Biznews

หมัดใหม่ “คาราบาว” เจาะคนรุ่นใหม่ดิ้นสู้ฟัดตลาดหดตัว

ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง มูลค่าตลาดรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท ในปี 2561 ที่มี “โอสถสภา” เจ้าของแบรนด์ “เอ็ม-150” ครองความเป็นเจ้าตลาดมาหลายสิบปี ตามด้วย “คาราบาว กรุ๊ป” ที่เบียด กลุ่มธุรกิจทีซีพี” เจ้าของ “กระทิงแดง” หล่นจากเบอร์ 2 ไปเป็นเบอร์ 3 ท่ามกลางสภาพตลาดที่ติดลบ การขยับตัวพร้อมทั้งงัดกลยุทธ์หมัดมวยการตลาดใหม่ๆ จึงถูกนำมาฟาดฟันกันเพื่อเอาตัวรอด

ล่าสุด ผู้เล่นอันดับ 2 มาแรงอย่าง “คาราบาว” ปล่อยหมัดใหม่ด้วยการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น หลังจากพบว่า จำนวนการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนอายุ 25-34 ปีที่มีสัดส่วน 16% จากจำนวนคนดื่มทั้งหมด พบว่ามีอัตราการดื่มเพิ่มขึ้นกว่า 100% ในปี 2017 เทียบปี 2016

นอกจากนี้เพื่อให้ดำเนินไปตามแผนการตลาดของคาราวบาว ที่ต้องการจะเป็นที่หนึ่งของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังภายใน 3 ปี ในประเทศไทย พร้อมตอกย้ำการเป็นผลิตภัณฑ์ระดับโลก แบรนด์ระดับโลก (World Class Product, World Class Brand) คาราบาวได้ยกระดับแบรนด์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น เนื่องจากเห็นความสำคัญของกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งจะเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดโลก โดยอายุของผู้บริโภคที่ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังน้อยลง ดังนั้นคาราบาวจึงต้องการที่จะเป็นกำลังใจสนับสนุนคนหนุ่มสาวเหล่านี้ในการขับเคลื่อนสังคมภายใต้ Massage “ทำให้สุดฝีมือ” ด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “ทำให้สุดฝีมือ” (Do your best) ความยาว 60 วินาที ซึ่งออกอากาศไปเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา

นายกฤษณ์พงษ์ นิลวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ใช้งบการตลาดรวม 100 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์การปรับภาพลักษ์ทันสมัยผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ที่ต้องการจับกลุ่มเป้าหมายของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต พร้อมสอดแทรกดีเอ็นเอความเป็นนักสู้ของแบรนด์ ภายใต้ message “ทำให้สุดฝีมือ” ที่เป็นคำในหัวใจของคนที่สู้เพื่อชัยชนะเพื่อความสำเร็จ เพื่อการเป็นที่หนึ่งโดยไม่ย่อท้อ คาราบาวต้องการสนับสนุน และกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายทำทุกอย่างให้เต็มที่ และสุดความสามารถ เพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายที่ต้องการ เช่นเดียวกับเป้าหมายของแบรนด์คาราบาวสู่การเป็นผู้นำตลาดในอนาคตข้างหน้านี้ รวมทั้งช่องทางการสื่อสารใหม่นั่นคือช่องทางออนไลน์เพื่อให้โดนใจกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ขณะเดียวกันก็รักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ด้วย

กฤษณ์พงษ์ บอกว่า ประเทศในแถบเอเชียรวมถึงไทยยังเป็นประเทศที่กลุ่มผู้ดื่มเครื่องชูกำลังยังเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช่้แรงงานเป็นหลัก ขณะที่ประเทศในแถบยุโรปจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมดื่มชูกำลังและคาดว่าประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียจะค่อยๆ ทรานฟอร์มกลุ่มคนดื่มไปเรื่อยๆ

ขณะเดียวกัน เพื่อตอกย้ำความเป็นสินค้าระดับโลก แบรนด์ระดับโลก (The World Class Product, World Class Brand) คาราบาวเพิ่มศักยภาพการผลิตเต็มสูบ ด้วยการควบรวมศูนย์กลางโรงงานผลิตขวดและกระป๋อง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เน้นการผลิตคุณภาพระดับโลก รองรับธุรกิจเติบโตทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้งบลงทุน 8,700 ล้านบาท (ไม่รวมที่ดิน)

นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการ และ Chief Productions Officer (CPO) กลุ่มโรงงาน บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้าคาราบาวแดงและคาราบาว ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ คาราบาวกรุ๊ป (CBG) ได้ย้ายสายการผลิตทั้งหมดมารวมกันที่ศูนย์กลางผลิตแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ภายในพื้นที่ 180 ไร่ ตามโครงการขยายกำลังผลิตเชิงบูรณาการแนวดิ่ง อันประกอบด้วยโรงงานผลิตขวดแก้ว (APG) โรงงานบรรจุสินค้าเครื่องดื่มชูกำลัง (CBD) และโรงงานผลิตกระป๋องอลูมิเนียม (ACM) ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท SHOWA DENKO Group จากญี่ปุ่น โดยใช้งบลงทุนกว่า 2,200 ล้านบาทในการก่อสร้างโรงงานผลิตกระป๋อง ทำให้คาราบาวกรุ๊ปมีกำลังการผลิตกระป๋องของตัวเองถึง 1,000 ล้านกระป๋องต่อปี

“จากนโยบายการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ฝ่ายผลิตของเราต้องเตรียมพร้อมตัวเองในทุกๆ ด้าน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้การขยายฐานผลิตของเราไม่เพียงเพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านปริมาณเท่านั้น แต่เราได้มีการลงทุนในด้านคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อให้ได้มาตรฐานการผลิตระดับโลก ให้สมกับการเป็น World Class Product ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบรรจุสินค้าแบบขวดและแบบกระป๋องความเร็วสูงมาก ระบบผสมเครื่องดื่มพร้อมบรรจุอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบคุณภาพขวดแก้ว ระบบ QA / QC ระบบ Supply Chain ระบบ Warehouse Management รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย และการสร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” นายกมลดิษฐ กล่าวและย้ำว่า จากประสบการณ์และความทุ่มเทของทีมผู้บริหารและของพนักงานทุกคนของกลุ่มบริษัท ศูนย์กลางการผลิตแห่งนี้ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนการผลิต และทำให้เราประกอบธุรกิจสายการผลิตที่เป็นมิตรกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมั่นใจได้ว่าสินค้าของคาราบาวมีคุณภาพระดับโลก พร้อมที่จะนำออกสู่ผู้บริโภคและแข่งขันกับสินค้าระดับสากลได้อย่างสง่างาม ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในความเป็นบริษัทมหาชน

ทั้งนี้ การร่วมทุนกับ SHOWA DENKO Group ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ของบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดด้วยฐานการผลิตและมีศูนย์สนับสนุนทางเทคนิคถึง 3 แห่งในประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทที่จะต่อยอดธุรกิจแบบครบวงจรสู่อุตสาหกรรมต้นน้ำ และสานต่อเป้าหมายของเราที่จะเป็นที่หนึ่งในธุรกิจ การมีโรงงานผลิตกระป๋องอลูมิเนียมของคาราบาวเอง นอกจากจะลดการพึ่งพิงกระป๋องอลูมิเนียมที่จัดหาจากบุคคลภายนอกและสนับสนุนการเติบโตของเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้าคาราบาวในต่างประเทศ รวมถึงช่วยลดต้นทุนแล้ว ยังจะช่วยเพิ่มผลกำไรได้ในระยะยาว และหากมีกำลังการผลิตส่วนเกินนอกเหนือจากที่ป้อนให้ทางกลุ่มบริษัทแล้ว ยังจะสามารถผลิตและจำหน่ายให้แก่ลูกค้ารายอื่นตามคำสั่งซื้อ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจต่อไปอีกด้วย

เพื่อให้ดำเนินไปตามแผนการตลาดของคาราวบาว ที่ต้องการจะเป็นที่หนึ่งของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังภายใน 3 ปี ในประเทศไทย พร้อมตอกย้ำการเป็นผลิตภัณฑ์ระดับโลก แบรนด์ระดับโลก (World Class Product, World Class Brand) คาราบาวได้ยกระดับแบรนด์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น เนื่องจากคาราบาวเห็นความสำคัญของกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งจะเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดโลก โดยอายุของผู้บริโภคที่ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังน้อยลง ดังนั้นคาราบาวจึงต้องการที่จะเป็นกำลังใจสนับสนุนคนหนุ่มสาวเหล่านี้ในการขับเคลื่อนสังคมภายใต้ Massage “ทำให้สุดฝีมือ” ด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “ทำให้สุดฝีมือ” (Do your best) ความยาว 60 วินาที ซึ่งออกอากาศไปเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ คาราบาวยังวางเป้าหมายบุกพื้นที่ภาคอีสานอย่างเต็มกำลังเนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่โดยมีสัดส่วน 30% จากตลาดรวมทั้งประเทศ โดยรุกทำตลาด จัดกิจกรรมลงพื้นที่โดยใช้ทีมสาวบาวแดงเป็นหัวหอกในการทำตลาดแบบเจาะลึกในแต่ละพื้นที่ ซึ่งปัจจุบัน เอ็ม150 เป็นผู้นำ แต่เชื่อว่าหากคาราบาวสามาารถเจาะตลาดได้จะทำให้แผนขึ้นเป็นผู้นำตลาดได้เร็วขึ้น

จากเป้าหมายและแผนรุกตลาดที่คาราบาวแดงเผยมาครั้งนี้ สะท้อนได้ว่า ตลาดชูกำลังกว่า 3 หมื่นล้านบาทจะยังดุเดือดไปอีกยาวๆ แม้ตลาดจะยังอยู่ในภาวะหดตัวก็ตาม

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: