เมื่อแอลกอฮอล์ไม่โต! ค่ายใหญ่/เล็กเปิดศึกหันชิมลางเบียร์ไร้แอลกอฮอล์

นับเป็นตลาดและเทรนด์ใหม่ก็ว่าได้ สำหรับเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ในในเมืองไทยหลังจากมีทั้งค่ายใหญ่ ค่ายเล็กดาหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่ท้าทายความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่พิศวาสรสชาติแอกอฮอล์แต่อารมณ์อยากสังสรรค์ พบปะกับเพื่อนๆ  ซึ่งหากถือแก้วน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ก็จะดูกระไรอยู่ บวกกับกระแสรักสุขภาพที่มาแรงทำให้คนดูแลใส่ใจสุขภาพของตัวเองหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การก่อกำเนิดของเบียร์ไร้แอลกอฮอล์หรือเบียร์ 0%จึงเกิดขึ้นแบบเงียบๆ  เมื่อหลายปีมาแล้ว 

“บาวาเรีย 0.0% มอลต์ ดริ้งค์” สู้ศึกตลาดเบียร์ไร้แอลกอฮอล์

ชื่อชั้นของ“กัปตัน บาร์เรล” หากเป็นเบียร์ตลาดแมสคงจะยังโนเนม แต่หากเป็นวงการเบียร์นำเข้า ชื่อชั้นของเขาไม่เป็นสองรองใคร ด้วยประสบการณ์ที่บ่มเพาะมาเกือบ 10 ปีทำให้ช่ำชองในตลาดเบียร์ จนเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาได้นำเข้าเบียร์ไร้แอลกอฮฮล์ภายใต้ชื่อ “บาวาเรีย0.0% มอลต์ ดริ้งค์” เบียร์ไร้แอลกอฮอล์สัญชาติเนเธอแลนด์ บุกเบิกตลาดเครื่องดื่มทางเลือกใหม่ในประเทศไทย โดยตอกย้ำกระบวนการผลิตลิขสิทธิ์เฉพาะ ทำให้ได้เบียร์ศูนย์เปอร์เซ็นต์รสชาติดี ดื่มได้อย่างเพลิดเพลิน แบบกึ๊มกึ่มได้แต่ไม่เมา !

 อาชว มหามงคล กรรมการผู้จัดการบริษัท กัปตัน บาร์เรล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเบียร์พรีเมี่ยมและเครื่องดื่มชั้นนำจากทั่วโลก เปิดเผยว่า เบียร์ถือเป็นเครื่องดื่มที่ครองใจผู้บริโภคทั่วโลกตลอดกาล เพราะดื่มง่ายและมีรสชาติกลมกล่อม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการ ที่หลากหลายของคนทุกกลุ่มได้อย่างลงตัว ส่งผลให้ตลาดเบียร์ทั่วโลกมีมูลค่าสูงแตะระดับ 5.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 19.47 ล้านล้านบาท ในปี 2560 (2017) ขณะที่มีการประเมินว่าทิศทางตลาดเบียร์จะโตขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วง 6 ปีจากนี้ ตั้งแต่ปี 2562 – 2568 ตลาดจะเติบโตขึ้น ประมาณ 1.8% ดันมูลค่าพุ่งทะลุ 6.8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 22.44 ล้านล้านบาท (ข้อมูลจาก https://www.alliedmarketresearch.com/beer-market)

สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทยนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าตลาดอยู่ในภาวะชะลอตัวจากสภาพเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อยอดจำหน่ายโดยรวมในทุกเซ็กเมนต์ โดยปัจจุบันตลาดเบียร์ไทยมีมูลค่ารวม 1.8 แสนล้านบาท ทว่าท่ามกลางบรรยกาศความซบเซา กลับพบว่าเซ็กเมนต์เบียร์พรีเมี่ยม ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 6% ยังมีโอกาสและทิศทางเติบโตได้อีกมาก แม้อัตราเติบโตจะไม่หวือหวาร้อนแรง แต่ยอดจำหน่ายค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเบียร์พรีเมี่ยมนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยการบริโภคในกลุ่มมีกำลังซื้อสูง ประกอบกับความต้องการลิ้มลองรสชาติที่แปลกใหม่ ตามไลฟ์สไตล์กินดื่มของผู้บริโภคในปัจจุบัน

