ภาพผู้คนที่ยืนต่อแถวเข้าคิวเพื่อรอซื้อสินค้าจากเมืองไทยอย่าง ชาตรามือ ที่เข้าไปปักหมุดล่าสุดที่ประเทศเวียดนาม เมืองโฮจิมินท์ซิตี้ ถือเป็นประเทศลำดับที่ 10 ของ “ชาตรามือ” ไปเสิร์ฟความอร่อยในต่างแดน โดยจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบวันนี้ (12 มิ.ย.2566)
เส้นทาง “การเติบโตของชาตรามือ” จากอดีตถึงปัจจุบันถือว่ากินเวลายาวนานถึง 103 ปีแล้ว แต่ชื่อแบรนด์นั้นมีอายุ 78 ปี ซึ่งสินค้าเครื่องดื่มไม่ได้ดังแค่ในประเทศไทย แต่มีร้านเปิดให้บริการในหลายประเทศของเอเชีย
ชาตรามือ เป็นผลิตภัณฑ์ชาไทย ของบริษัท สยาม เอฟ บี โปรดักส์ จำกัด สินค้าภายใต้แบรนด์ชาตรามือมีทั้ง ชาแดง ชาเขียว ชาอูหลง ชากุหลาบ ฯลฯ และยังเปิดร้านจำหน่ายในชื่อร้าน ชาตรามือ
ประวัติความเป็นมา
เมื่อปี 2463 พี่ชายคนที่สามของพ่อเจ้าของ พาพี่น้อง 8 คนอพยพมาจากเมืองแต้จิ๋ว ประเทศจีน เพื่อมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย
2468
พี่ชายคนที่สาม ชื่อ ซาแป่ ได้ก่อตั้งร้านชาจีนชื่อว่า ลิมเมงกี ที่เฉลิมบุรี บนถนนเยาวราช โดยนำเข้าผลิตภัณฑ์ชาจากประเทศจีน และถือเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจชาของครอบครัว
หลังจากเปิดร้านที่เฉลิมบุรีได้ประมาณ 20 ปี ร้านชามีผลการดำเนินงานค่อนข้างดี แต่เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ร้านถูกทำลายจากระเบิด จึงจำเป็นต้องย้ายร้านไปที่ซอยผดุงด้าว ถนนเยาวราช ซึ่งผลิตภัณฑ์หลักของร้านยังคงเป็นชาจีน ชาอู่หลง ชาเขียว และได้เริ่มนำเข้าชาแดงเข้ามาในประเทศไทย
2488
จุดเริ่มต้นของชาตรามือ (ชาไทยอันดับหนึ่ง) เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อน ชาจีนร้อนจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในหมู่คนไทย เราจึงได้นำเข้าชาแดงมาทำเป็นชาไทยและชาดำ ซึ่งจะเสิร์ฟชาทั้งสองประเภทพร้อมน้ำแข็งเพื่อตอบสนองความต้องการของคนไทย โดยชื่อ “ชาตรามือ” เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2488 และนับเป็นปีเริ่มต้นของแบรนด์ชาตรามือตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
2488 – 2508
ประเทศไทยนั้น เดิมจะเก็บใบชาเพื่อนำมาทำเมี่ยง อย่างไรก็ตาม คนไทยเริ่มมาทำชาของตนเอง และพัฒนาเป็นชาไทย นายทิงผู้จัดการร้านในช่วงนั้นเป็นผู้บุกเบิกคนแรกที่เปิดโรงงานชาขึ้น ณ ดอยวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย โดยใช้ชื่อโรงงานว่า “โรงงานชาหอม” ซึ่งในขณะนั้นการขนเครื่องจักรไปยังโรงงานนั้นจำเป็นต้องใช้ช้างลากเครื่องจักรขึ้นไปบนดอยวาวี
2508 – 2532
เนื่องจากความยากลำบากและความไม่สะดวกในการเดินทางและการบริหาร โรงงานที่ดอยวาวีจึงจำเป็นต้องยกเลิกการผลิต ผู้จัดการร้านหันไปพัฒนาและสร้างเครือข่ายการจัดซื้อกับผู้ปลูกชาในท้องถิ่น ต่อมาเมื่อถนนมีความสะดวกสบายมากขึ้น เจ้าของปัจจุบันได้ตระหนักถึงความสำคัญของจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียงที่มีชาอยู่เป็นจำนวนมาก ในปี พ.ศ. 2532 จึงสร้างโรงงานแห่งใหม่ขึ้น ณ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย โดยตั้งชื่อโรงงานว่า “โรงงานใบชาสยาม” และได้จดทะเบียนเป็น บริษัท ชาไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มาจนถึงปัจจุบัน
จากอดีตจนถึงปัจจุบันของชาตรามือ
จากร้านชาลิมเมงกีมาจนถึงบริษัท ชาไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เราได้สะสมประสบการณ์ในการทำชาไทยมานานกว่า 60 ปี ชาไทยของเรามีสูตรเป็นเอกลักษณ์และพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิตเพื่อผลิตชาไทยที่มีคุณภาพ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบคนไทยและชาวต่างชาติมาเป็นเวลานาน เรายังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ชาเขียว, ชาเขียวนม, ชากุหลาบ และชาอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อตอบสนองความนิยมในการดื่มชาของผู้บริโภค นอกจากนั้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคเราได้พัฒนามาตรฐานการผลิตของโรงงานให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น GMP Codex, Halal และยังคงสร้างมาตรฐานที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายที่สำคัญของเราคือเป็นผู้ผลิตชาที่สามารถผลิตชาได้ทุกชนิด เน้นความอร่อยของชาที่ลูกค้าทุกคนสามารถวางใจได้ในคุณภาพและราคาที่เหมาะสม
ด้านการการตลาด ชาตรามือมีส่วนแบ่งของตลาดชาไทยถึง 70-80% ของทั้งประเทศ จากข้อมูลปี พ.ศ. 2562 มีสาขา 92 สาขาทั่วประเทศไทย แบ่งเป็น 60 สาขาในกรุงเทพฯ และ 32 สาขาในหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ 10 สาขาในภาคเหนือ, 11 สาขาในภาคอีสาน, 7 สาขาในภาคตะวันออก และ 4 สาขาในภาคใต้ โดยทุกสาขาเป็นการลงทุนเองของทางบริษัท และยังมีสาขาในมาเลเซีย 11 สาขา ช่วงกลางปี 2560 เปิดสาขาเกาหลีใต้เป็นสาขาแรก ในปี 2562 เปิดสาขา ย่าน Causeway Bay ที่ฮ่องกง และสาขาในประเทศอื่นอย่าง พม่า, สิงคโปร์, บรูไน, กัมพูชา และประเทศจีน
ชาตรามือยังมีลูกค้าอย่าง คาเฟ่ อเมซอน ที่สั่งซื้อครั้งละ 88.5 ตันต่อเดือน ชาตรามือยังส่งออกไปยังประเทศแถบอาเซียน อย่าง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย กัมพูชา และจีน บริษัทมีรายได้จากชาปรุงสำเร็จ 40% ชาเขียวปรุงสำเร็จ 40% ผลิตภัณฑ์อื่น 20% สัดส่วนจำหน่ายในประเทศ 60% และส่งออกต่างประเทศ 40%
ปัจจุบันชาตรามือ อยู่ภายใต้บริษัท ชาไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีร้านให้บริการหลายรูปแบบ เช่น ร้านในห้างค้าปลีก คีออสตามสถานีรถไฟฟ้า ฯ ซึ่งรวมนับ “ร้อยสาขา” ทั่วประเทศ
การเปิดร้านชาตรามือ ในเวียดนาม น้องใหม่ล่าสุด โดยที่ผ่านมาชาตรามือเปิดร้านในต่างประเทศแล้วมากมาย ทั้ง บรูไน กัมพูชา ฮ่องกง จีน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เมียนมา มาเลเซีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม
ด้านรายได้ ของชาตรามือ ภายใต้ชาไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ปี 2565 รายได้รวมกว่า 2,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% จากปีก่อนกว่า 1,900 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 34 ล้านบาท
