
เมื่อหมดศรัทธากับนักการเมือง
ธนก บังผล
เกือบจะครบ 1 ปีเต็มแล้วนะครับ หลังจากที่ประเทศไทยได้มีการเลื อกตั้งครั้งล่าสุด ผมจำได้ว่าบรรยากาศช่วงหาเสี ยงตอนนั้น เราเหมือนจะมีความหวังว่าชาติ บ้านเมืองคงเดินไปในทิศทางทึ่ถู กที่ควร
พูดกันตรงๆก็คือ ต่างก็หวังว่าผลการเลือกตั้ งจะทำให้ประเทศมีอนาคต
พอเกิดประเด็น “บัตรเขย่ง” ขึ้นมา รวมถึงการให้สมาชิกวุฒิสภา 250 คน เลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้ นมาประชาชนเริ่มสงสัยว่า “กติกา” ที่ถูกเขียนขึ้นนั้นมีแนวโน้ มสร้างประโยชน์ให้กับคนกลุ่มหนึ่ งมากกว่ารักษาผลประโยชน์ ของประเทศหรือไม่

ผลการเลือกตั้งยังทำให้เราได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บางคนที่เหมือนจะตกเกรด วุฒิภาวะเมื่อวัดจากสายตาแล้ วเห็นชัดเลยว่าคุณภาพต่ำกว่ ามาตรฐาน
ที่ต้องบอกอย่างนี้ ไม่ได้หมายความว่าเสี ยงของประชาชนที่เลือก สส. เข้ามาไม่มีคุณภาพนะครับ แต่วิธีและขั้นตอนในการเลือกตั้ งถูกบิดไปจนสร้างกลไกอะไรสักอย่ างขึ้นมาแบบเพี้ยนๆ
ระหว่างนั้นก็เหมือนบังคับให้ คนทั้งประเทศกลืนน้ำลายตัวเองด้ วยคำสั้นๆว่าต้องยอมรับผลการ “เลือกตั้ง” โดยผมเองยังมองโลกในแง่ดีว่าเมื่ อผ่านไปสักระยะ ให้เวลารัฐบาลทำงานเข้าที่เข้ าทางแล้ว อนาคตที่เราหวังไว้ก็น่ าจะพอมองเห็นอยู่บ้างไม่ช้าก็ เร็ว
จนแล้วจนรอด.. กระทั่งปัจจุบัน ผมเห็น สส.พกวัตถุระเบิดเข้าสภาหน้ าตาเฉย, รุกป่าแล้วยังข่มขู่ขั้ นตอนทางกฎหมายดึงประชาชนมาเป็ นเกราะกำบัง, ใช้อำนาจหน้าที่เข้าไปอยู่ ในคณะกรรมาธิการเพื่อถ่ วงทำลายการพิจารณาปัญหาของชาวบ้ านไม่ต่างจากเด็กเล่นขายของ
ผู้นำรัฐบาลมั กออกมาแนะนำการแก้ไขปัญหาต่ างๆให้ชาวบ้านทั้งๆที่ไม่มี ความรู้ ความเข้าใจ การบริหารประเทศและเศรษฐกิ จแบบเช้าชามเย็นชาม ประหนึ่งเข้ามาเพื่อรั กษาอำนาจของตัวเองไปวันๆ

สำหรับผมแล้วตอนนี้ รู้สึกสิ้นหวังจริงๆครับ อนาคตที่จะฝากไว้กับผู้บริ หารประเทศและ สส.บางคนนั้น เกรงว่าจะพังเพราะไร้ ความสามารถเสียมากกว่า
ประเทศดูไม่มีอนาคต ซึ่งผมมาถึงจุดที่ได้แต่บ่ นเบาๆกับตัวเอง กลัวว่าหากใครได้ยินแล้ วจะตราหน้าผมว่าเป็นพวกชังชาติ
การเมืองวันนี้ โดยนักการเมืองที่มีตอนนี้ กลายเป็นวิกฤตปัญหาที่น่ากลั วมากนะครับและน่ากลัวที่สุดด้ วยเนื่องจากนักการเมืองไม่รู้ตั วเองเลยว่ากำลังเป็นปัญหา
การแบ่งฝ่ายแบ่งข้างประชาชน จัดตั้งกลุ่มคนขึ้นมาเชียร์รั ฐบาล ต่อต้านฝั่งตรงข้าม แตกแยกสีเสื้อที่ลุกลามเกินกว่ าคำว่า “สลิ่ม-เสื้อแดง”
หลายคนเริ่มเบื่อการเมือง พยายามไม่สนใจตั้งหน้าตั้ งตาทำมาหากิน

แต่ก็ปรากฏว่าสถานการณ์ข้ าวยากหมากแพงเศรษฐกิจฝืดเคือง เงินหายากมากขึ้น คนตกงานเพิ่มขึ้น มิจฉาชีพหลากหลายขึ้น มันท้อนะครับ
นี่เพิ่งเริ่มต้นปีใหม่มาไม่ถึ งเดือนเลย กำลังใจก็แทบไม่เหลือแล้ว
คุณภาพชีวิตคนไทยควรจะมี อะไรให้เจริญหูเจริญตาบ้าง ก็กลับต้องมาเจอนักการเมื องในสภาที่ไร้สาระ ไร้คุณภาพ ทำตัวให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาขึ้ นทุกวัน
นั่นละครับ ผมอึดอัดจนต้องบ่นกันเป็นเรื่ องเป็นราว เขียนเสียยืดยาว
เห็นทีประชาชนต้องกลับมาตระหนั กถึงความสำคัญของคะแนนเสียงแล้ วละครับ
เลือกตั้งครั้งนี้มันแย่ ขนาดไหน ถ้ามีโอกาสใหม่ครั้งหน้า ก็อย่าเลือก สส. คุณภาพต่ำเข้าไปเปลืองเงินภาษี เราอีกเลยครับ
ไม่เช่นนั้นเราคงไม่ได้ลืมตาอ้ าปากกันเสียทีแน่นอน