Biznews

เหล้าขาว “ตะวันแดง” เขย่าขุมทรัพย์แสนล้านเสี่ยเจริญ!!!!

เตรียมเปิดโรงงานเหล้าขาวมูลค่ากว่า 3,000 ล้านประกาศศึก

กลายเป็นอีกหนึ่งสมรภูมิที่น่าจับตาอย่างยิ่งสำหรับตลาดเหล้าในประเทศไทยที่มีมูลค่ากว่าแสนล้านบาทภายใต้การยึดครองแบบเบ็ดเสร็จเลยก็ว่าได้ โดยผู้เล่นรายใหญ่เจ้าของฉายาเจ้าพ่อน้ำเมา “เจริญ สิริวัฒนะภักดี” เจ้าของผลิตภัณฑ์ทั้งเหล้าขาว และเหล้าสีที่ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 90% ชนิดไร้คู่แข่งมายาวนาน

ล่าสุด อาณาจักรไทยเบฟอาจต้องถึงเวลาทบทวน เพราะมีแจ็คผู้อาสาจะฆ่ายักษ์อย่างบริษัท ตะวันแดง 1999 จำกัด บริษัทในเครือคาราบาวกรุ๊ป เจ้าของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง และเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงที่กำลังไล่ล่าตลาดในต่างประเทศอย่างเป็นล่ำเป็นสันหลังตลาดในประเทศเริ่มซบเซา โดยบริษัท ตะวันแดง 1999 เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มสุรากลั่น ภายใต้แบรนด์ “ตะวันแดง” ซึ่งมีโรงงานผลิตที่อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท บนพื้นที่ถึง 1,200 ไร่ ด้วยเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 3,000 ล้านบาท

ย้อนรอยไปเมื่อปีพ.ศ. 2542 หรือ คศ.1999 กลุ่มผู้บริหารได้ก่อตั้งธุรกิจโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ซึ่งเป็นธุรกิจไมโครบริวเวอรี่ขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จโด่งดังอย่างรวดเร็ว และต่อมาผู้บริหารกลุ่มนี้ได้ร่วมก่อตั้งธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการมี แอ๊ด คาราบาว หรือยืนยง โอภากุล มาร่วมเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่มีส่วนสร้างแบรนด์คาราบาวแดง ให้เข้าถึงใจกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็ว จนเป็นที่ 2 ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้าน

จากความแข็งแกร่งของแบรนด์คาราบาวแดง และนโยบายการขยายไลน์สินค้าเครื่องดื่มเพื่อเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอทั้งในแง่สินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพของทีมการตลาดและทีมกระจายสินค้าที่มีอยู่ ทำให้ตลาดสุรามูลค่ากว่าแสนล้านบาทเป็นตลาดใหญ่ที่กลุ่มคาราบาวกรุ๊ปมองว่าหากได้แชร์สัก 10% ก็เพิ่มยอดขายได้เป็นหมื่นล้านบาทแล้ว

ที่สำคัญคือ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเหล้าขาวและเครื่องดื่มชูกำลังเป็นกลุ่มเดียวกัน คือกลุ่มระดับรากหญ้า ผู้ใช้แรงงาน การที่มีพี่แอ๊ดฝังแน่นอยู่กับชื่อ คาราบาวแดง จะช่วยยึดโยงและส่งต่อไปยังแบรนด์น้องใหม่ในเครืออย่างตะวันแดงได้อย่างไม่ยากเย็น ผนวกด้วยกิจกรรมการตลาด ณ จุดขาย ที่มีประสบการณ์ความสำเร็จจากสาวบาวแดงด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความมั่นใจในการสร้างแบรนด์สินค้าน้องใหม่ได้เป็นอย่างดี

เมกะโปรเจคของคาราบาวกรุ๊ปครั้งนี้ใช้ระยะเวลาซุ่มวางแผนมานับสิบปี เนื่องจากความแข็งแกร่งของคู่แข่ง การเข้าไปท้าชนจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็คงไม่ยากจนเกินไปที่จะตอดแชร์มาทีละเล็กทีละน้อย เช่นเดียวกับเกมที่วางแผนแจ้งเกิดให้กับคาราบาวแดง ที่ไม่เน้นความหวือหวาแต่จะใช้กลยุทธ์แบบค่อยเป็นค่อยไปจนสามารถก้าวสู่อันดับสองในตลาดได้ในที่สุด

ไฮไลต์ที่แบรนด์ตะวันแดงต้องการสร้างความต่างไปจากสินค้าที่มีในตลาดเหล้าขาวปัจจุบันคือ ผลิตภัณฑ์เหล้าขาวที่วางจำหน่ายในประเทศไทยที่เราคุ้นชินเป็นฝาดึงเพื่อเปิดขวด ซึ่งบางครั้งอาจเกิดปัญหาขวดล้มทำให้เหล้าหกได้ แบรนด์ตะวันแดงได้สกัดจุดอ่อนนี้และพลิกเป็นโอกาสเพื่อสร้างความแตกต่างด้วยการใช้แพ็กเกจจิ้งแบบฝาเกลียวในไทยเป็นรายแรกเพื่อป้องกันเหล้าหกเมื่อเกิดเหตุการณ์ขวดล้ม เป็นต้น

ขณะที่ราคาขายปลีกยังถือว่าถูกกว่าผู้นำตลาดอีกด้วย โดยเหล้า 40 ดีกรี ขวดใหญ่ตั้งราคา 100 บาท และขวดเล็ก 50 บาท แต่แบรนด์รวงข้าวของค่ายเสี่ยเจริญ ตั้งราคาไว้ที่ 110-120 บาทสำหรับขวดใหญ่และขวดเล็ก 60 บาท

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีแต้มต่อตรงไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ เพราะมีทีมงานแข็งแกร่ง มีพรีเซ็นเตอร์อย่างแอ๊ด คาราบาวที่แม้จะโฆษณากันโต้งๆไม่ได้ แต่ภาพของแอ๊ด คาราบาวก็ผูกติดกับแบรนด์คาราบาวแดงอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเชื่อมโยงไปถึงแบรนด์น้องใหม่ผ่านการทำกิจกรรมรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่โฆษณา

แต่สิ่งที่ยากของแบรนด์น้องใหม่นี้ อยู่ที่ความแข็งแกร่งของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจในเครือเจริญ สิริวัฒนภักดี โดยเฉพาะเอเย่นต์ที่แข็งแรงแน่นหนาและทั่วถึง ไปจนถึงทีมกระจายสินค้าที่แข็งแกร่งอย่างเสริมสุข และที่สำคัญคือ เงินทุนมหาศาล

งานนี้ต้องจับตากันทั้งด้านแผนการเจาะตลาดของผู้ท้าชิง และการต้อนรับน้องใหม่ของผู้นำตลาด แน่นอนว่า ตลาดเหล้าขาวจะมีสีสันใหม่ๆ เกิดขึ้นแน่นอนหลังจากเป็นตลาดผูกขาดมาเนิ่นนาน

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: