วันอาทิตย์ (9 ม.ค.) อินเดียรายงานพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รายใหม่ 159,632 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าจากช่วงต้นปีหรือเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ซึ่งมียอดผู้ป่วยใหม่เพียง 27,553 ราย
เชื้อไวรัสฯ ยังคงแพร่กระจายในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ โดยผู้ป่วยที่พบส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน (B.1.1.529) ที่สามารถแพร่เชื้อได้สูง ซึ่งปัจจุบันพบใน 27 รัฐของประเทศ
อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ป่วยรายวันยังไม่สูงเท่ายอดที่พบระหว่างการระบาดในระลอกที่ 2 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสถานการณ์รุนแรงมากจนมีผู้เสียชีวิตหลายพันคนต่อวัน และเตาเผาศพต้องทำงานหนักตลอดทั้งวันเพื่อเผาศพหมู่
ตั้งแต่วันจันทร์ (3 ม.ค.) เป็นต้นมา จำนวนผู้ป่วยรายวันของอินเดียเพิ่มขึ้นกว่าสี่เท่าตัว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต่างเป็นกังวลว่าปริมาณผู้ป่วยจะล้นโรงพยาบาลในประเทศอีกครั้ง เพราะบรรดาโรงพยาบาลทั่วอินเดียเคยต้องดิ้นรนจัดหาออกซิเจนเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วย
เพื่อเลี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสฯ เจ้าหน้าที่ในหลายรัฐ เช่น เขตเมืองหลวงแห่งชาติเดลี อุตตรประเทศ ปัญจาบ ทมิฬนาฑู เบงกอลตะวันตก และกรณาฏกะ ต่างบังคับใช้ข้อจำกัดต่างๆ เช่น กำหนดเวลาเคอร์ฟิวช่วงกลางคืน สั่งลดการรวมกลุ่ม รวมถึงสั่งปิดห้างสรรพสินค้าและสถานบันเทิง
ปัจจุบัน รัฐมหาราษฏระ ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 หนักหน่วงที่สุด รายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 41,434 รายใน 24 ชั่วโมง ตามมาด้วยเดลีและเบงกอลตะวันตก ที่พบผู้ป่วยรายใหม่ 20,181 และ 18,802 ราย ตามลำดับ
กระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลกลางอินเดีย ระบุในวันอาทิตย์ (9 ม.ค.) ว่าผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ในปัจจุบัน คิดเป็นร้อยละ 1.66 ของยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมด ขณะที่อัตราการหายป่วยของประเทศอยู่ที่ร้อยละ 96.98 พร้อมเสริมว่าอัตราการติดเชื้อรายวันอยู่ที่ร้อยละ 10.21 ส่วนรายสัปดาห์อยู่ที่ร้อยละ 6.77 โดยนักเดินทางที่โดยสารเครื่องบินมาจากต่างประเทศจะต้องกักตัวที่บ้านเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากมาถึงอินเดีย และต้องทำการตรวจเชื้อในวันที่ 8
ที่มา สำนักข่าวซินหัว
