ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเข้ามาของยุคดิจิทัล ทำให้วิถีชีวิตคนเราเปลียนไปหลายด้าน โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลทุกอย่างถุกบันทึกและจดจำอยู่ในมือสมาร์ทโฟนทุกสิ่งอย่าง ส่งผลให้นับวันแนวโน้ม “Paperless” ขยายตัว ที่เห็นได้ชัดคือ นับวันเครื่องพรินเตอร์จะถูกพูดถึงน้อยลงไปทุกวัน
สะท้อนได้จากภาพรวม “ตลาดพรินเตอร์” ในไทยมูลค่า 14,000 – 15,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.3 ล้านเครื่อง (1 ล้านเครื่องเป็นตลาดอิงค์เจ็ท พรินเตอร์ และ 3 แสนเครื่องเป็นเลเซอร์ พรินเตอร์) แบ่งเป็นตลาดองค์กร 78% และ ตลาดผู้บริโภค 22% ซึ่งอัตราการเติบโตเพียง 2 – 3% เท่านั้น
จากแนวโน้มดังกล่าว ล่าสุด ฟ้าผ่าคนวงการไอทีก็ว่าได้ เมื่อ ฮิวเล็ตแพคการ์ด อิงค์ (เอชพี) ยักษ์ใหญ่ในตลาดผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ช็อกวงการด้วยการประกาศเตรียมปรับลดพนักงานราว 7,000-9,000 คน หรือราว 13-16% จากพนักงานทั้งหมด 55,000 คน ภายใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจพรินเตอร์ที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง
ยักษ์ใหญ่ในตลาดผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายนี้ระบุว่า การปลดพนักงานในครั้งนี้ มี 2 รูปแบบ คือ 1 การเลิกจ้าง หรือ ปลดพนักงานจากตำแหน่ง และ 2 การให้พนักงานเข้าโครงการเกษียณก่อนอายุงานครบกำหนดด้วยความสมัครใจผ่านการให้ออกและเกษียณอายุก่อนกำหนด (early retirement) โดยสมัครใจ ซึ่งการลดจำนวนพนักงานครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทลดต้นทุนลงไปได้ถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2022
อย่างไรก็ตาม ยักษ์ใหญ่ธุรกิจคอมพิวเตอร์รายนี้ยังไม่ถอดใจ แต่จะทำการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจเครื่องพิมพ์โดยมุ่งเน้นการให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น โดยเตรียมขึ้นราคาปรินเตอร์ที่สามารถใช้ตลับหมึกอย่างอื่นที่ไม่ใช่ของเอชพีซึ่งจะส่งผลให้อุปกรณ์กลุ่มนี้ทำกำไรได้มากขึ้น
นอกจากนี้ เอชพียังเตรียมเริ่มขายอุปกรณ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการพิมพ์อิงค์เจ็ตที่เรียกว่า microfluidics ซึ่งจะตอบโจทย์กับอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์, เครื่องสำอาง และอื่นๆ อีกด้วย
