BiznewsColumnistUncategorized

ไขข้อข้องใจชาวเน็ต ตำรวจ​ “จับแพะ”? 

ไขข้อข้องใจชาวเน็ต
ตำรวจ​ “จับแพะ”? 

ธนก​ บังผล

       นับตั้งแต่วันเกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนปล้นร้านทองฆ่า 3 ศพที่​ จ.ลพบุรี​ รวมเวลาทั้งสิ้น​ 14​ วัน
        เร็วหรือช้า​? ถามความรู้สึกของตัวเองแล้วตอบเลยครับ​

        แค่​ 2-3​ วันแรก​ ภาพของคนร้ายแทบจะถูกชำแหละตั้งแต่ศีรษะจรดรองเท้า​ ข้อมูลในโซเชียลหลั่งไหลเป็นสายน้ำ​ ความอุกฉกรรจ์​ โหดเหี้ยมยิงเด็กน้อยเสียชีวิต​ เป็นแรงกดดันจากความคาดหวังไปสู่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
        ยังจำได้หรือเปล่าครับว่าแค่เพียง​ 7​ วันหลังเกิดเหตุ​ ความเคลื่อนไหวต่างๆจากทางตำรวจก็ค่อยๆหยุดนิ่ง​
ท่ามกลางข้อความปรามาสของเหล่าบรรดานักสืบโซเชียลว่าคนร้ายหลบหนีออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว​
       นั่นละครับ  แค่​ 7​ วันแรก​ ก็ไม่มีใครเชื่อแล้วว่าตำรวจจะตามจับคนร้ายได้
        แต่วิธีการทำงานของตำรวจแตกต่างจากสิ่งที่หลายคนคาดหวังนะครับ​ การปฏิบัติหน้าที่ในงานสำคัญมักถูกปิดเป็นความลับ​
        ช่วงที่กระแสข่าวกำลังได้รับความสนใจและความกดดันอยู่ที่ตำรวจภูธรภาค​
          ตำรวจกองปราบซึ่งมีอำนาจสืบสวนทั่วประเทศก็ได้รับการประสานให้เข้ามาร่วมทำคดี​ นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลังจากนั้นไม่มีข่าวความคืบหน้าคดีออกมาจากตำรวจภูธรภาค​ เหมือนช่วงแรกๆครับ​
      นักข่าวที่ลงพื้นที่ไปปักหลักรอจับคนร้ายก็ยังไม่เอะใจด้วยซ้ำว่าตำรวจกองปราบได้เบาะแสสำคัญจากพลเมืองดี​ และยังชี้เป้าให้ด้วยว่าใครน่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ
        ผมจะไม่สามารถจะก้าวล่วงเปิดเผยขั้นตอน และวิธีการสืบสวนจนนำมาสู่การจับกุมนะครับ​ แต่จะเน้นไปที่ประเด็น​ “จับแพะ”  หรือไม่
       คนที่ติดตามข่าวคดีนี้ก็คงพอจะทราบว่าผ่านไป​ 1​ สัปดาห์​ ตำรวจก็เริ่มนิ่ง​ เหลือแค่​ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ​ เดินทางไป​ จ.ลพบุรี​ กับข่าวปล่อยที่บอกว่าคนร้ายเป็นลูกน้องผู้มีอิทธิพลในพื้นที่​ เดินขาเป๋เพราะประสบอุบัติเหตุจากการขับขี่บิ๊กไบค์​
         จนกระทั่งข่าวล่าสุดที่มีคือ​ วันที่​ 21​ ม.ค.​ คืนหมาหอนก่อนหนุมานกองปราบจะออกล่า ระบุว่า​ ผบ.ตร.​ขอเวลา​อีก​3​วัน​ จับคนร้ายได้แน่นอน
        แต่ความรู้สึกของชาวบ้านที่รอมานานตอนนี้เริ่มไม่เชื่อแล้วว่าตำรวจจะมีน้ำยาสามารถจับคนร้ายได้​ ถึงตรงนี้… จริงอย่างที่ผมว่าหรือเปล่าครับ
          กระแสโซเชียลปั่นคดีนี้ตั้งแต่แรกแล้วว่า​ เหตุเกิดที่​ จ.ลพบุรี​ ซึ่งเป็นเมืองที่มีค่ายทหารขึ้นชื่อเรื่องความโหด​ ก็มโนกันไปว่าคนร้ายต้องเป็นทหาร
         พอข่าวจับออกมาว่าจับคนร้ายได้แล้ว​ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง​ ผู้เสพโซเชียลมาอย่างงอมแงมเลยโต้ทันทีว่า​ “จับแพะ”
        นั่นหมายความว่า​ คนร้ายที่โซเชียลต้องการจะได้ยิน​ ต้องเป็นทหารเท่านั้น​
        ตอนเกิดเหตุวันแรกๆ​ ก็เร่งเร้ตำรวจให้จับคนร้ายได้เร็วๆ​ ต่อมาก็ไม่เชื่อน้ำยาว่าจะจับได้​ พอจับได้ก็ไม่เชื่ออีกว่าเป็นคนที่ก่อเหตุจริง
        “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้​” อัลเบิร์ต​ ไอน์สไตน์ เคยกล่าววลีนี้ไว้​ และมันก็สำคัญมากนะครับที่เราต้องใช้จินตนาการเพียงอย่างเดียว​ โดยไม่เอาอคติมาปะปนเลย
        บางคนอาจคิดว่า​ ผมเชื่อข้อมูลตำรวจ​ ต่อต้านกระแสโซเชียล​ จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ
        หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไม่โกหกใคร​ ดีเอ็นเอเป็นของใคร หลักฐานทางเทคโนโลยีไม่มีอคติกับใคร​ และร่องรอยบนโซเชียลที่คนร้ายทิ้งไว้มันย้อนกลับไปสร้างเองเพื่อปรักปรำใครไม่ได้เช่นกัน
       เพียงแต่ข้อมูลเหล่านี้มันเป็นความลับที่ตำรวจต้องเก็บไว้ประกอบสำนวนฟ้องต่อศาล​
   ไม่ใช่ว่าจับคนร้ายได้แล้วจะจบแค่นี้นะครับ​ ต่อให้ยอมรับสารภาพในวันนี้​ มันยังมีขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรม​ การพิจารณาของศาล​อีกมาก​
        ใช่ครับ… ฆาตกรหัวหมอพอขึ้นศาลแล้วกลับคำให้การก็มีไม่น้อย
         ถึงบรรทัดนี้​ ผมอยากลองถามความรู้สึกของตัวผู้อ่านอีกครั้งนะครับ​
       ตำรวจจะจับแพะมาทำไม?

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button
X
%d bloggers like this: