ไทยยูเนี่ยน เดินหน้ากลยุทธ์ Seachange® เข้มข้น ประกาศจัดหาปลาทูน่าแบบยั่งยืน

นายอดัม เบรนแนน ผู้อำนวยการกลุ่มด้านความยั่งยืน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เนื่องในวันทูน่าโลก 2 พฤษภาคม 2566 ไทยยูเนี่ยนประกาศเดินหน้าส่งเสริมการจัดหาปลาทูน่าที่เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพอย่างยั่งยืนภายใต้กลยุทธ์ Seachange® เพื่อสร้าง “การมีสุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ หรือ Healthy Living, Healthy Oceans” อย่างต่อเนื่องเพื่อคนรุ่นต่อไป”
ปัจจุบันปลาทูน่าในธุรกิจของไทยยูเนี่ยนสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงที่มาได้แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ และ 88 เปอร์เซ็นต์ของแบรนด์จากไทยยูเนี่ยนเป็นการจัดหาปลาทูน่าจากแหล่งที่ได้รับมาตรฐานการทำประมง (Marine Stewardship Council ; MSC) หรือ เข้าร่วมกับกรมประมงในโครงการพัฒนาการประมง (Fishery Improvement Project ; FIPs)
สำหรับพันธกิจการจัดหาปลาทูน่าอย่างยั่งยืนของไทยยูเนี่ยนมีการตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2568 ปลาทูน่าที่บริษัทจัดหาจากเรือประมงและจากคู่ค้า จะต้องแสดงให้เห็นว่ามีแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการทำงาน (Operational Best Practice) เพื่อป้องกันการทำประมงที่ผิดกฎหมาย หรือขาดการรายงานผลการดำเนินงาน ไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing ; IUU) และแรงงานทาสสมัยใหม่
“ไทยยูเนี่ยนมีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการจัดหาปลาทูน่า พร้อมทำงานร่วมกับเรือประมงที่ปฏิบัติตามกฎและใส่ใจสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน เพื่อจัดหาปลาทูน่าให้กับบริษัท โดยภายในปี 2573 เรือประมงทูน่าที่จัดหาวัตถุดิบให้กับเราทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์จะต้องดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการปกป้องปลาทูน่าสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ไม่ให้ถูกคุกคาม และได้รับการคุ้มครอง” นายอดัม กล่าว
เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลกที่นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ อร่อย และสร้างสรรค์ มาสู่ลูกค้าทั่วโลกมาเป็นกว่า 46 ปี
ปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีเกินกว่า 155,586 ล้านบาท (4,438 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแรงงานทั่วโลกกว่า 44,000 คน ที่ทุ่มเทให้กับการบุกเบิกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สร้างสรรค์และยั่งยืน
ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar, Hawesta และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ OMG MEAT เบลลอตต้า และมาร์โว่ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ UniQ®BONE และ UniQ®DHA และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบรนด์ ZEAvita
ไทยยูเนี่ยนมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “การมีสุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์, Healthy Living, Healthy Oceans” โดยให้ความสำคัญกับสุขภาพผู้คน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ท้องทะเล เราภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact: UNGC) พร้อมทั้งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) และได้รับเกียรติเป็นเป็นประธาน SeaBOS หรือ Seafood Business for Ocean Stewardship ไทยยูเนี่ยนดำเนินงานด้านความยั่งยืนโดยยึดหลักกลยุทธ์ SeaChange® ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จากผลการประเมินงานด้านความยั่งยืนปี 2565 บริษัทได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่เป็นปีที่ 9 ปีติดต่อกันและได้อันดับ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารซึ่งไทยยูเนี่ยนเคยได้ในปี 2561 และปี 2562 นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน