Biznews

วางกลยุทธ์‘4R’ ดันยอดมาลีกรุ๊ป

ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2560 รายได้วูบไป 21% โดยมียอดขายบริษัทฯ และบริษัทย่อยรวม 1,370 ล้านบาททำให้บริษัท มาลี กรุ๊ป ต้องออกมาประกาศกลยุทธ์ใหม่ในครึ่งปีหลังที่เหลือ เพื่อให้ผลประกอบการทั้งปี เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 5% จากปี 2559

นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มาลีกรุ๊ป หรือ MALEE กล่าวว่า ยอดขายที่ลดลงเป็นผลมาจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. ยอดขายที่ลดลงในประเทศของธุรกิจแบรนด์ เนื่องจากการชะลอตัวของการใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดน้ำผลไม้โดยรวมที่หดตัว 9.4% รวมถึงการลดสต็อคสินค้าหน้าร้านเพื่อรองรับการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 3 และการขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตผลไม้กระป๋องเนื่องจากผลิตผลทางการเกษตรไม่เป็นไปตามฤดูกาลผลิต และ 2. ยอดขายของธุรกิจรับจ้างผลิต หรือโออีเอ็มลดลงโดยเฉพาะกลุ่มน้ำมะพร้าว จากการเพิ่มมาตรการเชิงป้องกันของบริษัท

ขณะที่ยอดขายจากต่างประเทศในไตรมาส 2 ยังเติบโต 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้จัดจำหน่าย และพันธมิตรในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในอาเซียน รวมถึงประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ

รุ่งฉัตร บุญรัตน์ รุ่งฉัตร บุญรัตน์

จากผลประกอบการดังกลาว ทำให้บริษัทต้องเร่งปรับกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง ด้วยการวางกลยุทธ์ ‘4R: รีแบรนด์-รีออกาไนซ์-รีโนเวท-รีคอนเนค’ เพื่อก้าวสู่การเป็น‘ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับโลก’ ภายในปี 2564 ด้วยการเสริมความแข็งแกร่ง เพิ่มขีดความสามารถ และพัฒนาประสิทธิภาพรอบด้านให้พร้อมรองรับการก้าวสู่การแข่งขันระดับโลก ครอบคลุมการพัฒนาทรัพยากรบุคคล กระบวนการผลิต การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการสร้างความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจกับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยมีเป้าหมายในการสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดและผลกำไรอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทในอนาคต

 

malee malee

ขณะเดียวกันยังเร่งกระตุ้นตลาดในครึ่งปีหลังที่เหลือ ด้วยการจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายตามแผนการตลาด รวมทั้งการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ น้ำผลไม้ 100% ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนยอดขายสูงที่สุดของมาลี และแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ ที่จะช่วยขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้มากยิ่งขึ้น การรุกตลาดหลักในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในอาเซียน รวมถึงประเทศจีน และการเดินเครื่องจักรใหม่ที่มีเทคโนโลยีดีที่สุดในโลก ที่พร้อมเดินการผลิตในไตรมาสที่ 4  ซึ่งมีศักยภาพในการผลิตสินค้าได้หลากหลายขึ้น มีประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น และช่วยลดต้นทุนการผลิตสินค้า ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการหาลูกค้ารายใหม่หรือสินค้าใหม่เพิ่มจากปัจจุบัน

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: