Biznews

“สิริวัฒนภักดี”ฮุบแกรมมี่ ชิงสมรภูมิสื่อเต็มตัว

เจริญ สิริวัฒนภักดี” กับบทบาทใหม่ เจ้าพ่อธุรกิจสื่อ หลังทุ่มพันล้าน ฮุบหุ้น ลูกแกรมมี่

 

หลังจากสร้าง Talk Of The Town กลุ่มเจ้าสัว เจริญ สิริวัฒนภักดี สยายปีกสู่ธุรกิจสื่อด้วยการหว่านเงิน 850 ล้านบาท ให้บริษัท วัฒนภักดี จำกัด ที่มี ฐาปน สิริวัฒนภักดี และ ปณต สิริวัฒนภักดี เป็นกรรมการบริษัท เข้าซื้อหุ้นบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ส่งผลให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 47.62% ในอัมรินทร์เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ดีลครั้งนั้นหากในสถานการณ์ปกติคงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับอาณาจักรน้ำเมาของกลุ่มเจริญ ที่มีเงินเหลือเฟือสำหรับลงทุนหรือซื้อกิจการอย่างที่ทำมาต่อเนื่อง แต่กรณีที่ภาวะปัจจุบันสื่อทีวีดิจิทัลอยู่ในช่วงขาลง โดยเฉพาะอัมรินทร์ที่เรตติ้งน้อยนิด มีผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง ทำให้เป็นที่น่าสนใจว่าแล้วทำไมกลุ่มเจริญถึงตัดสินใจควักกระเป๋าเข้าซื้อหุ้นในบริษัทที่ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะทำกำไร

นั่นหมายถึงการครอบครองสื่อในมือที่มีหลากหลายของเครืออัมรินทร์ ฯ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงพิมพ์ที่อัมรินทร์ถือเป็นผู้นำตลาด ธุรกิจคอนเทนต์ นิตยสาร งานแฟร์ สำนักพิมพ์หนังสือเล่ม รวมทั้งทีวีดิจิทัลช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี 34

ทั้งหมดนี้คือมูลค่าที่กลุ่มธุรกิจในเครือเจริญสามารถนำมาต่อยอดและซัพพอร์ตธุรกิจในเครือได้อีกมาก ที่สำคัญเป็นไปตามนโยบายที่ชัดเจนคือ เมื่อกลุ่มเจริญฯตัดสินใจควักเงินลงทุนอะไรสักอย่าง ย่อมหมายความว่า 1+1 ต้องได้มากกว่า 2 แน่นอน

จนกระทั่งล่าสุด บมจ.เอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่้อวันที่ 24 ส.ค. 2560 บริษัทฯ และ บริษัท อเดลฟอส จำกัด (มีนายฐาปน สิริวัฒนภักดี และนายปณต สิริวัฒนภักดี เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่) แสดงความประสงค์จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง ที่จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 12 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท

 

ฐาปน สิริวัฒนภักดี

ฐาปน สิริวัฒนภักดี

 

ทั้งนี้ ภายหลังการเพิ่มทุนจดทะเบียนใน จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง เสร็จสิ้น บริษัทฯ และผู้จองซื้อแต่ละฝ่ายจะถือหุ้นใน จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง ในสัดส่วนฝ่ายละ 50% ของทุนจดทะเบียน

นอกจากนี้ยังเตรียมปรับโครงสร้างการลงทุนของกลุ่มบริษัท โดยจะซื้อและรับโอนหุ้นในบริษัท เอ็กแซ็กท์ (เอ็กแซ็กท์) และ บริษัท ทีน ทอล์ก  (ทีน ทอล์ก) จำนวนร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียน และ บริษัท ซีเนริโอ  (ซีเนริโอ) จำนวนร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน จากบริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ) (จีเอ็มเอ็ม มีเดีย) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว

ขณะเดียวกันจะรับโอนสิทธิเรียกร้องอันเกิดจากการได้รับชำระเงินคืนทุนจากการชำระบัญชีของ บริษัท บลิส พับลิชชิ่ง (บลิส) จาก จีเอ็มเอ็ม มีเดีย รวมทั้งจะขายและโอนหุ้นใน จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำนวนร้อยละ 99.8 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด และหุ้นในบริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี  (จีเอ็มเอ็ม ทีวี) จำนวนร้อยละ 100 ให้แก่ จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง

