ระฆังวัดไทร ดังไกลถึงนรก
กลายเป็นประเด็นดราม่าทันทีหลังจากที่มีผู้อาศัยในคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งร้องเรียนไปยังสำนักงานเขตบางคอแหลมว่าพระวัดไทร ย่านพระราม 3 ตีระฆังเสียงดังจนก่อความเดือดร้อนรำคาญ
แรกเริ่มทีเดียวนั้นทางสำนักงานเขตก็ “บ้าจี้” เข้าไปกำชับให้ทางวัดยกเลิกหรือลดระดับเสียง หรือเปลี่ยนเวลาการตีระฆังช่วงเวลาตี 4 จนทำให้ทางวัดมีการหยุดตีระฆังไป 1 วัน ก่อนที่จะกลับมาตีระฆังแต่ให้เสียงเบาลง
ต่อมาเมื่อเรื่องเกิดฉาวขึ้นมา ทางสำนักงานเขตก็ได้เข้าเจรจากับทางวัดให้สามารถตีระฆังได้เหมือนเดิม เนื่องจากการตีระฆังของวัดเป็นประเพณีที่ตีช่วงเข้าพรรษาเพียง 3 เดือนเท่านั้น และหากพ้นช่วงเข้าพรรษาไปแล้วก็จะไม่มีการตีในเวลาตี 4
กรณีมีผู้อาศัยที่คนโดมีเนียมใกล้เคียงกับวัดไทรไปร้องเรียนกับสำนักงานเขต ทางเจ้าหน้าที่วัดก็เปิดเผยด้วยว่าเคยมีคนจากตอนโดมีเนียมมาที่วัดเพื่อขอให้ทางวัดงดตีระฆังเนื่องจากผู้อาศัยรายหนึ่งรำคาญและจะไม่อาศัยอยู่แล้วเพราะทนฟังเสียงระฆังไม่ได้ นอกจากนี้ยังเคยมีผู้หญิงโทรศัพท์เข้ามาที่วัด
พระสุทธิชาญ สุภัทโธ พระลูกวัดไทร กล่าวว่า ก่อนมีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้น ทางวัดตีดังกว่านี้ แต่ที่ผ่านมา พอมีการร้องเรียน ทางวัดก็ปรับมาใช้ขอนไม้เล็กลง เพื่อทำให้เสียงเบาลง โดยการตีระฆังบนหอระฆังใหญ่จะตีในช่วงเข้าพรรษาเท่านั้น ส่วนช่วงเย็น จะมีการตีระฆังเล็กในหอสงฆ์ เพื่อทำวัตรเย็น ส่วนเรื่องร้องเรียน มีมานานต่อเนื่องกว่า 2 ปีแล้ว ตั้งแต่มีคอนโดมิเนียม โดยผู้ร้องเรียน มีหญิงสาวเพียงคนเดียวที่อาศัยในคอนโดมิเนียมดังกล่าว ที่มีการมาร้องเรียนถึงในวัด ไปจนสำนักงานเขต และจะร้องเรียนในช่วงเข้าพรรษาเท่านั้น
ล่าสุดรายการ “โหนกระแส” ได้เปิดใจนักแสดง เพชร-กรุณพล เทียนสุวรรณ ซึ่งอาศัยอยู่ที่คอนโดมีเนียมดังกล่าว โดยนักแสดงหนุ่มยืนยันว่าทางคอนโดไม่ได้มีการลงชื่อหรือลงมติให้ไปร้องวัดเลย แค่คนหรือสองคน ตอนนี้ทางคอนโดกำลังตรวจสอบว่าเป็นใครกันแน่”
เพชร ซึ่งอยู่ที่คอนโดมีเนียมแห่งนี้ตั้งแต่เปิดดำเนินกิจการมา 2 ปีกว่า ยังบอกอีกว่า ทางวัดจะตีระฆังประมาณตีสี่ถึงตีสี่ครึ่ง เพราะเท่าที่คุยกับทางกรรมการมา ลูกบ้านที่มีปัญหาเขาโทรไปด่าวัดทุกวัน
“ผมไม่แน่ใจว่าคนที่ไปร้องมั้ยเพราะมีสองท่าน เป็นผู้หญิงที่อายุไม่เยอะมาก ไม่ถึง 30 ปี เขาเหมือนมีอาการหงุดหงิด ไม่ชอบเสียงสวดพระ ไม่ชอบเสียงตีระฆัง ทุกครั้งเขาโทรไปด่าวัดตลอด ช่วงหนักๆ ที่คุยกับทางที่วัด คือโทรไปตีห้าทุกวัน ช่วงก่อนมีข่าวนี่แหละ ช่วงนี้เลย โทรตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงตอนนี้”
“ถ้าทำได้ขนาดนี้บอกเลยต้องไม่ใช่คนปกติ เขาต้องมีปัญหา ผมคิดว่าเขาอาจมีปัญหาส่วนตัว งานเครียดหรือเปล่า หรือมีลูกเล็ก หรือต้องกินยาหรือเปล่า อันนี้คนกลุ่มเดียวจริงๆ คนนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นคนไปร้องหรือเปล่า แต่มีอีกคนเป็นผู้ชาย ที่ปล่อยห้องให้ต่างชาติเช่า เขาบอกว่าเขาผ่อนไม่ไหว เลยปล่อยเช่า เอาเงินเช่ามาผ่อนห้องแล้วเขาก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่คนมาเช่าเนื่องจากเป็นคนต่างชาติ ก็อาจไม่รู้ธรรมเนียมกิจของสงฆ์เป็นช่วงเช้าพรรษาพอดีแหละ ตีทุกวัน ผมคิดว่าน่าจะเปิดหน้าต่างนอน เพราะถ้าเปิดหน้าต่างเสียงดังเข้ามาแน่นอน แต่ไม่แน่ใจว่าดังจนทำให้เขาตื่น หรือบางคนต้องนอนแบบเงียบสนิท ก็มีหลายประเภท ไปร้องกับเจ้าของห้องว่าถ้าจัดการตรงนี้ไม่ได้จะย้ายออก เจ้าของห้องเลยไปคุยกับทางวัด ทางวัดเขาบอกว่าเลิกตีไม่ได้ ก็บอกว่าต้องไปคุยกับเจ้าของเขตพื้นที่หรือสถานีตำรวจ เขาก็เลยไปแจ้งความ”
