Biznews
เตรียมตัวให้พร้อม!แตะบัตรจ่ายค่าทางด่วน เริ่มต้น 5 สาย 5 ปีเลิกใช้เงินสดถาวร!

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการระบบชำระค่าผ่านทางด้วยเทคโนโลยี EMV Contactless (Europay Mastercard and Visa) ณ บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษสะพานพระราม 7 ทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ว่า ระบบ EMV จะช่วยอำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการทางพิเศษ
โดยเชื่อมโยงทุกระบบการชำระเงินด้วยบัตรมาตรฐานสากลเพียงใบเดียว ทั้งบัตรเดบิตและบัตรเครดิตทุกธนาคารที่มีสัญลักษณ์ Contactless แตะ-จ่ายค่าผ่านทางได้สะดวก และมีความเร็วในการผ่านด่านกว่าการจ่ายเงินสดถึง 1 เท่า และหลีกเลี่ยงการสัมผัส ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 รวมถึงเตรียมความพร้อมประเทศด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่สังคมดิจิทัลในอนาคต และให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆ ได้ง่ายและทั่วถึง เพื่อให้ใช้บริการต่างๆ ของภาครัฐได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM พัฒนาระบบชำระค่าผ่านทางพิเศษด้วยบัตร EMV Contactless เพื่อเป็นทางเลือกในการชำระค่าผ่านทางให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย โดยมีขั้นตอนง่ายๆ เพียงแค่ขับรถเข้าช่องเงินสด ลดกระจก และแตะบัตรที่มีสัญลักษณ์ Contactless และในอนาคตจะพัฒนาไปสู่ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow และระบบตั๋วร่วม ซึ่งใช้บัตรเพียงใบเดียวสามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ได้แก่ รถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง และเรือโดยสาร โดยขณะนี้ให้ปลัดกระทรวงคมนาคมศึกษาเปรียบเทียบระหว่างระบบ EMV กับระบบตั๋วร่วม (Common Ticket) ที่ใช้บัตรใบเดียวในการชำระค่าบริการขนส่งสาธารณะต่างๆ ซึ่งจะประชุมในสัปดาห์หน้า
ปัจจุบันระบบ EMV ได้เปิดให้บริการครบทั้ง 5 สายทางแล้ว ได้แก่ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ ทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (วงแหวนใต้) ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ใช้บริการทางพิเศษเป็นอย่างดี มีจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีความสะดวกรวดเร็ว ใช้เวลาน้อยกว่าการชำระค่าผ่านทางด้วยเงินสด ถือเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้บริการทางพิเศษ และลดความแออัดของปริมาณรถสะสมบริเวณหน้าด่าน รวมถึงลดการสัมผัสเงินสดในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และในอนาคตจะขยายให้ครอบคลุมครบทุกสายทาง
ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนการชำระค่าผ่านทางในรูปแบบเงินสดมี 50% และเป็นระบบ Easy Pass 50% ซึ่งจากที่ กทพ.ได้ให้มีการทดลองระบบ EMV มาระยะหนึ่งมีผู้ใช้ไม่มาก เนื่องจากไม่มีการประชาสัมพันธ์มากนัก แต่ทั้งนี้ วางเป้าหมายว่าจะเพิ่มการใช้ระบบ EMV ทดแทนการชำระด้วยเงินสดทั้งหมดภายในระยะเวลา 5 ปี