Biznews

สลัดภาพธุรกิจครอบครัว ‘เซ็นทรัล รีเทล’ พร้อมเข้าตลาดฯต่อยอดผู้นำธุรกิจค้าปลีกไทยระดับโลก

บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ ‘CRC’ ประกาศข่าวดีเตรียมต้อนรับปีใหม่ของทศวรรษใหม่ พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO ครั้งประวัติศาสตร์ หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) และมีผลใช้บังคับเป็นที่เรียบร้อยในวันที่ 26 ธันวาคม 2562

โดย CRC ประกาศแผนเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 1,691,000,000 หุ้น โดยแบ่งออกเป็น (1หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,331,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 22.1 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกินซึ่งหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนดังกล่าว ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่     ผู้ถือหุ้นของบริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) หรือ ‘ROBINS’ ที่ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ผ่านการแลกหุ้น (Share Swap) และหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายและจัดสรรให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Hawthorn Resources Limited (ผู้ถือหุ้นเดิม) จำนวนไม่เกิน 360,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 6.0 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกินและอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Overallotment Option หรือ Greenshoeจำนวนไม่เกิน 169,100,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 10.0 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้ในการรักษาระดับราคาหุ้น (Stabilization) เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน

 

พร้อมกันนี้ CRC ประกาศเดินหน้าทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ ROBINS ที่ราคาเสนอซื้อ 66.50 บาทต่อหุ้น เพื่อแลกกับหุ้น IPO ของ CRC ตามช่วงอัตราแลกหุ้นเบื้องต้นที่1.39 ถึง 1.66 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของ CRC ต่อ 1 หุ้นสามัญเดิมของ ROBINS ในระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 (รวม 25 วันทำการ) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ (Tender Agent) หลังจากนั้นหุ้นของ ROBINS จะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมกับหุ้น IPO ของ CRC เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

 

คุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC)

ในการเสนอขายหุ้น IPO ของ CRC ในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญแก่นักลงทุนที่จะได้ร่วมเป็นเจ้าของและร่วมเติบโตไปกับ CRC ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจรีเทลในประเทศไทย ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม และผู้ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำด้าน Customer-Centric Omnichannel ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ผสมผสานจุดเด่นที่ดีที่สุดของออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ นำไปสู่มาตรฐานใหม่ของประสบการณ์ช้อปปิ้งที่สมบูรณ์แบบ สามารถนำเสนอสินค้าและบริการตรงตามความต้องการเฉพาะลูกค้าแต่ละราย ที่พร้อมสร้างยอดขายได้ทุกที่ทุกเวลาทุกช่องทาง

ทั้งนี้ จากข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 และรายงานจาก Euromonitor International “CRC” เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกผ่านรูปแบบที่หลากหลายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีร้านค้าทั้งหมดประมาณ 1,922 ร้านค้าใน 51 จังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้  CRC  ยังได้ขยายความสำเร็จไปยังต่างประเทศ โดยเป็นผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี รวมทั้งสิ้น 9 สาขา และยังเป็นผู้ประกอบการค้าปลีกข้ามชาติและค้าปลีกประเภท Hypermarket อันดับ 1 ในรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับ   ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในประเทศเวียดนาม ด้วยร้านค้าในรูปแบบต่าง ๆ จำนวน 133 ร้านค้า ใน 40 จังหวัด โดย CRC อยู่ในสถานะที่ดีในการจะก้าวเข้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีกหลากหลายรูปแบบที่ประสบความสำเร็จที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในภูมิภาคอื่นๆ

ในส่วนของผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 CRC มีรายได้รวม 159,506 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 6,298 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 4.1 จากรายได้รวมในช่วงระยะเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า

วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายสาขาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงการปรับปรุงสาขาต่าง ๆ อาทิ 

1. การขยายสาขาใหม่ของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ 

2. การขยายสาขาของไทวัสดุ  

3. การขยายสาขาของบิ๊กซี/GO! ในประเทศเวียดนาม         

4. การปรับปรุงสาขาต่าง ๆ ของแต่ละกลุ่มธุรกิจ และการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เพื่อโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมุ่งขยายความสำเร็จในระดับโลกอย่างมั่นคงในระยะยาว โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม 

ทั้งนี้ CRC มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมภายหลังจากหักภาษี และการจัดสรรทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและ CRC กำหนดไว้ในแต่ละปี

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button
X
%d bloggers like this: