Biznews

รู้จัก 3 อภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่ ประจำปี 2560 (ตอนที่ 2)

“ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ”

หญิงแกร่ง คาราบาวแดง

หากพูดถึงเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์คาราบาวแดงคนส่วนใหญ่จะนึกถึง “แอ๊ด คาราบาว” แต่เครื่องดื่มโลโก้เขาควายก่อตั้งขึ้นในปี 2544 จากผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 คน อีก 2 คน คือ “เสถียร เศรษฐสิทธิ์” และ “ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ”หรือใหญ่ ปัจจุบันเป็นทั้งกรรมการผู้จัดการและผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสองของบริษัท คาราบาว กรุ๊ป (CBG)

ณัฐชไม ในวัย 54 ปีเคยร่วมหุ้นทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับ สเถียร ที่เป็นเพื่อนของพี่ชาย แต่ต่อมาเลิกกิจการเพราะปัญหาธุรกิจ ปัจจุบัน มีธุรกิจที่ถือหุ้นร่วมกับเพื่อนพี่ชายคือ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงกับคาราบาวกรุ๊ป

ด้วยมูลค่าการตลาดที่สูงถึง 3 หมื่นล้านบาท และมีผู้เล่นในตลาดที่มีแบรนด์แข็งแกร่ง ทำให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังไม่เคยลดดีกรีความร้อนแรงลงไปเลย จากการใช้กลยุทธ์การตลาดเป็นตัวทำยอดขายจำนวนมหาศาล แต่กลับขายสินค้าที่ราคายืนพื้นแบบไม่ยอมเปลี่ยนแปลงที่ 10 บาท มาโดยตลอด เรียกได้ว่า ใครมาแล้วไม่แข็งจริงไม่แน่จริง ไม่สามารถต่อสู้ในธุรกิจนี้ได้อย่างยาวนาน

“ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ” ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรกๆ ที่นำแบรนด์เป็นที่รู้จักในหมู่กลุ่มผู้ใช้แรงงานด้วยกลยุทธ์การตลาด กินทีละคำ ทำทีละเมือง จนทำให้ทุกวันนี้ คาราบาวแดง รั้งอันดับ 2 ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเรียบร้อยแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อราว 13 ปีก่อน “แอ๊ด คาราบาว” และผู้บริหารกลุ่มโรงเบียร์ เยอรมันตะวันแดง รวมกันตั้งบริษัทเพื่อขายสินค้าเครื่องดื่ม โดยใช้เพลงเพื่อชีวิต มาสร้างกระแส แต่ยังไม่โดนใจ จนมีการตั้งทีม ‘สาวบาวแดง’ ขึ้นมา เพื่อลงไปยังกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่จริง ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของบริษัท ที่ แม้ตอนนี้จะไม่สามารถเป็นที่ 1 ได้ทั่วประเทศ แต่เป็นไปตามโรดแม็บนั่นคือ ต้องค่อยวางแผน วางกลยุทธ์ ให้แต่ละพื้นที่ที่เข้าไปเป็นที่หนึ่งให้ได้ก่อน

เส้นทางชีวิตของณัฐชไม หรือ “ใหญ่” เล่าว่า จบปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อราว 20 ปีก่อน เคยร่วมหุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับ “เสถียร เศรษฐสิทธิ์” อีกหนึ่ง ผู้ร่วมก่อตั้งคาราบาวแดง ในตอนนั้นลงทุนทำโครงการบ้านจัดสรรย่านเทพารักษ์ รับผิดชอบงานด้านการขายและบัญชีเป็นหลักแต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนมาร่วมหุ้นกันอีกครั้งกับ”เสถียร” พร้อมกับ “สุพจน์ ธีระ วัฒนชัย” เปิดโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงจนปัจจุบัน

สำหรับงานที่ CBG ณัฐชไม ดูแลภาพรวมขององค์กรที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก มีธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยปีนี้คาราวบาวกรุ๊ปคาดว่ากำไรสุทธิปีน่าจะดีกว่าปีก่อน จากการเติบโตของรายได้ที่น่าจะเพิ่มขึ้น 20-25% จากปีก่อน ที่มีรายได้ 10,112.15 ล้านบาท เนื่องมาจากเน้นการจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ ที่ล่าสุดได้เริ่มจำหน่ายสินค้าในโมเดิร์นเทรดแล้วและคาดหวังยอดขายปีนี้อยู่ที่ 30 ล้านกระป๋อง และยอดขายในประเทศจีนไว้ที่จำนวนประมาณ 200 ล้านกระป๋อง ขณะที่ประเทศเดิมมีการเติบโตก็มียอดขายที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ คาดหวังสัดส่วนรายได้ต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันที่ 34%

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าอัตราการทำกำไร อาจจะปรับตัวลดลงจากปีก่อน เพราะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสนับสนุนทีมฟุตบอล และกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะต่างประเทศ โดยจัดสรรงบลงทุนที่ 5,000 ล้านบาทซึ่งเป็นการลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตลาดต่างประเทศ รวมทั้งลงทุนในธุรกิจโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมร่วมกับพันธมิตร เพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์กำลังการผลิต จำนวน 1,000 ล้านกระป๋องต่อปี ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 74%

ทั้งนี้ คาราบาวกรุ๊ป ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศไทย ซึ่งกลยุทธ์ที่จะใช้คือ Push & Pull Strategy โดย Push Strategy คือ การผลักดันสินค้าเข้าร้านค้า ด้วยระบบ Cash Van ขณะที่ Pull Strategy คือ การสร้างความต้องการต่อสินค้าผ่านทางกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดในรูปแบบต่างๆ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อผลักดันการเติบโต รวมทั้ง การขยายธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายและจัดจำหน่ายผลิตภัณท์อื่นๆ ให้มากขึ้น

“บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด” ได้จัดตั้ง ขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2544 เพื่อประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังคาราบาวแดง โดยมีทุนจดทะเบียนจำนวน 1 ล้านบาท บริษัทฯ ได้เปิดตัวเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้า “คาราบาวแดง” เข้าสู่ตลาดในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2545 ซึ่งเป็นการเป็นการนำชื่อของ วงคาราบาว มาผสมผสานกับชื่อของ โรงเบียร์ เยอรมันตะวันแดง ภายใต้สโลแกน “คาราบาวแดง เชิดชูนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่”

เมื่อธุรกิจผลิต ทำการตลาดและจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มผู้ถือหุ้นได้เล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมให้ครบวงจร ตั้งแต่ขบวนการหาวัตถุดิบหลัก การผลิต การตลาด และการจัดจำหน่ายให้ถึงมือผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ตั้งบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ขึ้น เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557 และนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557

บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CBG)

วันปิดสมุดทะเบียน 10 มีนาคม 2560

ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น(หุ้น) % หุ้น

1 บริษัท เสถียรธรรมโฮลดิ้ง จำกัด 250,064,500 25.01

2 น.ส. ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ 210,000,000 21.00

3 นาย ยืนยง โอภากุล 70,480,000 7.05

4 นาย เสถียร เศรษฐสิทธิ์ 47,974,100 4.80

5 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 47,470,197 4.75

6 UBS AG SINGAPORE BRANCH 45,161,400 4.52

7 นาง ลินจง โอภากุล 26,145,800 2.61

8 นาง วงดาว ถนอมบูรณ์เจริญ 18,152,700 1.82

9 น.ส. ณิชา โอภากุล 15,523,400 1.55

10 นาย วรมัน โอภากุล 15,000,000 1.50

11 น.ส. นัชชา โอภากุล 15,000,000 1.50

12 นาย ประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์ 14,364,900 1.44

13 น.ส. กิตติมา วงษ์สวัสดิ์ 11,775,700 1.18

14 CHASE NOMINEES LIMITED 9,502,900 0.95

15 น.ส. ณัฐชนก วงษ์สวัสดิ์ 9,247,200 0.92

16 นาย อมรวัฒน์ ถิรกฤตพร 5,940,000 0.59

17 นาง จารุณี ชินวงศ์วรกุล 5,219,700 0.52

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: