Biznews

สาวกแบรนด์เนมไม่ต้องช้อปไกล “ซีพีเอ็น”จัดให้

เรื่องการใช้ของนอก มากกว่าสินค้าไทยมีมานานตั้งแต่จำความได้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะสินค้าบางอย่างไทยเรายังผลิตเองไม่ได้ หรือ ไม่ได้มาตรฐานที่ดีพอ หรือ บางอย่างก็ผลิตในไทยแต่เป็นแบรนด์ต่างประเทศ ผ่านมาตรฐานจากต่างประเทศแม้ว่าผลิตในเมืองไทย แต่ราคานั้นไม่ต่างจากนำเข้าเลยสักนิด อีกทั้งความนิยมเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆ ทั้งโซนเอเชียอย่างญี่ปุ่น ฮ่องกง หรือแม้กระทั่งโซนยุโรปดินแดนแห่งแฟชั่นอย่างอิตาลี ฝรั่งเศสจึงมีการหอบหิ้วสินค้าติดไม้ติดมือกลับมาจำนวนมาก เนื่องจากสนนราคาต่ำกว่าหากซื้อแบรนด์เนมในประเทศที่ถูกตรึงด้วยภาษีนำเข้าสูง

ตัวเลขจากกระทรวงพาณิชย์ ในช่วง 2 เดือน(ม.ค.-ก.พ. )ของปี 2561 ที่ผ่านมา การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค หรือสินค้าฟุ่มเฟือย มีมูลค่า 4,627 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.02% หากนับเฉพาะการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในเดือนก.พ. 2561 มีการนำเข้ามูลค่า 2,186 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.38% ซึ่งเป็นการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 2560 ที่ผ่านมา

เซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็น ในฐานะผู้นำด้านค้าปลีกเมืองไทยอาสาปิดจุดอ่อนด้วยการสกัดเงินตรารั่วไหลออกนอกประเทศด้วยการเปิดตัวแพลทฟอร์มใหม่ เปิดตัว ‘เซ็นทรัล วิลเลจ’ ลักชูรี่เอาท์เล็ตระดับโลกที่สมบูรณ์แบบที่สุดในไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ชูไทยเป็นจุดหมายแห่งการช้อปปิ้งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้งบประมาณกว่า 5,000 ล้านบาท พื้นที่โครงการ (GLA) 40,000 ตร.ม. บนที่ดิน 100 ไร่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ โดย เซ็นทรัล วิลเลจถือเป็นหนึ่งใน key strategic move ที่จะเป็นแบรนด์ใหม่ใน portfolio ของซีพีเอ็นที่จะตอกย้ำการเป็นหนึ่งใน Global Player ในเอเชีย โดยจะเปิดให้บริการไตรมาสที่ 3 ปี 2562

จุดเด่นของเซ็นทรัล วิลเลจ โครงการที่ซีพีเอ็นหมายมั่นปั้นมือมากว่า 6 ปี ได้แก่ 1. ความหลากหลายของลักชูรี่แบรนด์ ทั้งไทยและเทศระดับโลกกว่า 235 แบรนด์ ด้วยสินค้าหลากหลายทั้งแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัว ของเล่น อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เสริมความครบครันด้วยลักชูรี่แบรนด์และสินค้าต่างๆ ของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อตอบสนองความต้องการคนทุกเพศทุกวัยทุกสัญชาติ

2. ราคา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการช้อปปิ้งลักชูรี่เอาท์เล็ต ด้วยส่วนลด 35-70% ที่มีทุกวัน ที่ถูกกว่า และไม่ต้องรอ Seasonal Sale หรือไปช้อปต่างประเทศ

3. การให้บริการที่มุ่งเน้น Customer Centric มีบริการหลากหลายครบวงจรเทียบเท่าศูนย์การค้า รวมถึง facility ที่ครบครัน อาทิ ร้านอาหาร, จุดบริการนักท่องเที่ยว, playground, โรงแรม, และซูเปอร์มาร์เก็ต

4. ทำเลที่ตั้ง ที่ใกล้สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามบินที่ติดอันดับ 1 ที่มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือกว่า 55 ล้านคนในปี 2560 และติด 1 ใน 10 อันดับของสนามบินที่มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุดในเอเชีย* และในปี 2563 คาดการณ์ว่า ส่วนขยายของสนามบินจะทำให้รองรับผู้โดยสารได้เป็น 60 ล้านคนต่อปี

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักแบ่งเป็นคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยทั่วประเทศ รวม 65% และ กลุ่มนักท่องเที่ยว 35% โดยในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากถึง 35 ล้านคนมายังประเทศไทย ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นกลุ่มหลักที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว และมีการใช้จ่ายสูงระหว่างเดินทาง รวมถึงนักท่องเที่ยวใน AEC ที่เป็นกลุ่มที่เดินทางมาประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ โดยทำเลที่ตั้งใกล้สุวรรณภูมิที่สามารถเดินทางมาได้สะดวก ซึ่งจะเป็น A Must Visit Shopping Destination to complete your trip จุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวต้องแวะช้อปทุกครั้งก่อนเข้าเมืองหรือเดินทางกลับเข้าสนามบิน ตั้งเป้าว่าจะดึงดูดนักช้อปทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาใช้บริการกว่า 6 ล้านคนต่อปี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยให้เป็นหนึ่งใน World Class Shopping Destination ของภูมิภาคนี้

จับตาว่า จิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายของซีพีเอ็นในครั้งนี้จะสรา้งปรากฏการณ์สกัดเหล่านักช้อปกระเป๋าหนักไว้ได้หรือไม่

อดใจรอสักนิด Q3ปีหน้า เจอกัน

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: