Auto

ส่องไฮไลท์ขบวนรถหรู ‘Motor Expo 2020’

เปิดฉากอย่างเป็นทางการสำหรับ มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 หรือ Motor Expo2020 ซึ่งปีนี้มากับแนวคิด “พร้อมขับเคลื่อน ไปในความเปลี่ยนแปลง Whatever Changes will be…Move on” โดยยังคงจัดงานที่ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม นี้ ซึ่งบรรดารถหรูไม่พลาดที่จะยกขบวนทัพรถยนต์มากมายหลายรุ่นมาให้ชมกัน  

 

‘เปอโยต์’  จับ 2008 มาโชว์ ก่อนขายจริงปีหน้า

บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ เปอโยต์ อย่างเป็นทางการ ภายใต้กลุ่มธุรกิจ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จัดทัพยนตรกรรมฝรั่งเศส บุกงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 หรือ Thailand International Motor Expo 2020 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2563 ณ แชลเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

มอเตอร์ เอ็กซ์โป ปีนี้ เปอโยต์ ได้เตรียมจัดแสดงยนตรกรรมไฮไลท์ คือ เปอโยต์ 2008 เอสยูวี ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงปีหน้า เด่นสะดุดตากับสีส้ม ‘Fusion Orange’ มาพร้อม 2 ยนตรกรรมยอดนิยม เปอโยต์ 3008 เอสยูวี ราคาเริ่มต้น 1.559 ล้านบาท และ 5008 เอสยูวี 7 ที่นั่ง รถทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และแพ็คเกจบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทางและจำนวนครั้ง รวมถึงมีข้อเสนอสุดพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงาน รับฟรี! ประกันภัยนาน 3 ปี (เมื่อจัด Finance กับ Alphera รูปแบบลีสซิ่ง หรือ บอลลูน)* หรือ ฟรีประกันภัยนาน 1 ปี พร้อม iPhone 12 (128 GB)*

 

นอกจากนั้น เปอโยต์ ก็มีบริการลูกค้าอันหลากหลาย ผ่านโปรแกรม ‘PEUGEOT CARE’ เพื่อดูแลลูกค้าแบบครบวงจร ด้วยบริการรับ-ส่งรถยนต์เพื่อเข้าศูนย์บริการ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในกรุงเทพฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 

‘มาเซราติ’ เปิดตัว ‘กิบลี ไฮบริด’ ใหม่ ครั้งแรกในไทย 

มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัว ‘กิบลี ไฮบริด’ (Ghibli Hybrid) ใหม่ เป็นยนตรกรรมที่ใช้การขับเคลื่อนแบบผสมผสาน ระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของค่ายตรีศูล

กิบลี ไฮบริด ผ่านการออกแบบใหม่โดย Centro Stile Maserati ทั้งภายนอกและห้องโดยสาร ดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยสิ่งที่แสดงถึงความเป็นรุ่นไฮบริดก็คือ การนำสีน้ำเงินมาใช้ เพื่อสื่อถึงเทคโนโลยีไฮบริดและโลกแห่งอนาคต

 

สีน้ำเงินถูกนำมาตกแต่งช่องระบายอากาศด้านข้าง 3 ช่อง และสัญลักษณ์สายฟ้าของโลโก้ตรีศูลบริเวณเสาซี ขณะที่เบาะในห้องโดยสาร ก็ผ่านการเย็บด้วยตะเข็บสีน้ำเงิน ส่วนกระจังหน้าก็ผ่านการออกแบบใหม่ ซี่กระจังมีลักษณะคล้าย ‘ส้อมเสียง’ (Tuning Fork) เครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่มีเสียงใสชัด

มาเซราติ นำเทคโนโลยีไฮบริดมาใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มสมรรถนะ ลดการใช้เชื้อเพลิง และลดมลพิษ ซึงนับว่าสอดคล้องกับดีเอ็นเอของแบรนด์อย่างลงตัว

 

นวัตกรรมขุมพลังไฮบริดสุดล้ำ เป็นผลลัพธ์จากมันสมองของทีมวิศวกรและฝ่ายเทคนิคของ มาเซราติ Innovation Lab ที่เมืองโมเดนา โดยผสานเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร เข้ากับอัลเทอร์เนเตอร์ 48 โวลต์ และอิเล็กทรอนิกส์ซูเปอร์ชาร์จ (e-Booster) พร้อมแบตเตอรี่รองรับ มีกำลังสูงถึง 330 แรงม้า (hp) แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 255 กม./ชม. นับเป็นเครื่องยนต์ไฮบริดที่โดดเด่น และเป็นผลงานแรกของเครื่องยนต์ยุคอนาคต ที่จัดผสมผสานสมรรถนะ, ความประหยัด และความเพลิดเพลินในการขับได้อย่างลงตัว ติดตั้งแบตเตอร์รี่บริเวณท้ายรถเพื่อความสมดุล และมีน้ำหนักโดยรวมเบากว่า กิบลี ดีเซล 80 กิโลกรัม

 

เชื่อมต่อโลกดิจิทัลครบวงจร ผ่านโปรแกรม Maserati Connect และ Maserati Intelligent Assistant โดยใช้ข้อมูลพื้นฐานจาก Android Automotive ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับ พร้อมอัปเดตฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ โดยอัตโนมัติ

‘แอสตัน มาร์ติน’ ชู  ‘DBX’ เป็นไฮไลท์

แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ยกทัพยนตรกรรมเมืองผู้ดี ดีกรีคู่ใจสายลับแห่งองค์กร MI6 จัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 นำโดย แอสตัน มาร์ติน ‘ดีบีเอ็กซ์’ เอสยูวีรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์

รูปลักษณ์ของ ดีบีเอ็กซ์ ผ่านการออกแบบให้ฉีกหนีตัวถังทรงกล่องของเอสยูวีทั่วไป ด้วยเส้นสายตัวถังพลิ้วไหว ดูเซ็กซี่และหรูหรา ผสานเสน่ห์อันมีมนต์ขลังด้วยโลโก้สัญลักษณ์รูปปีก หรือ ‘wing badge’ ซึ่งเป็นงานแฮนด์เมดจากผู้ผลิตจิวเวลรี่สุดหรู ประสบการณ์กว่า 200 ปี เดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ดีไซน์โฉบเฉี่ยวแฝงความสปอร์ต พร้อมช่องดักอากาศเพื่อระบายความร้อนจานเบรก ประตูปีกหงส์แบบ wrap around ป้องกันเสื้อผ้าเปื้อนขณะก้าวลงจากรถ

 

ห้องโดยสารยังคงบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ของ แอสตัน มาร์ติน ด้วยการดีไซน์ที่ประณีตและพิถีพิถัน กว้างขวางหรูหรา เพิ่มแสงสว่างในห้องโดยสาร ด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟและประตูไร้กรอบกระจก ตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมและหนังแท้ full natural grain ‘Caithness’ ที่มีกลิ่นหอมและผิวเรียบเนียน คอนโซลกลางออกแบบอย่างงดงาม มีลักษณะคล้ายสะพาน เชื่อมต่อไปยังส่วนกลางของแดชบอร์ด เพิ่มความสะดวกสบายผ่านจออเนกประสงค์ขนาด 10.25 นิ้ว รองรับ Apple Car Play พร้อมกล้องมองภาพ 360 องศา และไฟเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสาร ที่สามารถปรับได้ถึง 64 เฉดสี

แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอ็กซ์ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ วี8 สูบ 4.0 ลิตร 550 แรงม้า (PS) แรงบิด 700 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ พร้อมโหมด Sport เพิ่มการตอบสนอง ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที ท็อปสปีด 291 กม./ชม. มั่นใจในเรื่องประสิทธิภาพการขับ ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เฟืองท้ายควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ผสานช่วงล่างดับเบิลวิชโบนและถุงลม Adaptive Triple Air Suspension ปรับความสูงได้หลายระดับ พร้อม 5 โหมดการขับ คือ Terrain+, Terrain, GT, S และ S+

 

แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอ็กซ์ ราคาเริ่มต้น 19.9 ล้านบาท

‘โรลส์-รอยซ์’  โชว์ ‘Ghost’ ใหม่ รุ่นฐานล้อยาว ครั้งแรกในไทย

โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส์ แบงคอก ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จัดแสดงโรลส์-รอยซ์ ‘นิว โกสต์’ รุ่นฐานล้อยาว หรือเรียกว่า ‘New Ghost Extended’ เจเนอเรชั่นใหม่ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 หลังรุ่นแรกทำตลาดมานานกว่าทศวรรษ

 

โรลส์-รอยซ์ นิว โกสต์ ใช้โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียม เรียกว่า ‘สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา’ (Architecture of Luxury) ที่เคยใช้เฉพาะรุ่นเรือธงอย่าง ‘แฟนธอม’ และเอสยูวี ‘คัลลิแนน’ เป็นโครงสร้างสเปซเฟรมที่เบา ยืดหยุ่น แต่แข็งแกร่ง ปรับใช้ได้กับรถหลายขนาด ทำให้ นิว โกสต์ มีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังที่สมดุล 50-50 ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการขับเคลื่อนในทุกสภาพถนน

ตัวถังอะลูมิเนียมเชื่อมด้วยมือ เป็นเสมือนผ้าใบวาดภาพผืนใหญ่ มองแล้วลื่นไหลต่อเนื่อง ไม่สะดุดกับช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนเหมือนรถทั่วไป ชวนให้นึกถึงรถโค้ชบิลต์เช่น ‘ซิลเวอร์ ดอว์น’ และ ‘ซิลเวอร์ คลาวด์’ ขณะที่สัญลักษณ์นางฟ้า หรือ ‘สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี’ ก็เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้ถูกล้อมกรอบบริเวณฐาน เพิ่มความโดดเด่นให้นางฟ้าบนฝากระโปรง ดุจกำลังลอยอยู่กลางทะเลสาบ

‘นิว โกสต์’ รุ่นฐานล้อยาว มีความยาวเพิ่มจากรุ่นมาตรฐาน 170 มม. มาพร้อมพื้นที่วางขาด้านหลังกว้างขวางที่สุดในยนตรกรรมระดับเดียวกัน และครั้งแรกที่ลูกค้าสามารถเลือกเบาะนั่งด้านหลังแบบ ‘Serenity Seat’ ปรับเอนได้ตามต้องการ นับเป็นมิติใหม่ของความสะดวกสบาย คล้ายห้องโดยสารของเครื่องบินชั้นธุรกิจ มาพร้อมตู้แช่แชมเปญที่สามารถกำหนดอุณหภูมิได้ 2 โหมด คือ 6 และ 11 องศาเซลเซียส สำหรับแชมเปญยุคใหม่ และแชมเปญวินเทจตามลำดับ

 

สีเคลือบผิวไม้ 2 สีใหม่ พัฒนาสำหรับ ‘นิว โกสต์’ คือ Obsidian Ayous ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความหลากหลายของสีที่พบในหินลาวา และ Dark Amber ที่ผสานอนุภาคอะลูมิเนียมละเอียดแทรกอยู่ในลายไม้ โดยทั้ง 2 สี สามารถเลือกเป็นแบบ (Open Pore) เพื่อเผยให้เห็นถึงผิวสัมผัสอย่างเป็นธรรมชาติ

นอกจากนั้นก็ยังมี โรลส์-รอยซ์ อีก 2 รุ่นให้สัมผัส พร้อมข้อเสนอพิเศษ อาทิ ‘แฟนธอม’ ฉายา The King of Cars, คัลลิแนน เอสยูวีสุดหรู ผ่อนเริ่มต้น 392,000 บาท/เดือน และ โรลส์-รอยซ์ ‘เรธ’ ผ่อนเริ่มต้น 345,000 บาท/เดือน พร้อมรับ warranty 4 ปี ทุกรุ่น จากโรงงานที่เมืองกู๊ดวูด ประเทศอังกฤษ

โรลส์-รอยซ์ ‘นิว โกสต์’ รุ่นฐานล้อยาว ราคาเริ่มต้น 35.9 ล้านบาท

 

 

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button
X
%d bloggers like this: