เทียบหมัดต่อหมัด ‘GO Wholesale’ยักษ์เซ็นทรัล ดับเครื่องชน ‘แม็คโคร’

เป็นอีกหนึ่งสังเวียนที่น่าจับตาไม่น้อยสำหรับตลาดค้าส่ง ซึ่งค่าย’แม็คโคร’ ธุรกิจค้าส่ง ภายใต้บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)ครองเจ้ายุทธจักรมาช้านาน เห็นได้จากรายได้ในปีที่ผ่านมาที่กวาดไปถึง 469,000 ล้านบาทโตกว่า 70%
ทั้งนี้ภาพรวมตลาดค้าส่งไทยที่มีผู้ประกอบการหลักในตลาดอย่าง แม็คโคร โดย บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ที่ดำเนินธุรกิจค้าส่งมายาวนานร่วม 34 ปีแล้ว ก้าวสู่ผู้นำในตลาดค้าส่งในไทย และมีสาขารวม 154 สาขาในปัจจุบัน ซึ่งมีธุรกิจค้าส่งกับ แม็คโคร และ แม็คโครฟู้ดเซอร์วิส ส่วนธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ต อย่าง โลตัส
ขณะที่เครือไทยเบฟ ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่มีบริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น ได้ปรับมาสยายปีกประกอบธุรกิจค้าส่งอย่างหลากหลายโมเดล ทั้งบิ๊กซี ฟู้ด เซอร์วิส (Big C Food Services) รวมทั้งค้าส่งและค้าปลีก และ เอ็มเอ็ม ฟู้ดเซอร์วิส (MM Food Service) ธุรกิจรูปแบบขายส่งอาหารสด อาหารแห้ง เจาะกลุ่มโฮเรก้า ส่วนไฮเปอร์มาร์เก็ตคือ บิ๊กซี
แต่ทว่าเส้นทางนับจากนี้ไปคงไม่ง่ายสำหรับแม็คโครอีกต่อไป เมื่อยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอย่างเซ็นทรัล รีเทล ใต้ปีกกลุ่มเซ็นทรัลผู้ช่ำชองในวงการตลาดค้าปลีกเป็นอย่างดีขยายธุรกิจ ด้วยการรุกคืบเข้าสู่ ‘ธุรกิจค้าส่ง’ โดยการจัดตั้งบริษัทย่อยในชื่อ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด หรือ CFW เพื่อประกอบกิจการค้าส่ง (Wholesale) โดยเฉพาะ ด้วยทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565
ประเด็นที่น่าสนใจคือ 1 ใน 8 กรรมการบริษัทชุดใหม่นี้ ปรากฏชื่อ ‘สุชาดา อิทธิจารุกุล’ อดีตซีอีโอสยามแม็คโคร ผู้มีประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจค้าส่งมากว่า 27 ปี ร่วมเป็นกรรมการ และดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทยและต่างประเทศอีกด้วย
ล่าสุด CRC ถือโอกาสเปิดตัว “GO Wholesale” (โก โฮลเซลล์) ศูนย์ค้าส่งสินค้าเพื่อผู้ประกอบการร้านอาหารและร้านค้าปลีกรายย่อย ดำเนินธุรกิจโดย บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือ CRC เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้ประกอบการอาหารและผู้ผลิต พร้อมสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่สำหรับธุรกิจค้าส่งอาหารของไทยด้วยความแตกต่าง ชูธงอาหารสดและวัตถุดิบคุณภาพดีจากทั้งในไทยและทั่วโลก พร้อมบริการใหม่ที่โดนใจ รับแนวโน้มการเติบโตจากภาคการท่องเที่ยวและภาคการบริโภคในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจกลุ่มฟู้ดที่ให้บริการค้าส่ง-ค้าปลีกครบวงจรครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “CRC ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมากว่า 75 ปี จากการสร้าง Platform of Trust ให้กับลูกค้า พาร์ทเนอร์ ซัพพลายเออร์ พนักงาน ชุมชน และนักลงทุน พร้อมทั้งมี Ecosystem ที่แข็งแกร่งด้วย Multi-category ใน 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์พร็อพเพอร์ตี้ และเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้า B2C และ B2B ตลอดจนมีจุดแข็งในเรื่องของบุคลากรที่มีศักยภาพ (People Advantage) ทำให้เราสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี โดยผลประกอบการในปี 2565 ที่ผ่านมา CRC สร้างรายได้ 236,245 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท พร้อมทั้งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ถึง 278,934 ล้านบาท ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2565
และในวันนี้ เราพร้อมที่จะขยายธุรกิจ B2B ในกลุ่มฟู้ด ด้วยเล็งเห็นศักยภาพของตลาดค้าส่งอาหารในไทย ที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เราจึงเปิดตัวธุรกิจ ‘GO Wholesale’ ขึ้น เพื่อให้เป็น New Growth Engine สำหรับ CRC ที่จะช่วยเติมเต็มกลุ่มฟู้ดให้เป็น Total Solution และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มได้อย่างครบวงจร โดย GO Wholesale จะเป็นหนี่งใน Key Driver หลักให้กับธุรกิจกลุ่มฟู้ดของ CRC พร้อมทั้งเป็น Platform of Trust ให้กับทุก Stakeholders ด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ดีที่สุดให้กับผู้ประกอบการ เป็นองค์กรที่มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ ตลอดจนมุ่งมั่นและทำงานร่วมกับทุกพาร์ทเนอร์ เพื่อสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน ที่สำคัญ GO Wholesale ยังบริหารงานด้วยทีมงานมืออาชีพ พร้อมทั้งดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งจะทำให้แพลตฟอร์มนี้สามารถสร้างการเติบโตร่วมกัน (Inclusive Growth) ให้กับทุก Stakeholders ได้อย่างแน่นอน
สำหรับ GO Wholesale เรามีกลุ่มเป้าหมายหลัก 4 กลุ่ม คือ Food Retailers, Food Services, Food Lovers และกลุ่มโฮเรก้า ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจาก Power of Network ของกรุ๊ป ประกอบไปด้วยศูนย์การค้า 110 แห่ง ที่ครอบคลุมใน 100 จังหวัด ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม ร้านอาหารกว่า 6,750 ร้าน และ โรงแรม 93 แห่ง นอกจากนี้เรายังมี Loyalty Platform ที่ครอบคลุมลูกค้ามากกว่า 28 ล้านราย รวมไปถึงทีมผู้บริหารมืออาชีพที่นำโดยคุณสุชาดา อิทธิจารุกุล และทีมงานที่มากด้วยประสบการณ์ในธุรกิจค้าส่งอาหารมากกว่า 20 ปี ทั้งหมดนี้ทำให้เรามีความมั่นใจอย่างยิ่งในความพร้อมของ GO Wholesale ที่จะมาสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับ CRC” นายญนน์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายรายได้ใน 5 ปีข้างหน้าของจากธุรกิจ โฮลเซลล์ ประเมินไว้ที่ 60,000-70,000 ล้านบาท โดยรายได้จากกลุ่มค้าส่ง คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 17% ของรายได้รวม มาจากกลุ่ม ฮาร์ดไลน์ ประเมินว่า ภายใน 5 ปีจะมีสัดส่วนขยายเป็น 25-26% พร้อมมีแผนนำธุรกิจค้าส่งไปขยายสู่ประเทศเวียดนาม โดยการเปิดธุรกิจค้าส่ง ส่วนใหญ่จะสามารถคืนทุนในเวลา 2 ปีต่อสาขา
แผนเปิด Go Wholesale
1 สาขาแรก 27 Oct 23 สาขาสมุทรปราการ
2 เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต, 22 Nov 23
3 อมตะนคร, 13 Dec 23
4 พัทยาใต้, 27 Dec 23
5 สุขาภิบาล 3, 6 Mar 24
6 ฟิวเจอร์ ซิตี้ รังสิต, 3 Apr 24
7 ภูเก็ต (ตลาดเกษตร), May 24
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ธุรกิจในเครือ CRC เปิดเผยว่า ‘GO Wholesale’ คือศูนย์ค้าส่งสินค้าระบบสมาชิก ในราคาขายส่ง เพื่อผู้ประกอบการ ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักคือ กลุ่มธุรกิจโฮเรก้า (โรงแรม, ร้านอาหาร, ธุรกิจจัดเลี้ยง) กลุ่มผู้ชื่นชอบการทำอาหาร กลุ่มผู้ให้บริการอาหารในโรงงาน โรงพยาบาลและหน่วยงานอื่น ๆ รวมถึง ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก (โชห่วย) โดยจุดเด่นคือการนำเสนอสูตรแห่งความสำเร็จให้แก่ผู้ประกอบการในด้านต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงใจ พร้อมเป็นแรงสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทักษะ และต่อยอดธุรกิจรายย่อยให้มีประสิทธิภาพ นำไปสู่การสร้างรายได้และผลกำไรให้เติบโตไปด้วยกัน เหมือนกับชื่อแบรนด์ GO ที่ ‘G’ หมายถึง ‘การเติบโต’ (Growth) และ ‘O’ หมายถึง ‘โอกาส’ (Opportunities) สอดคล้องไปกับแนวคิด ‘โตเร็ว โตไกล โตไปกับ GO’ หรือ Grow with GO ซึ่งเป็นโอกาสในการเติบโต ด้วยสูตรแห่งความสำเร็จสำหรับผู้ประกอบการ (Growing Your Business with Success Recipe) ดังนี้
Grow Right…ทำให้ธุรกิจเติบโตไปกับคนที่ใช่ ที่ออกแบบเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและร้านค้าปลีก
Grow As You Like… ทำให้ทุกธุรกิจเติบโตอย่างตรงใจ จากประสบการณ์ด้านธุรกิจอาหารและค้าส่งมาอย่างยาวนานของผู้บริหารและทีมงานมืออาชีพ
Grow Fast…ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว กับบริการต่างๆ ของเราที่จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจและต่อยอดความรู้ ทักษะใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการ
Grow Smooth… เสริมสร้างให้ทุกธุรกิจเติบโตไปไกล ได้อย่างราบรื่น ด้วยช่องทางการสั่งซื้อที่หลากหลาย สะดวกฉับไว ให้การดูแลธุรกิจเป็นเรื่องง่ายและประหยัดเวลา
Grow & Gain… ให้ธุรกิจและกำไรเติบโต จากสิทธิพิเศษมากมายสำหรับสมาชิก
Grow Better…การเติบโตอย่างยั่งยืน
Grow Together…ร่วมเติบโตไปพร้อมกัน
โดยเป้าหมายระยะแรกของ ‘GO Wholesale’ คือ การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและเข้าไปอยู่ในใจผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายและลูกค้าทุกกลุ่ม ที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจขนาดเล็กมีโอกาสเติบโตอย่างมั่นคง ทั้งนี้ได้วางแผนการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ภายในปี 2571 และมีแผนจะเปิดสาขาแรกบนถนน ศรีนครินทร์ ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้
แผนการขยายธุรกิจค้าส่งแบรนด์ ได้วางเป้าหมายจะเปิดสาขาใหม่ 40-50 สาขาในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ภายใต้งบลงทุนรวม 20,000 ล้านบาท
“ทั้งนี้ GO Wholesale เกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันของผู้บริหารมืออาชีพและทีมงานที่มากด้วยประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจค้าส่ง เรามีความเข้าใจความต้องการและ Pain point ของลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการด้านธุรกิจอาหารและร้านค้าปลีกขนาดเล็กอย่างลึกซึ้ง ประกอบกับการที่ GO Wholesale ได้เข้าไปอยู่ใน CRC Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบ ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถนำพาทุกธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกัน ซึ่งถือเป็นพันธะสัญญาที่สำคัญของเรา” นางสุชาดา กล่าว
ด้าน นายริคาร์โด้ โบอารอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ประเทศไทย กล่าวว่า ศูนย์ค้าส่ง ‘GO Wholesale’ สาขาแรกมีพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร ด้วยการออกแบบ Store Layout รูปแบบใหม่ที่พร้อมตอบโจทย์ให้กับผู้ประกอบธุรกิจโฮเรก้า ร้านอาหารและร้านค้าปลีก และการให้บริการใหม่ๆ ที่มีความหลากหลาย เพื่อมาช่วยสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าผู้ประกอบการ พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ ด้วยสินค้ามากกว่า 20,000 รายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนกอาหารสด ซึ่งมีตั้งแต่อาหารทะเลเป็นๆ, เนื้อคุณภาพพรีเมียม และการให้บริการตัดแต่งสินค้าตามความต้องการของลูกค้า, บริการชำระเงินด้วยช่องทางที่หลากหลาย, การให้บริการทุกช่องทางอย่างไร้รอยต่อ และสิทธิประโยชน์สมาชิกที่หลากหลาย ที่รวมถึงลอยัลตี้แพลตฟอร์ม The 1 ในเครือเซ็นทรัลฯ
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามกลยุทธ์หลัก 3 ประการของ GO Wholesale ประกอบไปด้วย
