เด็ดมากปากพนัง
ไม่มีหน้ากากส้มโอ ก็ไฮโซอยู่นะ
เรื่อง-ภาพ : ลานลม
แม้ปีนี้จะเป็นปีของทุเรียน ฮอตตั้งแต่หน้ากากทุเรียน บิงซูทุเรียน ทุเรียนหม้อไฟ บุฟเฟต์ทุเรียน ส้มตำทุเรียน ไปจนถึงทุเรียนพร้อมดื่ม รวมทั้งการประมูลทุเรียนเมืองนนท์ที่ราคาทะยานไปถึงสองแสน ขณะที่ทุเรียนโดยทั่วไปก็ยังขายได้ราคาดีไม่ตกต่ำเหมือนผลไม้อีกหลายประเภทที่ได้แค่แอบมองค้อน
แต่ยังมีผลไม้อีกหลายชนิดที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเองได้ด้วยเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ จะเรียกว่าเป็น Storytelling Marketing ก็ว่าได้ เช่นพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ที่หลายคนอาจจะรู้จักกันในนามของแหล่งคอนโดนก ที่สร้างมูลค่ามหาศาลให้กับชาวบ้าน และนายทุนที่ทุ่มงบสร้างตึกร้างไว้ให้นกแอ่นกินรังหรือนกนางแอ่นมาอาศัย
เดิมทีราว 80 ปีที่แล้ว บรรดานกนางแอ่นก็บินถลาเล่นลมจากท้องทะเลมาอาศัยอยู่ในบ้านคน แล้วก็เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จนคนคิดสร้างบ้านสูงๆ ที่มีลักษณะเหมือนถ้ำมืดๆ ให้นกมาอาศัยทำรัง มีพัฒนาการด้านการเก็บ ทำความสะอาด คัดแยก ตกแต่ง และบรรจุอย่างพิพีพิถัน ป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันรังนกได้พัฒนาทั้งแบบพร้อมดื่ม พร้อมปรุง รวมทั้งแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
มาเที่ยวปากพนังแล้ว จุดแรกที่ไม่ควรพลาด นั่นคือประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์ หนึ่งในโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม และเป็นจุดสตาร์ทของการท่องเที่ยวปากพนังเลยก็ว่าได้ จากนั้นก็ถึงเวลาที่จะอวดโฉมเจ้าหญิงแห่งวงการผลไม้กันแล้ว ออกจากตัวเมืองไปราว 10 กิโลเมตรตรงไปตำบลคลองน้อย เราจะเริ่มเห็นบรรยากาศของถนนสายส้มโอโชว์ความสะพรั่งของสีสันแดงสดดังทับทิม จนได้ชื่อว่า “ส้มโอทับทิมสยาม” และหากจะพบกับส้มโอทับทิมสยามของแท้ต้นตำรับ ก็ต้องไปสวนส้มโอป้าแดงลุงแอ๊ด
“ลุงแอ๊ด” ปลูกส้มโอมานานกว่า 20 ปี ลองผิดลองถูกในการผสมสายพันธุ์ส้มโอพันธุ์ทองดี จนได้ “ส้มโอทับทิมสยาม” ที่ทั้งสวยและอร่อย ปัจจุบันสวนของลุงแอ๊ดมีอยู่กว่า 60 ไร่ ส้มโอนับพันต้นทั้งพันธุ์ทองดีและทับทิมสยาม มาจากสองมือของลุงแอ๊ดล้วนๆ ปลูกมากับมือ ดูแลอย่างใกล้ชิด อาศัยเอกลักษณ์ของพื้นที่ซึ่งเป็นดินลักษณะพิเศษ ส้มโอทับทิมสยามจึงอร่ามแท้กว่าที่ไหน เรียกได้ว่าเป็นทรัพย์ในดินบวกกับภูมิปัญญาของปราชญ์ชาวบ้านอย่างลุงแอ๊ด จนปัจจุบันมีผู้เข้าไปศึกษาดูงานเป็นจำนวนมาก
ได้ชื่อว่าส้มโอทับทิมสยาม ที่ปลูกที่ไหนก็ไม่อร่อยเหมือนที่นี่ จึงมีมูลค่าที่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศถามหาราคาขายส่งจากหน้าสวนลุงแอ๊ดลูกละ 250 บาท ออกจากสวนไปแล้วราคาก็ขยับขึ้นเรื่อยๆ ห้างดังขายกันเป็นพันบาท ลองคิดดูเล่นๆ ว่า ส้มโอต้นหนึ่งจะออกลูกประมาณ 800-1,000 ผลต่อปี แค่นี้ก็ร้องว้าว ไม่ธรรมดาเลยใช่หรือไม่ เป็นที่ทราบกันว่าของดีของเด็ดบ้านเราก็มักจะเป็นที่สนใจของต่างชาติ ส้มโอทับทิมสยามจึงมีการส่งออกไปยังจีน เวียดนาม มาเลเซีย และฮ่องกง โดยเฉพาะจีนซึ่งมีออเดอร์แบบไม่จำกัด เรียกว่าเหมาสวนเลยก็เป็นได้ เพราะผลผลิตอออกมาเท่าไหร่ก็ยังไม่พอขาย น่าชื่นใจจริงๆ
เห็นส้มโอออกผลเต็มไปทั้งสวนก็แอบสงสัยว่า เปลือกมันก็เขียวๆ เหมือนกันไปหมด จะรู้ได้อย่างไรว่าผลไหนกินได้แล้ว ได้ความรู้มาว่า หลังจากที่ดอกขาวๆ ของต้นส้มโอร่วงหล่น เราก็จะเริ่มนับหนึ่ง ไปจนถึง 6 เดือนจึงจะเก็บได้ นั่นหมายความว่า ส้มโอ 1 ผล ใช้เวลาเติบโตถึงครึ่งปีเลยทีเดียว ถึงเวลาชิมก็พบกับความยากอีกระดับ เพราะส้มโอทับทิมสยามมีเปลือกบางกว่าส้มโอโดยทั่วไป การปอกจึงต้องพิถีพิถันมาก
และแล้วก็พบกับเนื้อสีแดงก่ำดั่งอัญมณี รสชาติก็หวานฉ่ำละมุนลิ้นสมราคาและการรอคอย
นับเป็นอีกผลไม้ที่กำลังฮอตสุดๆ แม้จะไม่เปรี้ยงปร้างถล่มโซเชียลเป็นบิงซูส้มโอ หรือหน้ากากส้มโอ แต่ก็สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับคนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และเป็นอีกกิจกรรมท่องเที่ยวที่เห็นแล้วต้องตาโต สาวกส้มโอไม่ควรพลาด
ชิมส้มโอแล้ว ตระเวนเที่ยวเมืองคอนได้อีกหลายวัน เพราะมีของดีสถานที่เด็ดๆให้ชมอีกมากมาย สโลแกนการท่องเที่ยวจังหวัดเขาบอกว่า “นครศรีดี๊ดี” ก็พิสูจน์มาแล้วว่า ของเขาดีจริงๆ