นายอาชว กล่าวต่อว่า ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันอันแสนดุเดือด ซึ่งส่งผลให้ผู้ผลิตเบียร์ทั้งรายใหญ่และเล็ก ต่างแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในทุกเซ็กเมนต์ รวมถึงตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย โดยปัจจุบันจากกระแสการบริโภคเครื่องดื่มที่แปลกใหม่ ทำให้เบียร์ไร้แอลกอฮอล์หรือเบียร์ 0.0% ได้รับความสนใจ และเพิ่มความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยข้อมูลจาก Global Market Insights แสดงให้เห็นว่า มูลค่าตลาดเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ในทวีปเอเชียแปซิฟิค มีมูลค่ามากกว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4.95 หมื่นล้านบาท ในปี 2559 (2016)  ซึ่งตลาดหลักในทวีปเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลีใต้และญี่ปุ่น นอกจากนี้ตลาดเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ในประเทศสหราชอาณาจักรเติบโตกว่า 15% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (อ้างอิงจากข้อมูลเว็บไซต์ beveragedaily.com) ซึ่งในตลาดโลกนั้น บาวาเรียถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเบียร์ชนิดนี้ ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ “บาวาเรีย 0.0% มอลต์ ดริ้งค์” โดยได้มีการเริ่มไลน์การผลิตตั้งแต่ปี 1978 ขณะที่ทิศทางตลาดในประเทศไทยนั้น มีทิศทางการเติบโตและความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นตามตลาดเอเชียแปซิฟิคและยุโรป 

“ในช่วงหลังที่กระแสรักสุขภาพแพร่หลายมากขึ้น ส่งผลทำให้ยอดจำหน่ายเบียร์ลดลง ในขณะที่ความนิยมเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงในประเทศไทยค่อยๆ ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ บริษัท กัปตัน บาร์เรล จำกัด จึงเริ่มนำเข้า บาวาเรีย 0.0% มอลต์ ดริ้งค์ มาจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2555 เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองความแปลกใหม่ โดยเฉพาะให้ผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลในความนุ่มลึก และความหอมสดชื่นของกลิ่นเบียร์ แต่ให้ความสำคัญกับสุขภาพร่างกาย เช่น ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เหล่านักกีฬา รวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาสุขภาพและโรคประจำตัว เช่น โรคเก๊าท์ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น”

สำหรับความพิเศษของ บาวาเรีย 0.0% มอลต์ ดริ้งค์ นั้น อาชว อธิบายว่า เป็นเครื่องดื่มมอลต์นำเข้าจากประเทศเนเธอแลนด์ ผลิตจากน้ำแร่ธรรมชาติใต้พื้นดินแหล่งเก่าแก่ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ซึ่งในน้ำแร่ที่มีแร่ธาตุสูงนั้นช่วยลดอาการขาดน้ำได้ดี เหมาะสำหรับดื่มหลังออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา เมื่อผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของโรงเบียร์บาวาเรีย กระบวนการผลิตที่ว่านี้คือ “การใช้ยีสต์หมักที่ไม่ผลิตแอลกอฮอล์” ซึ่งแต่ต่างจากผลิตภัณฑ์รูปแบบเดียวกันในท้องตลาด ที่โดยทั่วไปจะใช้วิธีการผลิตแบบเดียวกับเบียร์ปกติ แต่จะนำไปสกัดเอาแอลกอฮอล์ออกมาในภายหลัง บาวาเรีย 0.0% นี้จึงกลายเป็นเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เต็มเปี่ยมไปด้วยอรรถรสและสุนทรียภาพแห่งการดื่มด่ำ อีกทั้งยังมีรสชาติผลไม้อีก 3 ชนิด ได้แก่ รสสตรอเบอรี่ รสแอปเปิ้ล และรสเลมอน เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคอีกด้วย

ได้เวลา”ไฮเนเก้น” ลุยนอนแอลกอฮอล์ครั้งแรกในไทย

ไฮเนเก้น แบรนด์เครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก ได้เวลาเปิดตัว “เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น 0.0” (ไฮเนเก้น ศูนย์จุดศูนย์) ครั้งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ตะเวนเปิดตัวในตลาดยุโปมาพักใหญ่ๆ  เพื่อทดสอบเสียงตอบรับจากผู้บริโภค จนมั่นใจว่าสามารถไปได้ จึงตัดสินใจเปิดตัวในไทยหลังจากที่เปิดตัวในสิงค์โปร์เมื่อปีที่แล้ว

นางสาว เมาด์ ฮา.เก. เมย์โบม์-ฟาน เวิล  ผู้อำนวยการแบรนด์ไฮเนเก้นระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า “ไฮเนเก้น 0.0 เป็นเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ หมักบ่มด้วยส่วนผสมพิเศษที่ให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว ช่วยให้ผู้ดื่มเพลิดเพลินไปกับไฮเนเก้น 0.0 ได้ไม่ว่าจะช่วงใดของวัน ผลิตภัณฑ์นี้ ผลิตขึ้นมาเพื่อให้นักดื่มมีทางเลือกในการดื่มสังสรรค์ได้ทุกโอกาส และเป็นการตอกย้ำแนวโน้มวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตอย่างสมดุล นอกจากนี้ ในฐานะที่แบรนด์ไฮเนเก้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเบียร์ เราจึงอยากนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีนวัตกรรมออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยยังคงมุ่งเน้นในเรื่องของมาตรฐานคุณภาพด้วยเช่นกัน”

เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น 0.0 รองรับทั้งชายและหญิง อายุ 20 ปีขึ้นไป (ที่ถึงเกณฑ์สามารถบริโภคเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ได้ตามกฎหมาย) ผู้ชื่นชอบรสชาติเบียร์ แต่ไม่ต้องการได้รับปริมาณแอลกอฮอล์ในช่วงใดช่วงหนึ่งของวัน ไฮเนเก้น ไม่ได้หวังใช้ผลิตภัณฑ์นี้เพื่อการโฆษณา และไม่ต้องการทำอะไรที่ผิดต่อกฎระเบียบหรือกฎหมายในประเทศทั้งนั้น

เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น 0.0 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 ในประเทศเนเธอร์แลนด์ สเปนและเยอรมนี ตามมาด้วยอังกฤษและฝรั่งเศส ขณะนี้มีวางจำหน่ายในตลาด 38 แห่งทั่วโลก รวมทั้งยุโรป อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย สำหรับในเอเชีย สิงคโปร์เป็นประเทศที่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมา และประเทศไทยเป็นแห่งที่สองในเอเชียแปซิฟิค โดยหลังจากนี้จะค่อย ๆ เปิดตัวในตลาดอื่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมด้วย

นางสาวอีลิน โลห์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกลุ่มบริษัท ทีเอพี กล่าวว่า “เรามองว่า เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น 0.0 เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยตอกย้ำ Position ของเราที่มีจุดแข็งในการเป็นผู้นำทางนวัตกรรม ดังนั้น การขายเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น 0.0 ในประเทศไทย ไม่ใช่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ทดแทน แต่เป็นสิ่งที่เสริม เป็นทางเลือกให้นักดื่มเบียร์ ซึ่งคนไทยอาจยังไม่คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ และตลาดเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์นั้นเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มมาก อย่างไรก็ดี เราเห็นว่ามีแนวโน้มที่ดีของตลาดการบริโภคแอลกอฮอล์อย่างมีความรับผิดชอบ เราจึงต้องการที่จะแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีจิตสำนึกที่ดีของนักดื่ม ขณะที่ยังสนุกได้อยู่ เราอยากส่งเสริมให้ผู้ที่ชอบหรือดื่มเบียร์คำนึงถึงพฤติกรรมของตนเองเกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์เมื่อออกไปสังสรรค์ตอนกลางคืน โดยการแนะนำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น 0.0  เข้ามา ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า การดื่มอย่างมีความรับผิดชอบก็ทำให้คุณเท่ได้เช่นกัน”