WIDE & INSPIRING ASSORTMENT: ศูนย์ค้าส่งที่สร้างแรงบันดาลใจในการนำธุรกิจก้าวไปสู่การเติบโต ด้วยสินค้าครบครันหลากหลาย คัดสรรคุณภาพจากทั่วทุกมุมโลกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการในทุกเซกเมนต์
CUSTOMIZED ORDERING AND SERVICES: อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการอย่างเข้าใจความต้องการที่แท้จริง ด้วยจุดเด่นที่สามารถสั่งซื้อสินค้าในรูปแบบที่กำหนดเองได้ เพื่อให้ทุกธุรกิจเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
CONSISTENCY, TRUSTED & RELIABLE QUALITY: สร้างความเชื่อมั่นในเรื่องคุณภาพและราคา ที่สามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจ พร้อมทั้งเป็น ‘ผู้ช่วย’ ให้คำปรึกษาการบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน
“แม้ GO Wholesale จะเป็นธุรกิจใหม่ แต่เราก็ไม่ลืมในเรื่องของการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ตาม Purpose ขององค์กร ที่จะเป็น Central to Life โดยเราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องของการสนับสนุน ซัพพลายเออร์ ผู้ผลิตสินค้า เอสเอ็มอี และเกษตรกร ให้มีช่องทางในการนำเสนอขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มากขึ้น รวมไปถึงการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรโดยตรง การสนับสนุนอาชีพให้แก่กลุ่มเปราะบาง เพื่อสร้างรายได้และเติบโต เคียงข้างไปพร้อมกับเรา สอดคล้องไปกับนโยบายของ CRC ในการที่จะเป็นองค์กรด้านความยั่งยืน หรือ Green and Sustainable Wholesale” นางสุชาดา กล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่แชมป์อย่างแม็คโคร ต้อนรับน้องใหม่ด้วยการเตรียมเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ครั้งแรกของเมืองไทย โชว์จุดแข็งของทั้งแม็คโครและโลตัสมอลล์ กับ “Hybrid Wholesale” รูปแบบค้าส่งสมัยใหม่ ที่สุดของความคุ้มค่า พร้อมไลฟ์สไตล์ เพื่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค
นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง คอนเซ็ปต์ “Hybrid Wholesale” ของแม็คโคร ว่าเป็นการผนึกกำลัง ที่จะสร้างปรากฎการณ์ครั้งแรกของเมืองไทย ในการนำจุดแข็งของแม็คโครผู้นำค้าส่ง มาผนวกรวมกับโลตัส มอลล์ ที่เป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม การรวมตัวครั้งนี้ได้ชูความคุ้มค่า นำเสนอความหลากหลายของวัตถุดิบ ทั้งในและต่างประเทศ ในราคาค้าส่ง “Hybrid Wholesale” จึงเป็นรูปแบบใหม่ ที่ไม่เคยมีมาก่อน เติมเต็มการทำธุรกิจและการใช้ชีวิต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
นายธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย กล่าวถึง แนวทางการบริหารงานของแม็คโครใน “Hybrid Wholesale” ว่า เรานำจุดแข็งของแม็คโคร ด้านสินค้าคุณภาพจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย รวมถึงการคัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งผลิตชั้นนำทั่วทุกมุมโลก ในราคาค้าส่งที่ดีที่สุด พร้อมความเข้าใจผู้ประกอบการและพันธมิตรทางธุรกิจ กว่า 34 ปี รวมถึงมอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษ คุ้มค่าทุกการใช้จ่ายเฉพาะลูกค้าสมาชิก (Makro PRO Point Loyalty Program)
“อีกจุดเด่นที่สำคัญ ในการตอบโจทย์ผู้ประกอบการ คือ การเชื่อมโยงทุกช่องทางในการให้บริการลูกค้า ไม่ว่าจะผ่านทีมงานขายมืออาชีพ การสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Makro PRO) และการซื้อที่สาขา เพื่อประสบการณ์การซื้ออย่างไร้รอยต่อ (Omni-Channel) ทำให้ลูกค้าเข้าถึงแม็คโครได้สะดวก รวดเร็ว” นายธนิศร์ กล่าว
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “Hybrid Wholesale” ที่แม็คโครได้พัฒนาขึ้นนี้ เป็นโมเดลธุรกิจที่มีการผสมผสานความแข็งแกร่งของทั้ง 2 องค์กร โดยโลตัส มอลล์ เอง จะนำความเชี่ยวชาญในการบริหาร Smart Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัยในชุมชน ซึ่งเป็นจุดแข็งของโลตัส เข้ามาสนับสนุนการขยายฐานลูกค้าให้แม็คโคร การจับมือกันครั้งนี้ จะเป็นการสร้างโอกาสและประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการ
“เรามั่นใจว่า Hybrid Wholesale นี้จะช่วยยกระดับผู้ประกอบการให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากสินค้าและราคาแล้ว แม็คโครยังพร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ ในการทำธุรกิจค้าส่งใกล้ชิดผู้ประกอบการมากว่า 34 ปี นำความรู้มาพัฒนาต่อยอดให้เจ้าของธุรกิจทั้งโชห่วยและโฮเรก้า สร้างโอกาสและการเติบโตอย่างมั่นคง โดยบริษัทฯ เตรียมเปิดตัว Hybrid Wholesale สาขาแรกของประเทศไทยเร็วๆนี้” นายธานินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตาม แม็คโคร ตอกย้ำความสำเร็จ 34 ปี ด้วยความแข็งแกร่งของทีมงานที่มีจุดยืนเคียงข้างผู้ประกอบการและลูกค้า สอดรับแนวคิด “โตมาด้วยกัน โตไปด้วยกัน”
นายธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย เปิดเผยว่า “หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจแม็คโครให้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จนเป็นผู้นำในตลาดค้าส่งกว่า 34 ปี มาจากจุดแข็งของทีมงาน ด้วยการผสมผสานระหว่างทีมผู้บริหารมากประสบการณ์ ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าส่ง มีความเข้าใจลูกค้าเป็นอย่างดีมายาวนาน และทีมงานคนรุ่นใหม่ที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาร่วมสร้างกลยุทธ์ให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ เรายังเน้นการพัฒนาทีมงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นให้ลูกค้าเติบโต ควบคู่กับการที่พนักงานเติบโตไปพร้อมกับบริษัทฯ สอดรับแนวคิด “โตมาด้วยกัน โตไปด้วยกัน”
โดยแม็คโครยึดหลักการพัฒนาทีมงานใน 4 ด้าน
•เข้าใจลูกค้า รู้ความต้องการของผู้ประกอบการ ด้วยการคัดสรรสินค้าคุณภาพจากหลากหลายผู้ผลิต การันตีความสม่ำเสมอของสินค้า พร้อมส่งมอบความคุ้มค่า คุ้มราคา ช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนธุรกิจ รวมถึงลดภาระค่าครองชีพ
•เข้าถึงทุกกลุ่มในท้องถิ่น ด้วยการหนุนธุรกิจท้องถิ่นในทุกพื้นที่ นำผลผลิตทางการเกษตรและเอสเอ็มอีเข้ามาเปิดช่องทางการจำหน่าย สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนเติบโตในทุกจังหวัดที่เปิดสาขา
•สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย ผ่านการส่งเสริมโชวห่วยและธุรกิจร้านอาหารรายย่อย อบรมพัฒนาศักยภาพ เพื่อยกระดับมาตรฐานร้านค้าปลีกให้ทันสมัย ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถแข่งขันได้ในตลาด
•เข้าใจธุรกิจในยุคดิจิทัล พนักงานได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของตลาด เพื่อผสานช่องทางการขายออนไลน์และสาขาอย่างไร้รอยต่อ (O2O หรือ Omni-Channel) เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการอย่างครบวงจร
จากความมุ่งมั่นของทีมงานในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยความเข้าใจใน 4 มิตินี้ ทำให้แม็คโครยืนหยัดครองความเป็นเบอร์ 1 ของธุรกิจค้าส่งในเมืองไทย เคียงข้างผู้ประกอบการและลูกค้า พร้อมพัฒนาธุรกิจต่อไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ดังนั้น 34 ปีของแม็คโครจึงมิใช่เพียงความสำเร็จของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความมุ่งมั่นและความเชี่ยวชาญของทีมงานทุกคน ที่นำพาให้องค์กรยืนหยัดในธุรกิจค้าส่งมาอย่างยาวนาน” นายธนิศร์กล่าวทิ้งท้าย