ออกตัวแรงว่า “ไม่ใช่สินค้าที่เป็นดัชนีที่ผกผันกับเศรษฐกิจอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เมื่อเศรษฐกิจดี มาม่าก็โตดี ยามเศรษฐกิจไม่เป็นใจ มาม่าก็โตน้อยหน่อย” นั่นคือคำพูดของ เวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ที่ล่าสุด ออกมาบอกว่า ภาพรวมของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปีนี้มีแนวโน้มทีสดใส โดยเฉพาะในครึ่งปีแรกตลาดรวมโต 6.5% ซึ่งไม่เคยโตแบบนี้มาก่อนมีบางปีที่ไม่โตเลย หรืออย่างมากก็ 1-2% แต่ปีนี้ทั้งปีคาดว่าตลาดรวมจะโตประมาณ 6% ขณะที่ มาม่า ยอดขายครึ่งปีแรกเติบโต 11.6%
โดยภาพรวมของมาม่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 มียอดขายรวมอยู่ที่ 4,600 ล้านบาท เติบโตจากครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมาถึง 11.6% โดยในปีนี้ได้มีการวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นโดยเฉพาะเทรนด์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพ โดยมาม่าจะบุกตลาดในครึ่งปีหลังด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก 5 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ มาม่าข้าวต้มคัพ 3 รสชาติใหม่ คือ รสเล้งแซบ รสซุปไข่สาหร่าย และรสกุ้งกระเทียม พร้อมขยายโปรดักส์ไลน์ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออเรียนทัลคิตเชน หรือมาม่า OK จากรูปแบบซองเป็น Cupใหญ่ อีก 2 รสชาติ คือ มาม่าคัพ OK รสฮอตโคเรียน แบบแห้ง ไซส์ใหญ่ 80 กรัม และ มาม่าคัพ OK รสผัดไข่เค็ม แบบแห้ง ไซส์ใหญ่ 80 กรัม
“มาม่าตอกย้ำแบรนด์อันดับ 1 ในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ด้วยการพัฒนาสินค้าที่ครองใจผู้บริโภค ซึ่งในปีนี้เราได้เพิ่มสินค้าให้เป็นทางเลือกที่หลากหลายขึ้น โดยเน้นการต่อยอดความสำเร็จจากสินค้าเดิมที่ได้รับความนิยม ที่ผ่านมาสินค้าข้าวต้มคัพ รสหมูสับกระเทียมพริกไทย ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เราจึงได้พัฒนามาม่าข้าวต้มคัพเพิ่มอีก 3 รสชาติใหม่ โดยใช้ข้าวหอมมะลิแท้ 100% เป็นข้าวเต็มเมล็ด ไขมันต่ำ เพื่อตอบโจทย์คนรักสุขภาพโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังได้ขยายโปรดักส์ไลน์ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า OK ที่ได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี จากเดิมที่เป็นซองให้เป็นแบบ Cupใหญ่ซึ่งใช้นวัตกรรมฝา 2 ชั้นสำหรับบะหมี่แบบแห้ง ที่ช่วยให้เทน้ำออกได้สะดวก สามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น โดยจะจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.sahapatdelivery.com รวมถึงห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าทั่วไป นอกจากนี้ มาม่า OK ยังมีแผนที่จะโปรโมตสินค้าใหม่ ทั้งทาง Above the line และออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของผลิตภัณฑ์มาม่า OK ที่เป็นวัยรุ่น โดยเนื้อหาจะเน้นสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคทราบถึงการออกสินค้าใหม่ที่เป็นแบบถ้วย และวิธีการทำมาม่าแห้งแบบถ้วยที่สะดวกและรวดเร็ว” นายเวทิต กล่าว
นอกจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว มาม่ายังได้จัดแคมเปญใหญ่แห่งปี “มาม่าคัพเปิดรหัสคัพลุ้นขับ MG” ร่วมกับบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ MG ซึ่งคาดการณ์ว่าแคมเปญนี้จะสามารถเพิ่มยอดขายมาม่าคัพได้ 20 เปอร์เซ็นต์ โดยมาม่าได้ทุ่มงบประมาณกับแคมเปญนี้อย่างเต็มที่ เพื่อคืนกำไรให้ผู้บริโภคได้ลุ้นรางวัลใหญ่ คือ รถยนต์ New MG Zs มูลค่า 789,000 บาท รวม 3 คัน และรางวัลอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท โดยสินค้ามาม่าที่ร่วมรายการ ได้แก่ มาม่าคัพ มาม่าออเรียนทัลคิตเชนคัพ มาม่าโจ๊กคัพ และ ข้าวต้มคัพ เฉพาะรุ่นที่มีรายการโปรโมชั่นข้างถ้วย ภายใต้งบ 50 ล้านบาท
เวทิตย้ำว่า สาเหตุที่มาม่ามีการเติบโตมากเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งมาจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ภาครัฐออกมาสนับสนุนให้ประชาชนโดยเฉพาะคนรากหญ้ามีโอกาสจับจ่ายใช้สอยสินค้าพื้นฐานที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งมาม่าถือเป็นหนึ่งในสินค้าพื้นฐานของคนทั่วไป
ปัจจุบันตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีมูลค่าตลาดกว่า 20.000 ล้านบาท แบรนด์มาม่า มียอดขาย 10,350 ล้านบาท ครองอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งราว 51% ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีมาร์เก็ตแชร์ 47% ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องมาจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์มาม่าโอเคในช่วงกลางปีที่ผ่านมา รวมทั้งผลิตภัณฑ์ข้าวต้ม จึงเป็นที่มาของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้จำนวน 5 รายการดังกล่าว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ข้าวต้มที่มาม่าเปิดตัวทำให้ตลาดข้าวต้มมีมูลค่าพิ่มขึ้นจาก 15 ล้านบาท ขยับเป็น 60 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 160 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 190 ล้านบาทในปี 2563 เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กรกฏาคม – 15 ตุลาคม 2562 รวมระยะเวลา 3 เดือนเต็ม