สำหรับกลุ่มเป้าหมาย คือผู้ที่อายุถึงเกณฑ์ที่สามารถบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตามกฎหมาย ซึ่งได้แก่ กลุ่มคนทำงาน กลุ่มผู้ปกครองรุ่นใหม่ กลุ่มดูแลสุขภาพ และกลุ่มที่มีประสบการณ์ชีวิต ที่ไม่สามารถดื่มแอลกอฮอล์หรืออาจจะไม่ต้องการดื่มในบางเวลา โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของเรานั้นแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

• กลุ่มคนทำงาน (Professionals)  – การดื่มอย่างมีความรับผิดชอบช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อตัวเอง และภาพลักษณ์ที่คนอื่นมอง
• กลุ่มผู้ปกครองรุ่นใหม่ (Active Parent) – ครอบครัวคือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของพวกเขา แต่การมีช่วงพักหลังจากที่ได้ดูแลบุตรหลานก็สำคัญสำหรับพวกเขาเช่นกัน
• กลุ่มดูแลสุขภาพ (Health-Conscious) – การรักษาไลฟ์สไตล์ให้มีสุขภาพดีและรักษาภาพลักษณ์ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขา
• กลุ่มที่มีประสบการณ์ชีวิต (Moderate Experience) – ในช่วงนี้ของชีวิต เป็นช่วงที่การรักษาสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ พวกเขาต้องการสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต รสชาติและคุณภาพระดับพรีเมียมจึงเป็นสิ่งสำคัญ

โดยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น 0.0 จะเปิดตัวในรูปแบบกิจกรรมทางการตลาดที่ชื่อว่า “Heineken® 0.0 Barcade”  โดยงานเปิดตัวนี้จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการสื่อสารทางการตลาดของเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น 0.0  ในการที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับเสริมสร้างความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ใหม่แก่ผู้บริโภค  โดยหลังจากที่มีงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว อีกหนึ่งกลยุทธ์หลักของไฮเนเก้นก็คือกการแจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่างในวงกว้างแก่ผู้บริโภคในพื้นที่ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายทั้ง 4 กลุ่ม ได้แก่ พื้นที่สำนักงานต่าง ๆ คาเฟ่และร้านกาแฟ พื้นที่ที่มีชุมชนคับคั่งช่วงเวลาทำงาน เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีประสบการณ์กับเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น 0.0  ซึ่งจะเริ่มแจกตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป และมีต่อเนื่องตลอดไปทั้งปี 2562

สำหรับกลยุทธ์ในการแจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่างและกลยุทธ์ทางการสื่อสารตลอดทั้งปี นอกจากจะเป็นการเพิ่มการรับรู้ให้กับเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น 0.0 แล้ว ยังเป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่เข้าสู่ตลาด เพื่อกระตุ้นให้นักดื่มเกิดความเข้าใจและตระหนักถึงการดื่มอย่างมีความรับผิดชอบในปริมาณที่พอเหมาะพอควร

เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น 0.0 มีจำหน่ายใน 2 แพคเกจ ได้แก่ แบบกระป๋อง 330 มิลลิลิตร และแบบขวด 330 มิลลิลิตร ในราคาขายปลีกแนะนำ 38 บาท สำหรับประเทศไทยถือเป็นตลาดที่ใหม่มาก ๆ สำหรับผลิตภัณฑ์นี้ ไฮเนเก้นจึงไม่สามารถคาดการณ์อัตราการเติบโตได้

เลือกได้หรือยัง ว่าเครื่องดื่มตัวต่อไปในมือคุณ ยี่ห้อรัยดี