Biznews

อิชิตัน แหวกทาง “ตัน”

อิชิตัน แหวกทาง “ตัน”
โดย มังกร 4 ตา

หลังจากโบกมืออำลาแบรนด์ที่ตัวเองปลุกปั้นมากับมือจนประสบความสำเร็จถล่มทลายในตลาดเครื่องดื่มชาพร้อมดื่ม อย่าง โออิชิ จนหันมาปลุกปั้นแบรนด์ของตัวเองและสามารถแจ้งเกิดได้ไม่แพ้กัน อย่าง แบรนด์ อิชิตัน ของเสี่ยตัน ภาพสกรนที ผู้บริหาร นักการตลาดที่ต้องบอกว่า เขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หาตัวเปรียบได้ยาก

ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องจนมาระยะหลังๆ ที่ตลาดดังกล่าวถูกเบียดบังจากเครื่องดื่มประเภทอื่นๆที่เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งพร้อมทั้งช่วงชิงผู้บริโภคจนทำให้ตลาดชาพร้อมดื่มโดยเฉพาะชาเขียวเกิดอาการหดตัวแม้ว่า 2 ค่ายยักษ์คู่รักคู้แค้นทั้งโออิชิและอิชิตันจะพยายามยัดเยียดกลยุทธ์การตลาดที่เคยประสบความสำเร็จในช่วงหน้าร้อนอย่างแจกรางวัลใหญ่ใต้ฝาแต่ปีนี้กลับไม่เปรี้ยงเท่าที่ควร

ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งและน่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตลาดชาพร้อมดื่มหดตัวคือ การหันมาใส่ใจให้ความสำคัญกับสุขภาพซึ่งไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยแต่เป็นเทรนด์ทั่วโลกที่ต้องการให้ตัวเองดูดี หลีกเลี่ยงส่วนประกอบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น น้ำตาล กลายมาเป็นโจทย์ข้อสำคัญและการบ้านข้อใหญ่ที่ทั้งโออิชิและอิชิตันต้องกลับมาขบคิดให้แตก

โออิชินั้น สภาพการณ์ดังกล่าวปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลกระทบด้วยเช่นกันแต่ด้วยความที่เป็นองค์กรใหญ่ มีแบ็กอัพที่แข็งแกร่งอย่างไทยเบฟที่ยืนค้ำจุนคอยประคองอยู่ตลอดเวลา การบาดเจ็บจึงไม่มากนักเมื่อเทียบกับราชาผู้โดดเดี่ยวอย่างเสี่ยตัน ณ อิชิตัน ที่งานนี้เขาต้องกัดฟันสู้อีกเฮือก

หมากเกมแรกที่เสี่ยตันเลือกใช้คือ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัทอนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ บริษัทอิชิตัน พาวเวอร์ จำกัด (ICHITAN POWER CO.,LTD) เพื่อประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องดื่มทุกชนิดทั้งภายในและต่างประเทศ ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ อิชิตัน กรุ๊ป ได้รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/60 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.60 (รวมบริษัทย่อย) ดังนี้ไตรมาสแรก ปี 60 มีผลกำไร(ขาดทุน)สุทธิ 62.46 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวของปีที่แล้วที่ทำรายได้ไว้ 249.80 ล้านบาท ขณะที่กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) ไตรมาสแรกที่ผ่านมาทำได้ 0.05 ลดลงจากช่วงเดียวของปีก่อนที่ทำไว้ 0.19 ลดลงถึงร้อยละ 74.99 โดยผลการดำเนินงานในช่วงดังกล่าวมีกำไรลดลง เนื่องจากรายได้จากการขายลดลง

หมากเกมต่อมาของตัน ภาสกรนที ในฐานะ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน พาวเวอร์ จำกัด เตรียมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัว T247 เครื่องดื่มเอนเนอร์จี้ดริงค์ไฮบริดแนวใหม่ สำหรับผู้ชายที่ต้องการพละกำลัง “จะกี่ T ก็ทำได้” ในงาน All Day All Night With T247 – จะกี่ T ก็ทำได้ กับ 2 รสชาติใหม่ ที่ไม่เหมือนใคร พร้อมแนะนำ 2 พรีเซ็นเตอร์หนุ่มหล่อ เจ-เจตริน วรรธนะสิน และ สน-ยุกต์ ส่งไพศาล ตัวแทนชายแกร่งทั้งแบบ “Strong” และ “Smart” ในวันอังคารที่ 23 พฤษภาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป ณ ลาน Hard Rock สยามสแควร์ ซอย 11

น่าสังเกตว่า งานนี้เสี่ยตันเลือกที่จะบุกตลาดเครื่งดื่มเอนเนอ์จี้ดริ้งค์ที่มีมูลค่าประมาณ 36,000 ล้านบาท น่าจะเนื่องมาจากสำนักวิจัยแคนาดีนผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยตลาดเครื่องดื่มได้คาดการณ์ว่า ตลาดเครื่องดื่มโลกจะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีน้ำอัดลมเป็นสินค้าหลักด้วยปริมาณการบริโภคทั่วโลกที่จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านลิตร ตามด้วยเครื่องดื่มร้อนและนมชนิดต่าง ๆ

โดยตลาดเครื่องดื่มเอเชียจะขยายตัวต่อเนื่องจนมีสัดส่วน 47.2% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดโลกในปี 2564 ตามด้วยละตินอเมริกา ซึ่งมีสัดส่วน 17.2% และในขณะที่ตลาดทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก จะมีสัดส่วนเพียง 8.7% และ 9.2% ตามลำดับลดลงกว่า 18% จากที่เคยมีสัดส่วนรวมกัน 30% ของตลาดโลกเมื่อปี 2543

ทั้งนี้ ใน 10 ประเทศที่บริโภคเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นมากที่สุดระหว่างปี 2559-2564 นั้น จะเป็นประเทศจากเอเชียถึง 6 ใน 10 ประกอบด้วย จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน ไทย และเวียดนาม ซึ่งมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของปริมาณการบริโภคที่จะเพิ่มขึ้น โดยมีจีนเป็นตลาดหลัก ซึ่ง เอเนอร์จี้ดริงก์จะเป็นดาวเด่นในตลาดเอเชีย โดยการบริโภคจะเพิ่มขึ้น 11.5% ด้วยแรงหนุนจากกระแสสุขภาพที่กำลังเฟื่องฟูในจีน ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจกับอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น

ขณะที่ตลาดเอเนอร์จี้ดริ้งค์บ้านเราในรอบหลายปีที่ผ่านมาก็ถือว่ามีการขับเคี่ยวกันอย่างรุนแรงของตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ไทย ดังจะเห็นได้จากการทุ่มงบประมาณมหาศาลในการขยายการลงทุนและดำเนินกิจกรรมทางการตลาด รวมไปถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องของผู้ประกอบการรายเดิม หรือแม้แต่ความพยายามในการแยกเซกเมนต์ใหม่ของผู้ประกอบการหน้าใหม่ ตลอดจนกลยุทธ์ที่ใช้ในการแข่งขันด้วยรูปแบบต่างๆ

ซึ่งโดยรวมถือว่ายังมีศักยภาพและโอกาสเติบโตอีกมากด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะกระแสความนิยมสินค้าเพื่อสุขภาพที่แผ่กระจายไปยังผู้บริโภคแทบจะทุกเพศทุกวัย รวมไปถึงสภาพอากาศของเมืองไทยที่ร้อนอบอ้าวทำให้มีความต้องการบริโภคเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น ตลอดจนปัจจัยด้านราคาที่ยังถือว่าสมเหตุสมผลในราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 10 บาทขึ้นไป จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ในยุคปัจจุบันจึงมีผู้เล่นที่หลากหลายทั้งในส่วนของผู้เล่นเก่าในตลาด รวมทั้งรายล่าสุดอย่าง เสี่ยตัน ณ อิชิตัน ที่กำลังแหวกทาง ตัน อยู่ในเวลานี้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้อิชิตันหวังว่าไบเล่ที่ลงทุนซื้อแบรนด์มาจะเป็นอีกหนึ่งความหวังในการแหวกทางตันของตลาดเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มแต่ด้วยความแรงจนยากที่จะแซงได้ของแมนซั่มและบิวตี้ดริ้งค์ทำให้ตันตัดสินใจโดดลงตลาดเอนเนอจี้ดริ้งค์ในที่สุด

อนึ่ง บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ICHITAN GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED ; ชื่อย่อ:ICHI เป็นบริษัทในประเทศไทย ประกอบธุรกิจผลิตเครื่องดื่ม โดยมีผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงคือ เครื่องดื่มชาเขียว “อิชิตัน” ได้จดทะเบียนเข้าในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้ทำการซื้อขายหุ้นวันแรก ณ วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 กลายเป็น บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 อิชิตัน กรุ๊ป เข้าทำรายการซื้อสิทธิ์ ในเครื่องหมายการค้า “ไบเล่” (BIRELEY) พร้อมสูตรการผลิตจากบริษัท ซันนี่ เฮิร์บ อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ จำกัด (SUNNY) และอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในที่ดิน อาคาร ระบบติดตั้งภายใน เครื่องจักร และอุปกรณ์เพื่อใช้ในการผลิต รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,780 ล้านบาท

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: