หิวเมื่อไหร่ ไม่ต้องแวะมา! 7-ELEVEN เสิร์ฟตรงถึงบ้าน
ปัจจุบันนี้หลายธุรกิจต่างหันมาใช้บริการส่งด่วนหรือที่นิยมเรียกว่า Delivery กันมากขึ้น เพื่อใช้เป็นหนึ่งในช่องทางการเพิ่มยอดขาย รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในยุคที่ลูกค้ายิ่งกว่าพระเจ้าที่หลายธุรกิจต้องพากันปรับตัวรองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจึงได้เห็นบริการจัดส่งหลากหลายแบรนด์เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดกันอย่างครึกครื้นหวังครองใจผู้บริโภคยุค 4.0
ตลาดเดลิเวอรี่อาหาร (Food Delivery) ในไทยกำลังมีการแข่งขันอย่างหนัก ปัจจุบันตลาดนี้มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 26,000 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นทุกปี เฉลี่ยปีละ 11-15% โดยผู้เล่นในตลาดมีหลากหลายแบรนด์ตั้งแต่ LINE MAN, Grab Food, Food Panda ไปจนถึงสายส่งอาหารสดถึงบ้านอย่าง Happy Fresh และ Honestbee
ขณะที่เดลิเวอรี่กำลังแข่งขันอย่างหนักหน่วงนั้น พลันต้องเจอกับคู่แข่งยักษ์ใหญ่ในธุรกิจร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-ELEVEN ใต้ปีกซีพีกระโจนเข้ามาร่วมแจมด้วยสรา้งความสั่นสะเทือนให้กับวงการเดลิเวอรี่เพิ่มขึ้นไปอีกหลายองศา ภายใต้ชื่อ ALL DELIVERY บริการส่งอาหารฟรีถึงบ้าน เงื่อนไขในการสั่ง เปิดบริการตั้งแต่ 07-22.30 น.จำนวนสั่งขั้นต่ำ 70 บาท (ส่งฟรีตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2561 )
แอดมินได้ทดลองโทรไปสอบถามรายละเอียดการจัดส่งสินค้าของ ALL DELIVERY แล้วปรากฏว่า สาขาที่ทดลองให้บริการสาขาแรกและยังเป็นสาขาเดียวคือ สาขาดินแดง โดยรับประกันการจัดส่งสินค้าถึงบ้านภายในระยะเวลา 30 นาที ช่วงแรกฟรีไม่คิดค่าบริการ ก่อนที่จะขยายไปยังสาขาอื่นๆ ต่อไป ซึ่งพนักงานที่ทำหน้าจัดส่ง 7-ELEVEN ได้เอ้าท์ซอร์สมาอีกทีหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม โมเดลการส่งของจาก 7-ELEVEN ถึงหน้าบ้านในไทยไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ 7-ELEVEN ในญี่ปุ่นได้เริ่มทดลองการส่งของแบบเดลิเวอรี่มาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม พร้อมทั้งเตรียมขยายบริการไปกว่า 20,000 สาขาทั่วญี่ปุ่น
ต้องถือว่า ร้านสะดวกซื้อ 7 – ELEVEN เข้าร่วมสังฆกรรมตลาดเดลิเวอรี่ในไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะ 7 – ELEVEN ญี่ปุ่น ได้เปิดให้บริการเดลิเวอรี่ถึงบ้านมาแล้วในปีนี้ โดยเริ่มต้นที่แรกในฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนตุลาคมนี้ ภายใต้การการันตี ส่งสินค้าภายใน 2 ชั่วโมงก่อนที่จะขยายบริการไปยังกว่า 1,000 แห่งในเดือนสิงหาคมปี 2019 และครอบคลุมให้ครบกว่า 20,000 สาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ทาง Lazada และ Ninja Van ได้ร่วมมือกับซัพพลายเชนร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในสิงคโปร์เพื่อให้ร้านเซเว่นเกือบ 350 แห่งทั่วประเทศเป็นจุดรวบรวมและผู้ซื้อออนไลนฺสามารถรับสินค้าที่ซื้อจากลาซาด้าและนินจาแวนได้ที่ร้านเซเว่น ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าขนส่งและเพิ่มความสะดวกให้แก่นักช้อปออนไลน์ รวมทั้งใช้เซเว่นที่มีเครือข่ายจำนวนมากและทั่วถึงให้เป็นเครือข่ายจุดเก็บของที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ อีกด้วย โดยเฟสแรกจะเริ่มจากบริการร้านเซเว่นจำนวน 159 แห่ง และจะขยายครบกว่า 350 แห่งภายในสิ้นปีนี้
โดยนักช้อปออนไลน์สามารถระบุร้านเซเว่นใกล้บ้านที่ต้องการไปรับสินค้า ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะมีผู้รับสินค้าแน่นอน และลดปัญหากรณีส่งสินค้าถึงบ้านแต่ผู้รับไม่อยู่บ้านอีกด้วย
การเข้ามายังธุรกิจเดลิเวอรี่ในครั้งนี้ของ 7-ELEVEN จะส่งแรงกระเพื่อมในตลาดมากน้อยแค่ไหน แว่วๆ วาาเดือนหน้าจะมีบริการใหม่ชื่อ SPEED D ซึ่งรายละเอียดจะเปนเช่นรัยนั้น ต้องติดตาม
ที่แน่ๆ 7-ELEVEN เป็นทุกอย่างให้คุณแล้วจริงๆ