เมื่อบาร์บีกอน ลุยเครื่องใช้ไฟฟ้า
การทำตลาดในปัจจุบันนอกจากจะต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคแบบทันท่วงที ทันยุคทันสถานการณ์แบบรวดเร็วฉับไวแล้ว การสรา้งความแปลกใหม่เพื่อให้เกิดการตื่นตัวของตลาดก็เป็นสื่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะธุนกิจประเภทร้านอาหารที่มีมากกมายหลายแบรนด์ในเวลานี้
บาร์บีคิวพลาซ่า ในฐานะผู้นำธุรกิจเชนร้านอาหารปิ้งย่างขวัญใจคนไทยมากว่า 25 ปี ที่ผ่านมามีการทำตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งรูปแบบการไดร์ฟมาร์เก็ตติ้ง การโอเปอเรชั่นในรูปแบบใหม่ๆ การสร้างแบรนด์อะแวร์เนส ล่าสุด ต่อยอดการสร้างแบรนด์นอกร้านอาหารคร้ังแรกด้วยการประกาศจับมือ Collaboration ข้ามธุรกิจเป็นครั้งแรกกับ แอนิเทค แบรนด์อุปกรณ์ไฟฟ้า-ไอทีชื่อดัง ด้วยการส่งมาสคอตมหาชน “บาร์บีกอน” เจาะไลฟ์สไตล์การมอบของขวัญของคนไทยช่วงปีใหม่ ออกผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นพิเศษลายบาร์บีกอน Anitech X Bar B Gon กับ 4 ผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยมในดีไซน์ทันสมัยจำนวนจำกัด
บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แบรนด์ “บาร์บีคิวพลาซ่า” บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของความร่วมมือในลักษณะของการ Collaboration ครั้งนี้ระหว่าง บาร์บีคิวพลาซ่ากับแอนิเทค ว่า เป็นการจับมือข้ามธุรกิจเป็นครั้งแรก เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์กลยุทธ์การตลาดแนวใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในธุรกิจร้านอาหารของเมืองไทยโดยผสานจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์ ทั้งด้านความแข็งแกร่งของแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าและคาแร็คเตอร์บาร์บีกอน ผนวกกับความเชี่ยวชาญในเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าของแอนิเทคมาจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน คอลเล็คชั่นพิเศษลิมิเต็ด เอดิชั่น จำนวนจำกัด โดยบาร์บีคิวพลาซ่าเป็นผู้ให้ลิขสิทธิ์ในการนำบาร์บีกอนไปใช้เป็นลวดลายบนเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นพิเศษที่มีแอนิเทคเป็นผู้ดูแลเรื่องการผลิต และบริการหลังการขายต่างๆ
“ด้วยความสำเร็จของการสร้างความรับรู้ของแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าผ่าน Character Marketing อย่างบาร์บีกอนในตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้บาร์บีกอนเป็นสินทรัพย์หรือ asset ของแบรนด์ที่เข้ามาช่วยสื่อสารและเชื่อมโยงแบรนด์ให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างดี เป็นคาแร็คเตอร์ที่ได้รับความนิยม ดูมีชีวิต เป็นมิตรเข้าถึงคน ทุกเพศทุกวัย อีกทั้งทำหน้าที่เป็นตัวแทนการส่งความสุขให้ผู้คนและส่งต่อจิตวิญญาณของแบรนด์ไปสู่ลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นในปีนี้เราจึงอยากต่อยอดให้คาแร็คเตอร์บาร์บีกอนได้ออกไปสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าในวงที่กว้างขึ้น สร้างความผูกพันและส่งความสุขให้กับคนได้มากขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะในร้านอาหารของเราเท่านั้น และนี่เองก็คือที่มาของการให้ไลเซ็นส์ (License) บาร์บีกอนแก่แอนิเทคเพื่อผลิตเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าลายบาร์บีกอนรับเทศกาลปีใหม่ ให้ทุกคนได้ซื้อหาเป็นของขวัญแก่คนที่รักหรือไว้ใช้ในครัวเรือน ตลอดจนเป็นของสะสมสำหรับเหล่าสาวกบาร์บีกอนทั่วประเทศ”
ด้านนายพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป ผู้บริหารแบรนด์แอนิเทค เปิดเผยว่า การจับมือกับบาร์บีคิวพลาซ่าในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์แอนิเทคในการเปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเดิมทีแอนิเทคเน้นการทำตลาดสินค้าประเภทอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์และไอทีเป็นหลัก โดยการประเดิมเข้าสู่ตลาดใหม่ครั้งนี้ เราเลือกเดินเกมส์การตลาดผ่านการสร้างความแตกต่างให้กับการเปิดตัวสินค้าด้วยการนำเอามังกรสีเขียวบาร์บีกอน ซึ่งถือเป็นมาสคอตที่มีความโดดเด่นและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมาใช้ในการสร้างสรรค์ลวดลายสุดน่ารักบน 4 ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยม ได้แก่ กาต้มน้ำไฟฟ้า เครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องปั่นสมูทตี้ และเตาอบ 2 ชั้นขนาดเล็ก ซึ่งคาดว่าผลิตภัณฑ์คอลเล็คชั่นพิเศษทั้ง 4 นี้ จะได้รับการตอบรับจากคนไทยเป็นอย่างดี ถือเป็นการปูทางให้แอนิเทคก้าวเข้าสู่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างงดงาม
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าลิมิเต็ดคอลเล็คชั่น Anitech X Bar B Gon” ประกอบด้วย 4 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กาต้มน้ำบาร์บีกอน ราคา 429 บาท เครื่องปิ้งขนมปังบาร์บีกอน 690 บาท เครื่องปั่นสมูทตี้บาร์บีกอน 990 บาท เตาอบบาร์บีกอน 1,550 บาท โดยทั้ง 4 ผลิตภัณฑ์จะผลิตเป็นจำนวนจำกัดรวมทั้งหมดเพียง 10,000 ชิ้นเท่านั้น อีกทั้งยังใส่กิมมิคน่ารักๆ ในทุกผลิตภัณฑ์เพื่อเอาใจสาวกบาร์บีกอนโดยเฉพาะ อาทิ เครื่องปิ้งขนมปังที่จะปิ้งขนมปังออกมาเป็นลายหน้าบาร์บีกอน เป็นต้น
โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ได้เตรียมงบการตลาดไว้กว่า 30% ของยอดขาย เพื่อเป็นการใช้จ่ายในส่วนของกิจกรรม ส่งเสริมการขายและสื่อสารการตลาด นอกจากนี้ได้วางกลยุทธ์จุดจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และสามารถ ตอบสนองไลฟ์สไตล์การช้อปปิ้งของคนในยุคปัจจุบันได้ ประกอบไปด้วยจุดจำหน่ายทั้งภายใต้เครือข่ายของบาร์บีคิวพลาซ่าและแอนิเทค สำหรับบาร์บีคิวพลาซ่าจะดูแลจุดจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงกลุ่มสาวกบาร์บีกอนได้โดยตรง ได้แก่ หน้าแฟนเพจบาร์บีคิวพลาซ่า และการจำหน่ายผ่าน หน้าร้านบาร์บีคิวพลาซ่า 19 สาขาหลักในกรุงเทพฯ เริ่มจำหน่ายในวันที่ 2 ธ.ค. – 15 ม.ค. ปีหน้า หรือจนกว่าของจะหมด รวมถึงการจำหน่ายผ่านทางออนไลน์แบบเอ็กคลูซีฟบนเว็ปไซด์และโมบายแอพพลิเคชั่น 11street อีคอมเมิร์ชแพลตฟอร์มรายใหญ่ของประเทศไทย โดยเริ่ม Pre-Order ในวันที่ 21– 30 พ.ย. 60 และจำหน่ายเต็มรูปแบบในวันที่ 1 ธ.ค. นี้
การจัดทำเครื่องใช้ไฟฟ้าคอลเล็คชั่นพิเศษครั้งนี้ สำหรับบาร์บีคิวพลาซ่า เปรียบได้กับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะนอกจากจะได้ต่อยอดการใช้ Character Marketing ในแง่มุมของการให้ลิขสิทธิ์บาร์บีกอนเพื่อนำไปสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆนอกเหนือธุรกิจร้านอาหารแล้ว ยังเป็นการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจของ แบรนด์ในตลาดอีคอมเมิร์ซอีกด้วย
และในปีถัดไป ผู้บริหารบาร์บีคิวพลาซ่าย้ำว่า นอกจากจะเน้นการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ปีละไม่ต่ำกว่า 15 สาขาแล้ว ยังจะได้เห็นรูปแบบการสรรหาพันธมิตรรายใหม่ในลักษณะนี้อย่างน้อย 2 ราย เพื่อให้บาร์บีกอนซึ่งถือเป็นเอ็นเกจระหว่างแบรนด์กับลูกค้าที่เน้นกลุ่มวัยรุ่นได่เข้าไปอยู่ในพื้นที่่ที่แปลกใหม่ออกไป ในรูปแบบของกิจกรรมนอน ฟูดส์ ที่ก่อนหน้านี้ใช้วิธีโคโปรโมชั่นร่วมกับแกร็บ แท็กซี่ และล่าสุดคือการขายไลเซ่นส์สินค้าให้กับพันธมิตรนำไปต่อยอดซึ่งเข้าลักษณะวินวินทั้งคู่
บาร์บีคิวพลาซ่า เปิดให้บริการสาขาแรกในปี 2530 โดยนอกจากความขึ้นชื่อในร้านอาหารปิ้งย่างอันดับต้นๆ บาร์บีคิวพลาซ่ายังถือเป็นผู้นำแบรนด์ร้านอาหารสัญชาติไทยที่มีการสร้างสรรค์และต่อยอดการทำการตลาด Character Marketing อย่างจริงจัง ผ่านคาแร็คเตอร์มังกรสีเขียว “บาร์บีกอน” จนได้รับความนิยม อย่างแพร่หลาย รวมไปถึงการสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดที่ฉีกกฎไม่ซ้ำใครจนทำให้แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแบรนด์หนึ่งในตลาด โดยปัจจุบันเปิดให้บริการในประเทศ รวมทั้งสิ้น 138 สาขา ตั้งอยู่ ณ ศูนย์การค้าชั้นนำ และห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ทั้งในกรุงเทพฯและตามหัวเมืองหลักของจังหวัดต่างๆ สำหรับในตลาดต่างประเทศ มีร้านบาร์บีคิวพลาซ่าเปิดให้บริการในภูมิภาคอาเซียน อีกรวม 21 แห่ง
ส่วนแอนิเทค เป็นแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ Consumer Electronic มากกว่า 15 ปี เริ่มธุรกิจด้วยการเป็นผู้รับจ้างผลิตแบบ OEM ให้กับแบรนด์ต่างๆ ก่อนจะผันตัวมาสู่การสร้างแบรนด์และผลิตสินค้าเป็นของตัวเองและจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์แอนิเทค ในปัจจุบันแอนิเทคมีสินค้ากว่า 1,000 SKU โดยหลักๆ เป็นสินค้า ในหมวด IT ซึ่งมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องและขยายตลาดครอบคลุมหน้าร้านกว่า 8,000 สาขาในประเทศไทย รวมถึง ในกลุ่มประเทศ CLMV