“ตอนนี้เหมือนเริ่มล่าแม่มด เพราะคนในคอนโด คนรอบข้างและนักข่าวก็อยากรู้ว่าใคร ซึ่งจริงๆ ผมว่ารู้ไปเราก็ไปสร้างความลำบากใจให้เขาด้วยซ้ำ เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้ถ้าจะแก้ แก้ความเข้าใจให้ชุมชนรอบข้างก่อนดีกว่า ว่าเรื่องที่เกิดไม่ได้เกิดจากคนส่วนใหญ่ในคอนโด เกิดจากแค่คนๆ เดียว เรามาแก้ปัญหานี้กันก่อน ส่วนเรื่องคนร้องเรียน หาตัวได้ สังคมพิพากษาเขา ถ้าเจอตัวผมว่าโดนพิพากษาจนไม่มีที่ยืนบนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ มันน่าสงสารนะ” เพชร กล่าว
ล่าสุด นายอนันต์ กายพรรณ ผู้อำนวยการเขตบางคอแหลม ได้เดินทางเข้าพบ พระอธิการปรีชา ปุณณสีโล เจ้าอาวาสวัดไทร เพื่อกราบขอขมากรณีที่สำนักงานเขตได้ออกหนังสือแจ้งให้วัดลดระดับเสียงระฆัง พร้อมกับกล่าวว่า สำนักเขตพร้อมดูแลวัดอย่างเต็มที่ และได้พูดคุยทำความเข้าใจกับทางวัดแล้ว โดยยืนยันว่ากิจกรรมทางศาสนาต่างๆภายในวัดสามารถปฏิบัติได้ตามเดิมอย่างที่เคยเป็นมา
นอกจากนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าชี้แจงทำความเข้าใจกับนิติบุคคลของคอนโดฯ ที่มีผู้อาศัยร้องเรียนเรื่องเสียงระฆัง ซึ่งเป็นหน้าที่ของนิติบุคคลคอนโดฯที่จะต้องดำเนินการป้องกันเสียงให้กับผู้อยู่อาศัย
ทั้งนี้ วัดไทรเป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่เลขที่ 635 ซอยประดู่ 1 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ตั้งวัดประมาณ 12 ไร่เศษ เนื้อที่ตั้งวัดปัจจุบันมีถนนผ่านกลาง ริมถนนด้านทิศเหนือ เป็นที่ตั้งอาคารเรียนของโรงเรียนเทศบาลวัดไทร เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่
เนื่องด้วยเป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จึงไม่มีบันทึกว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างขึ้นในสมัยใด เพราะไม่มีหลักฐานการสร้างวัด มีแต่หลักฐานที่พอจะนำมาสันนิษฐานประกอบได้โดยดูจากองค์พระพุทธรูปที่มีอยู่ในวิหาร เป็นพุทธรูปประทับยืนปางห้ามญาติ จีวรเป็นดอกพิกุล หรือดูได้จากพระปรางค์หรือเจดีย์ สังเกตจากฝีมือช่างที่ทำการก่อสร้าง มาเปรียบเทียบจะใกล้เคียงกับช่างในสมัยอยุธยาตอนปลาย
ปัจจุบันพระปรางค์และเจดีย์ได้ชำรุด ปรักหักพังไปหมดแล้วเหลือแต่ฐานเป็นอิฐเสมอกับพื้นดิน เจดีย์บางองค์จะเขียนบอก ร.ศ.ไว้ ในปี ร.ศ.123 สร้างในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ วัดไทรได้รับพระราชทานวิสุงคาม เมื่อพ.ศ.2440 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
บางตำนานระบุว่า “วัดไทร บางโคล่” มีประวัติความเป็นมาสำคัญตั้งแต่สมัยอยุธยา ปรากฎหลักฐานพระพุทธรูปสลักหินทรายสีแดง อยู่ในพระวิหาร โดยเชื่อว่าอดีตเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าเสือ ถวายมาปลูกเป็นกุฎิสงฆ์ โดยเรียกว่าตำหนักทองเพราะปิดทองทั้งหลังสวยงาม ทั้งนี้วัดไทรได้บูรณะสังขรณ์สมัยรัชกาลที่ 4 และสมัยรัชกาลที่ 5
ปัจจุบัน วัดไทร ถือว่าเป็นสถานที่ที่สำคัญแห่งหนึ่งย่านบางคอแหลม และมีชุมชนอยู่รายล้อมวัด ซึ่งหากมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับชุมชนวัดบางไทร ก็จะใช้พื้นที่วัดในการจัดกิจกรรม อาทิ กิจกรรมทางศาสนา ทอดกฐิน หรือกิจกรรมการตรวจสุขภาพฟรีประจำปี เป็นต้น