นั่นหมายความว่า ผู้ถือหุ้นใหม่จากกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี จะเข้ามารุกคืบในธุรกิจบันเทิงและสื่อของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ไม่ว่าจะเป็น เอ็กแซ็กท์, ทีน ทอล์ก, ซีเนริโอ, จีเอ็มเอ็มมีเดีย และ จีเอ็มเอ็ม ทีวี เนื่องจากมองเห็นศักยภาพ อัตราการเติบโตของกลุ่มจีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง ซึ่งประกอบด้วยช่องจีเอ็มเอ็ม 25  คลื่นวิทยุ เอไทม์มีเดีย และเอไทม์ ทราเวิลเลอร์

สิ่งที่ได้จากการไล่เทคโอเวอร์ธุรกิจสื่อของกลุ่มเจริญ ที่แน่ๆ คือ ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเห็นมาแล้วจากกรณีซื้ออัมรินทร์ฯ เพราะ ณ วันที่มีข่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ราคาหุ้นอมรินทร์ พุ่งจาก 2.20 บาท ไปอยู่ที่ 9.65 บาท และล่าสุดวันที่ 9 ธ.ค. ราคาก็ยังคงค้างอยู่ที่ 7.20 บาท นี่คืออย่างแรกที่กลุ่มเจริญได้ชัดเจนจากการซื้อหุ้นในราคา 4.25 บาท

แต่นี่ต้องเรียกว่าเป็นผลพลอยได้เท่านั้น เพราะเนื้อแท้แล้วการขยายมารุกคืบธุรกิจใหม่อย่างธุรกิจสื่อ ย่อมต้องมีการวางแผนงานกลยุทธ์และเป้าหมายชัดเจนสไตล์สิริวัฒนภักดี เพราะปัจจุบันแม้ว่าทีวีดิจิทัลของอัมรินทร์ฯจะยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่หากดูถึงภาพรวมธุรกิจของอัมรินทร์ฯ และจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่แล้ว ถือว่ามีความแข็งแกร่งและแตกต่าง ทั้งหมดนี้คือมูลค่าที่กลุ่มธุรกิจในเครือเจริญสามารถนำมาต่อยอดและซัพพอร์ตธุรกิจในเครือได้อีกมาก

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ การโฆษณาสินค้าในเครือ โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่โดนกฏเหล็กจากภาครัฐควบคุม เมื่อมีสื่อตัวเองอยู่ในมือ ย่อมเป็นการสร้างแต้มต่อจากคู่แข่งที่อยู่ภายใต้กฏเดียวกันแต่ไม่มีสื่อเป็นของตัวเอง เพราะทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า แม้ภาครัฐจะคุมเข้มแต่ก็ยังเปิดช่องให้พอทำได้ รวมไปถึงยังมีช่องโหว่ให้ทำได้อีกมากเช่นกัน นี่เป็นอีกประเด็นที่ต้องจับตามองกันต่อไป

อีกประเด็นที่น่าติดตามคือ ดีลครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการกระโดดเข้าสู่สมรภูมิสื่อเต็มรูปแบบของเจ้าพ่อน้ำเมาก็ว่าได้ เพราะมีสื่อครบตั้งแต่ทีวี, วิทยุ, สิ่งพิมพ์ และสิ่งที่น่าจับตาจากนี้คือ การกระโดดเข้าสู่สื่อใหม่หรือนิวมีเดีย ที่ต้องตามมา เพราะยุคไทยแลนด์ 4.0 โซเชียลมาแรง เมื่อกลุ่มเจริญเดินหน้ารุกครอบครองสื่อในมือขนาดนี้ ย่อมไม่พลาดสื่อโลกใหม่แน่นอน

เร็วๆนี้ น่าจะได้เห็นดีลรุกคืบธุรกิจสื่อใหม่ที่สร้าง ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์อีกรอบก็เป็นได้  ต้องจับตา

แอบคิดเล่นๆ ในใจ มีธุรกิจอะไรอีกบ้างที่ตระกูลนี้ยังไม่มี !!!!!  

 

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: