ด้วยข้อจำกัดในการขยายสาขาที่ค่อนข้างจำกัดของบริษัทแม่อย่างเดอะมอลล์กรุ๊ป ทำให้ เพาเวอร์มอลล์ (Power Mall) อีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่ทำรายได้ติดอันดับท็อปทรีรองจากกรูเม่ต์ ต้องขวนขวายในการขยายสาขา
ล่าสุด เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตย่านราชพฤกษ์จับมือเอสบี ดีไซน์สแควร์ ขยายสาขาใหม่ที่ เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ พื้นที่ 1,200 ตารางเมตร เป็นสาขาที่ 11 หวังเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยใช้งบลงทุนกว่า 45 ล้านบาท คาดว่าภายใน 1-2 ปีแรก จะมียอดขายเฉลี่ยที่ปีละ 300 ล้านบาทและเป็นครั้งแรกที่พาวเวอร์ มอลล์ขยายสาขานอกห้างเดอะมอลล์
จักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงการขยายสาขาของ เพาเวอร์มอลล์ว่า เป็นการผนึกกำลังร่วมกับ SB Design Square เพื่อขยายเป้าหมายทางธุรกิจในการพัฒนา Home Living Lifestyle ที่มีเป้าหมายเหมือนกันในทั้ง 2 ธุรกิจ โดยสร้างคอนเซ็ปต์การให้บริการรูปแบบใหม่ของ เพาเวอร์มอลล์ ที่ตอบโจทย์ความครบของการแต่งบ้าน ภายใน SB Design Square สาขา เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์
ด้วยศักยภาพ สาขานี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมการแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดบนถนนราชพฤกษ์ และครบถ้วนไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ สินค้าแต่งบ้าน และบริการช่วยออกแบบตกแต่งครบวงจร นับเป็นความสมบูรณ์แบบที่ทำให้เราสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ร่วมกันในการให้บริการแบบ One Stop Service ที่จะกลายเป็นจุดแข็งร่วมกันระหว่าง เพาเวอร์มอลล์ และ เอสบี ดีไซน์สแควร์ ด้วยการนำเสนอไอเดียการแต่งบ้านที่สามารถเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าไปด้วยเทคโนโลยี Digital Mapping 3D รวมถึงการให้บริการส่งสินค้าแบบ “เดลิเวอร์รี่” (Delivery) ส่งทุกวันภายใน 24 ชั่วโมง รวมถึงการให้บริการพิเศษต่างๆ จากเพาเวอร์มอลล์ อาทิ บริการให้คำปรึกษา และคำแนะนำจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ การสาธิตวิธีใช้งานอย่างมืออาชีพ, การติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญการ, การรับประกันราคา และยังเป็นศูนย์บริการที่รับส่งซ่อมสินค้าไปยังแบรนด์ชั้นนำต่างๆ
ขณะที่แผนการทำตลาดในปี 2561 เพาเวอร์มอลล์มีเป้าหมายขยายสาขาอย่างน้อย 2-3 แห่งพื้นที่ตั้งแต่ 1,500 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งอยู่ในระหว่างการศึกษาทำเลที่ตั้ง และมีความพร้อมที่จะขยายสาขามากขึ้นหลังจากได้ลงทุนระบบไอทีกว่า 100 ล้านบาท ระบบซัพพลายเชน ซึ่งทั้งสองส่วนมีความสำคัญที่จะช่วยในการขยายสาขาอย่างเต็มที่
ส่วนตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้ จักรกฤษณ์มองว่า ถึงสิ้นปีตัวเลขน่าจะอยู่ที่ 232,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 2% มาจากสินค้ากลุ่มโทรศัพท์มือถือซึ่งมีสัดส่วน 40% ของตลาดรวมเติบโต 3-4% กลุ่มสินค้าชิ้นเล็กในครัวเรือน เติบโตสูงถึง 15% ขณะที่สินค้าในกลุ่มอื่นๆ เติบโตขึ้นเล็กน้อย อาทิ เครื่องซักผ้า ตู่้เย็น ปีหน้าคาดว่าตลาดจะกลับมาเติบโตที่ 5% เนื่องจากผู้บริโภคมั่นใจในเศรษฐกิจมากขึ้น
ทั้งนี้ การขยายสาขาของเพาเวอร์ มอลล์ ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสำคัญ ของการสร้างจุดขายร่วมกับธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเพาเวอร์มอลล์ เป็นแคทธิกอรี่สำคัญของธุรกิจในกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ซึ่งคาดว่าสิ้นปี 2560 จะมียอดขายเติบโตกว่า 7 % หรือมีรายได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท
ด้าน นางธัญญรักข์ ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ กล่าวถึงความร่วมมือกับเพาเวอร์มอลล์เปิดสาขาใหม่ในครั้งนี้ว่า จะช่วยเสริมศักยภาพให้กับ SB Design Square ในการมุ่งสู่ความเป็น Home Design Solutions ของคนรักการแต่งบ้าน คือ เป็นศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่ง เช่น ที่นอน, ผ้าม่าน, วอลเปเปอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ พร้อมบริการช่วยออกแบบตกแต่งบ้านแบบครบวงจร
ในขณะเดียวกันความร่วมมือครั้งนี้ ยังตอบโจทย์การให้บริการ ที่สะดวกสบายมากขึ้นสำหรับลูกค้า
สำหรับ เอสบี ดีไซน์สแควร์ สาขาเดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 23,000 ตารางเมตร เป็นศูนย์รวมการแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดบนถนนราชพฤกษ์ มีรัศมีครอบคลุมพื้นที่ไปถึงย่านปิ่นเกล้า,พุทธมณฑล, บางใหญ่, ราชพฤกษ์, รัตนาธิเบศร์, เพชรเกษม ซึ่งมีโครงการหมู่บ้านและคอนโดนับร้อยโครงการ ถือเป็นเป็นโซนที่อยู่อาศัยที่มีการเติบโตสูงโซนหนึ่งของกรุงเทพฯในปัจจุบัน ตลอดการเปิดบริการกว่า 3 ปี เป็นสาขาที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง Billing Size เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 45,000 บาท และหากพิจารณาเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงคือเกิน 1 แสนบาท/ใบเสร็จ ก็พบว่ามีปริมาณมากกว่าสาขาอื่น 10-20% เลยทีเดียว และมีผู้เข้ามาใช้บริการมากกว่า 60,000 คนต่อเดือน
และจากการเก็บข้อมูลพบว่าลูกค้าที่มาซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่สาขานี้ มีความสนใจและต้องการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมค่อนข้างมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยที่อยู่ในโครงการหมู่บ้านใหม่ ซึ่งคิดว่าทาง Power Mall ก็คงเล็งเห็นโอกาสและกำลังซื้อของลูกค้าในโซนนี้เช่นเดียวกันจึงเป็นที่มาของความร่วมมือในการเปิด พาวเวอร์มอลล์ สาขา SB Design Square เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ ทำให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบถ้วนและช่วยลูกค้าให้เติมเต็มความสวยสมบูรณ์แบบของบ้านได้มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน เอสบี ดีไซน์สแควร์มีสาขาให้บริการทั้งสิ้น 12 สาขา ปี 2561 มีแผนเปิดสาขาที่ 13 บริเวณพระราม 2 ภายใต้เงินลงทุนประมาณ 700-800 ล้านบาท คาดเปิดให้บริการไตรมาสสุดท้ายของปี
การร่วมกันของทั้ง 2 ค่ายถือเป็นการเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งน่าจะเป็นกลยุทธ์สำคัญของการทำธุรกิจในยุคนี้ที่ธัญญรักข์ย้ำว่า ถือเป็นการเสนอความต่อเนื่องให้กับลูกค้าผ่านพาร์ทเนอร์แบบวิน-วิน และเธอยังมีพื้นที่ว่างเหลือให้กับพาร์ทเนอร์รายอื่นๆ ที่สนใจอีกแต่ไม่มากนัก
