
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสถาบันการเงิน ผลักดันการเปลี่ยนบัตรเดบิต-บัตรเอทีเอ็มจากรูปแบบบัตรแถบแม่เหล็ก (megnetic card) ให้เป็นบัตรชิปการ์ด (chip card) เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ป้องกันการปลอมแปลงบัตร รวมถึงการโจรกรรมข้อมูลไปทำบัตรปลอม และใช้ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม
ซึ่งสถาบันการเงินต่างๆ ได้ประชาสัมพันธ์และเปลี่ยนบัตรให้ประชาชนมาโดยตลอด ปัจจุบันพบว่ามีผู้เปลี่ยนบัตรเป็นชิปการ์ดไปแล้วราว 47 ล้านใบ และยังคงมีบัตรแถบแม่เหล็กคงเหลือที่ยังไม่ได้เปลี่ยนอีกราว 20 ล้านใบทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ธปท. จะเร่งสื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ใช้บัตรเดบิต หรือบัตรเอทีเอ็มแบบแถบแม่เหล็ก ให้รีบติดต่อธนาคารที่ใช้บริการได้ทุุกสาขาเพื่อเปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และสามารถเปลี่ยนบัตรได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนเอกสาร-หลักฐานที่ใช้ยื่นเปลี่ยนบัตรมีดังนี้
บัตรประจำตัวประชาชน
บัตรเดบิต หรือบัตรเอทีเอ็มใบเดิม
สมุดบัญชีเงินฝาก
หากผู้ใช้บัตรเดบิตและบัตรเครดิตเดิมไม่สามารถดำเนินการเปลี่ยนบัตรได้ทันก่อนวันที่ 15 มกราคม 2563 ก็จะไม่สามารถใช้งานกับเครื่องเอทีเอ็ม หรือเครื่องรูดบัตรที่ร้านค้าได้ หากต้องการใช้เงินสด หรือโอนเงินสามารถเบิกถอนได้ที่สาขาธนาคาร หรือใช้ฟังก์ชั่นกดเงินไม่ใช้บัตรที่ตู้เอทีเอ็ม อีกทั้งสามารถโอนเงินผ่าน mobile banking และ internet banking แทนการใช้บัตร