Biznews

อักษรเอ็ดดูเคชั่น ชวนครูสอนเชิงรุกรับ 4.0

ตลอดระยะเวลากว่า 80 ปี บริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (มหาน) คือผู้นำด้านนวัตกรรมการเรียนการสอนในระดับปฐมวัยจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยออกแบบกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบของโซลูชั่น (Education Solution Design) อันประกอบไปด้วยหนังสือเรียน แบบฝึก หนังสือและชุดอุปกรณ์เสริมความรู้ สื่อการเรียนในรูปแบบดิจิทัล ของเล่นเพื่อการศึกษาและเสริมศักยภาพ อุปกรณ์การเรียนที่ดึงดูดใจให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ รวมไปถึงโปรแกรมพัฒนาครูผู้สอน

ทุก ๆ ปี อักษรจัดอบรมสัมมนากว่า 400 ครั้งทั่วประเทศ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับครูผู้สอนกว่า 70,000 คน ในหัวข้อต่าง ๆ อาทิเช่น คอร์สอบรมเรื่องศาสตร์และเทคนิควิธีการสอน การเข้าไปมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน เป็นต้น อักษร เอ็ดดูเคชั่น จุดประกายความคิดให้กับครูผู้สอนด้วยคู่มือการเรียนการสอน และหวังจะเป็นหนึ่งของการผลักดันอนาคตของชาติให้กลายเป็นพลเมืองที่ดี มีความรู้ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท อักษรเจริญทัศน์ เน้นกลุ่มสินค้าประเภทหนังสือเรียน แบบฝึกหัด บริษัท อักษร อินสไปร์ กลุ่มสินค้าแบบฝึกหัด สื่อส่งเสริมการเรียนรู้ นิทานภาพ วรรณกรรม และบริษัท อักษร เนกซ์ เน้นสื่อพัฒนาทักษะสำหรับเด็กที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดความบกพร่องทางการเรียนรู้

ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมสื่อการเรียนการสอนครบวงจร ล่าสุด ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมจุดประกายครูผู้สอนด้วยการสร้างแรงบันดาลใจให้กับสถานศึกษา ด้วยการจัดสามโครงการสัมมนาเชิงวิชาการใหญ่แห่งปีต่อเนื่องสามวัน ได้แก่ งาน Science Innovation 4.0 งานภาษาไทย ภาษาชาติ และ งาน Excellence in English Program Management มุ่งเน้นแนวทางบูรณาการองค์ความรู้และการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) สู่การยกระดับผลสัมฤทธิ์และเสริมสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน รวมถึงสร้างความเข้าใจในบทบาทของครูต่อการเตรียมความพร้อมสู่การศึกษา 4.0 โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรชั้นนำของประเทศ พร้อมทั้งครูและผู้บริหารสถานศึกษาเข้าร่วมตลอดการสัมมนาสามวัน

ตะวัน เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า ครู คือ หัวใจสำคัญในการสร้างทักษะให้กับเด็กเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโลกยุคใหม่ การพัฒนาเด็กไทย ครูและสถานศึกษาจำเป็นต้องตระหนักถึงบทบาทของตนในแนวทางการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนการส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถนำองค์ความรู้ไปประยุกต์คิดสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม งานสัมมนาวิชาการที่เราได้จัดร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนนี้มุ่งเน้นเทคนิค วิธีการ และกลยุทธ์ให้กับครูผู้สอน สามารถจัดกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) เสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ และสนับสนุนทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งครูและผู้บริหารสถานศึกษาสามารถนำไปเป็นแรงบันดาลใจปรับใช้ให้เข้ากับบริบทในแต่ละสถานศึกษาได้ โดยในปีนี้เราได้เรียนเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายแขนงเข้าร่วมเสวนา ซึ่งได้รับความสนใจจากครูและผู้บริหารสถานศึกษาลงทะเบียนเข้าร่วมสัมมนาเต็มตลอดทั้งสามวัน โดยเราเปิดให้ลงทะเบียนผ่านออนไลน์ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายทุกงาน

สำหรับวันแรกเป็นการจัดงาน Science Innovation 4.0 ในชื่อ โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ยุทธศาสตร์การบริหารสถานศึกษา และการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) สำหรับผู้เรียนวิทยาศาสตร์แห่งศตวรรษที่ 21 ภายใต้กรอบแนวคิดเตรียมความพร้อมสู่

วันถัดมาคืองาน ภาษาไทย ภาษาชาติ ครั้งที่ 3 หรือ โครงการสัมมนาวิชาการ สมรรถนะภาษาไทยกับการพัฒนาขีดความสามารถของเยาวชนไทย สู่การศึกษาประเทศไทย 4.0 ภายใต้แนวคิด สมรรถนะภาษาไทยกับการพัฒนาขีดความสามารถของเยาวชนไทย สู่การศึกษาประเทศไทย 4.0 โดยเน้นไปที่แนวทางการรองรับการประกันคุณภาพสถานศึกษาทั้งภายในและภายนอก สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาสมรรถนะทางภาษาไทยอันเป็นภาษาแม่ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีแนวทางในการส่งเสริมให้ผู้เรียนนำองค์ความรู้ไปประยุกต์คิดสร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียนรู้

และในวันสุดท้ายของการสัมมนา คือ โครงการสัมมนาเชิงวิชาการสำหรับผู้บริหารโครงการ EP โครงการสัมมนาผู้บริหารจัดการโครงการหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ : เตรียมความพร้อมสู่การศึกษา Thailand 4.0” โดยกรอบสาระมุ่งเน้นไปที่บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการพัฒนานวัตกรรมด้านการศึกษาหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษให้ได้มาตรฐานสากล ตามกรอบของการศึกษายุคประเทศไทย 4.0 และทราบถึง กลยุทธ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างผลลัพธ์ของผู้เรียน และผลการทดสอบระดับชาติ

ชัยณรงค์ ลิมป์กิตติสิน กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น ยอมรับว่า ปัจจุบันตลาดหนังสือในสถาบันการศึกษาโดยเฉพาะโรงเรียนเป็นตลาดที่เติบโตน้อยจนถึงทรงตัว เนื่องมาจากอัตราการเกิดของเด็กที่ลดลง ส่งผลให้เด็กหายไปจากระบบการศึกษาประมาณ 2% ต่อปี ขณะเดียวกันอัตราการอ่านหนังสือของคนไทยก็ลดลงมากกอรปกับการเข้ามาของเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้ต้องมีการปรับตัวรองรับพฤติกรรมดังกล่าวด้วยการผลิตสื่อดิจิทัลเข้ามาเสริมเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งการจัดทำแบบฝึกหัดที่ยังมีน้อยในปัจจุบัน แต่เป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการของโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนเอกชนที่สนใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ

ขณะเดียวกัน ยังเห็นช่องว่างในตลาดจากปัจจุบันที่สื่อเสริมการเรียนการสอนที่มีอยู่ในขณะนี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบบมาให้สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษา ดังนั้นจึงเน้นการพัฒนาสื่อเสริมการเรียนการสอนที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับแผนการสอนของครูเพื่อให้นำไปสอนเด็กนักเรียนในรูปแบบของสื่อดิจิทัลในวิชาต่างๆ เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจให้เด็กมากขึ้นรองรับการศึกษาไทยแลนด์ 4.0

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: