นอีกด้วย
ขณะที่มุมมองต่อสถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้นั้นที่หลายคนอาจห่วงเรื่องซัพพลายล้นตลาดว่า โดยส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละโครงการ ว่าพัฒนาโครงการได้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและถูกที่ถูกเวลาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีดีมานต์อยู่ เพราะเมืองก็ขยาย ในขณะเดียวกันแนวโน้มของการขยายครอบครัวของคนเมืองก็มีสูงมากขึ้น ดังนั้นความต้องการบ้านใหม่ยังมีอยู่ แต่ว่าต้องวิเคราะห์ให้ตรงและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้ได้
สำหรับจุดแข็งที่ทำให้เอ็นริชสามารถเจาะตลาดได้เป็นอย่างดี เป็นผลมาจากการที่บริษัทเน้นพัฒนาคุณภาพโปรดักส์ และพื้นที่ใช้สอยเพื่อการอยู่อาศัยจริง ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา ส่งผลให้แม้แบรนด์จะยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากลูกค้า ตั้งแต่โครงการแรกจนปัจจุบัน
และเธอในฐานะเจน 3 ทิ้งท้ายว่า ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาเช่นทุกวันนี้ การปรับตัวให้ดีที่สุดเพื่อรองรับทุกสถานการณ์ ทำในสิ่งที่แตกต่างไปจากคนอื่น และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงจุด เอาใจเขามาใส่ใจเรา
โดยถือคติที่ว่า ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ บ้านลูกค้าก็เสมือนบ้านเราเอง
เพราะเราต้องการอะไร ลูกค้าก็ต้องการแบบนั้นด้วยเช่นกัน
