Real Estate

เศรษฐีไทยเนื้อหอม ทุนมาเลย์เร่ขายเรสซิเดนท์หรูใจกลางลอนดอน

ยังคงเป็นที่หมายปองของกลุ่มนักลงทุนข้ามชาติอย่างต่อเนื่องสำหรับคนไทยชนชั้นเศรษฐีกระเป๋าหนักอย่างต่อเนื่องในการเปิดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วงนี้เศรษฐกิจประเทศไทยมีสัญญาณขาขึ้นบวกกับค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นทำให้บริษัทข้ามชาติขนทัพที่อยู่อาศัยเข้ามาล่อตาล่อใจเป็นระยะๆ

ล่าสุด กลุ่มบริษัทอัลลอย เอ็มทีดี (AlloyMtd) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทในเครือชั้นนำด้านงานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ งานวิศวกรรมและงานก่อสร้าง
การผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับพรีคาสท์ ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศ มาเลเซีย และมีวสาขามากกว่า 15 ประเทศทั่วโลก เห็นสัญญาณบวกดังกล่าว เตรียมเปิดขาย “เซาธ์ ทาวเวอร์ แอท วัน คราวน์ เพลส” (The South Tower at One Crown Place) เรสซิเด้นซ์สุดหรู ภายในโครงการมิกซ์ยูส “วัน คราวน์ เพลส” ใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

“วัน คราวน์ เพลส” โครงการมิกซ์ยูสสุดหรู ตั้งอยู่บน “ซันสตรีท” (Sun Street) เขตอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์ของ กรุงลอนดอน ประกอบด้วย อพาร์ตเมนต์ที่อยู่อาศัย 246 ยูนิต, โรงแรมบูติคระดับ 5 ดาว, พื้นที่อาคารสำนักงานระดับพรีเมี่ยมขนาด 130,900 ตารางเมตร (140,000 ตารางฟุต), พื้นที่ร้านค้า 650 ตารางเมตร (7,000 ตารางฟุต) และระเบียงจอร์เจีย (Georgian Terrace) อันเก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะมาอย่างต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของตัวโครงการฯ โดยมีราคาราคาเริ่มต้นที่ 39,500,000 บาท หรือ 888,000 ปอนด์ สำหรับห้องชุดประเภท 1 ห้องนอน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเข้าอยู่ได้ภายในปี 2563 รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 2.7 หมื่นล้านบาท

โดยโครงการดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยเป็นแห่งแรกในเอเชีย เปิดขายรอบพิเศษวันที่ 10-11 มีนาคมนี้จำนวน 16 ห้องสำหรับเศรษฐีประเทศไทย และ 30-50 ยูนิตสำหรับเศรษฐีในภูมิภาคเอเชีย ในราคาเริ่มต้น 39 ล้านบาทปลายๆ ไปจนถึง 72 ล้านบาทในขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ประมาณ 80-90 ตารางเมตร

ที คิม เซียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอัลลอย เอ็มทีดี เปิดเผยว่า เมืองลอนดอนยังมีโอกาสในการเติบโตของธุนกิจอสังหาริมทรัพย์อีกมาก เห็นได้จากปริมาณซัพพลายต่อปีราว 2 หมื่นยูนิต ขณะที่ดีมานด์อยู่ที่ 5.2 หมื่นยูนิตจึงถือเป็นโอกาสที่ดีของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะเข้าไปลงทุน

นอกจากปริมาณความต้องการที่มีมากแล้ว ลอนดอนยังเป็นศูนย์กลางหลายประการ อาทิ 1. ด้านการศึกษา มีหมาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก ปัจจุบันคนไทยส่งลูกหลานไปเรียนอยู่อันดับที่ 7 ส่วนประเทศหลักๆ ที่นิยมส่งบุตรหลานไปเรียนได้แก่ฝรั่งเศส อิตาลี รัสเซีย ขณะที่โซนเอเชียได้แก่ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ไทย เป็นต้น 2. ระบสาธารณูปโภคที่กำลงัจะเกิดขึ้น 3.อัตราดอกเบี้ยต่ำ 4.อัตราเงินบาทแข็งทำให้ซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ถูกลง 5.ระบบกฏหมายที่โปร่งใส สุดท้ายคือ ความเสี่ยงต่ำทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง

Fusion Studio TIFF File

โครงการ “วัน คราวน์ เพลส” ออกแบบโดย Kohn Pedersen Fox Associates (KPF) บริษัทออกแบบเจ้าของรางวัลชนะเลิศด้านสถาปัตยกรรมระดับนานาชาติ ประกอบด้วย อาคารสูงตระหง่าน 2 อาคาร มีชั้นสูงสุดอยู่ที่ชั้นที่ 33 ทั้งสองอาคาร โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของ “ระเบียงจอร์เจีย” ที่สวยงาม ซึ่งเป็นที่สุดท้ายในละแวกนี้ที่ได้รับการบูรณะให้ยังคงความสมบูรณ์ของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ซึ่งจะกลายเป็นคลับเฮาส์ของผู้อยู่อาศัยและโรงแรมบูติคระดับ 5 ดาว

มิกซ์ยูสระดับซูเปอร์ไฮเอนด์แห่งนี้ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาสสำหรับผู้อยู่อาศัย ภายใต้การดูแลความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ให้ความรู้สึกของแหล่งชุมชนที่มีสีสันและในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นส่วนตัว โดยสิ่งอำนวยความสะดวก ประกอบด้วย ห้องออกกำลังกายที่ทันสมัย, ห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัว, เลาจน์, โรงหนังขนาดเล็ก, ห้องทรีทเมนต์, สตูดิโอ และระเบียงชมวิวกว้างขวาง นอกจากนั้น แต่ละห้องชุดยังเต็มไปด้วยพื้นที่รับแสงธรรมชาติ (Light-Filled Space) ที่อบอุ่นและมีเสน่ห์อีกด้วย ทั้งนี้ พื้นที่ส่วนกลางและภายในอพาร์ตเมนต์ของ “วัน คราวน์ เพลส” ได้รับการออกแบบโดยบริษัทตกแต่งภายในที่มีชื่อเสียงอย่าง Bowler James Brindley ในขณะที่เพนเฮ้าส์ 9 หลัง ถูกออกแบบโดย Sophie Ashby แห่ง Studio Ashby

“วัน คราวน์ เพลส” ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยชื่อดังและใกล้ย่านบริษัทชั้นนำของลอนดอนหลายแห่ง นอกจากนั้น ยังอยู่ในทำเลที่ตั้งของการคมนาคมท้องถิ่นหลายเส้นทาง รวมถึงเส้นทางใหม่ Elizabeth Line Rail (Crossrail) ที่จะเปิดให้บริการในปีนี้ ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินฮีทโทรว (Heathrow Airport) เพียง 33 นาที และสามารถเดินไปยังแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของโลก อาทิ Bond Street, Broadgate Circle, Old Silicon Roundabout, Spitalfields Market และ Shoreditch ศูนย์กลางการสร้างสรรชื่อดัง เพียง 7 นาทีเท่านั้น

เฮนรี่ โรบินสัน กรรมการบริหารและพัฒนาโครงการ วัน คราวน์ เพลส กล่าวว่า “ลอนดอนคือเมืองระดับโลกที่เป็นที่ต้องการระดับนานาชาติอย่างแท้จริง เรามั่นใจว่า โครงการระดับเวิลด์คลาสแห่งนี้ จะดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั้งในสหราชอาณาจักรและจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี”

ทั้งนี้ กฎหมายของสหราชอาณาจักรทำให้นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ง่าย การถือครองกรรมสิทธิ์แบบเช่าซื้อ (Leasehold) ที่มีระยะเวลายาวนานถึง 999 ปี ซึ่งทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย แต่ยังดึงดูดผู้ซื้อจากทั่วโลกที่เน้นการลงทุนอีกด้วย

ดังนั้น นักลงทุนไทยจะมีโอกาสได้รับผลกำไรจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน โดยเฉพาะผู้ที่ส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งจากผลสำรวจที่ผ่านมา นักเรียนไทยเป็นนักเรียนชาวต่างชาติที่เข้ามาศึกษาในสหราชอาณาจักรมากเป็นอันดับที่ 7 จากทั่วโลก และมักใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 4 หรือ 5 ปี ซึ่งกลายเป็นแรงจูงในในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งคุ้มค่ากว่าการเช่าห้องพัก

นอกจากนี้ หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นจะยังสามารถได้รับผลตอบแทนจากการเติบโตอย่างยั่งยืนของเงินทุนระยะยาวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน ผลจากการศึกษาและวิจัยตลาด แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามูลค่าของห้องชุดที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลที่ตั้งที่สำคัญ เช่น ศูนย์กลางของกรุงลอนดอน ส่งผลให้มีการเติบโตของเงินทุนที่แข็งแกร่งซึ่งคาดว่า จะเพิ่มขึ้นถึง 16.7% ภายในปี 2564 ตามตัวเลขการวิจัยของ CBRE ซึ่งนับเป็นผลตอบแทนที่สูงกว่าสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ทองคำ น้ำมัน และตลาดหุ้น

นักลงทุนไทยและนักลงทุนรายอื่นๆ จากทั่วโลกมีความสนใจที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน เนื่องจาก สหราชอาณาจักรเป็นที่พำนักที่ปลอดภัยด้วยระบบกฎหมายที่โปร่งใส มีเขตเวลาที่เหมาะสำหรับการติดต่อสื่อสารและการพาณิชย์ระหว่างประเทศ, อุปทานของที่อยู่อาศัยยังไม่เพียงพอกับความต้องการ ทำให้ตลาดมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง, ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอันยาวนานของกรุงลอนดอน และการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากล โดยเมื่อเร็วๆ นี้จำนวนนักลงทุนในภูมิภาคเอเชียมีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์

“วัน คราวน์ เพลส” พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทอัลลอย เอ็มทีดี (AlloyMtd Group) โดยมี ซีบีอาร์อี (CBRE) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการฝ่ายพัฒนาและบริหารงานขายสำหรับห้องชุดที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม

เศรษฐีคนไทยเงินเหลือกินเหลือใช้ทั้งหลาย เตรียมนับสตางค์รอได้เลย

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: