ย้อนวันวานสุกี้โบราณในวันขึ้นห้าง “เรือนเพชรสุกี้”

ชื่อของ “เรือนเพชรสุกี้” ร้านสุกี้สไตล์ไหหลำ ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ถือเป็นร้านที่อยู่คู่กับถนนเพชรบุรีตัดใหม่มาเกือบ 50 ปี โดยเริ่มต้นเมื่อปี 2511 หลังจาก “สิงพร เลิศธนพันธุ์” บรรพบุรุษรุ่น 1 เป็นผู้ก่อต้ังรุ่นแรก ซึ่งประกอบอาชีพขายผักในย่านปากคลองตลาดต้องการเปลี่ยนอาชีพ บวกกับชอบทำอาหารเป็นทุนเดิม จึงตัดสินใจเปิดร้านสุกี้โดยใช้ชื่อว่า เรือนเพชร สาขาแรกบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ที่สมัยนั้นผู้คนยังไม่พลุกพล่านเหมือนกับปัจจุบัน และหลังจากได้รับผลตอบรับที่ดีมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย จากร้านแรกจึงขยับสู่สาขา 2 ที่ปากน้ำ สมุทรปราการ เมื่อปี 2547 รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในย่านนั้นเป็นหลัก

หลังจากสุกี้เรือนเพชร เปิดให้บริการ 2 สาขา จึงได้เวลากลับมาทบทวนว่าสาขาสแตนด์อะโลนมีข้อจำกัดค่อนข้างมากทั้งด้านค่าใช้จ่ายที่สูง และเรื่องที่จอดรถซึ่งสำคัญมาก บวกกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เริ่มเปลี่ยนแปลง คนเข้าใช้บริการห้างสรรพสินค้ามากขึ้น จึงมีแนวคิดขยับขยายสาขาเข้าห้างฯ เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ไปในตัว จึงเป็นที่มาของเรือนเพชรสุกี้สาขาที่ 3 1 “เซ็นทรัลพลาซา บางนา”  เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559  ซึ่งเป็นสาขาในศูนย์การค้าแห่งแรกที่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงก้าวสำคัญของเรือนเพชรสุกี้ก็ว่าได้

“พงศ์ธรรศ เลิศธนพันธุ์” เด็กหนุ่มไฟแรงวัย 29  ปี หนึ่งในทายาทรุ่นที่ 3 ที่เข้ามาช่วยคุณพ่อ “สมบูรณ์ เลิศธนพันธุ์” ดูแลกิจการในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท เรือนเพชรสุกี้ จำกัด เล่าว่า ที่ผ่านมาเรือนเพชรฯทำธุรกิจแบบครอบครัว ไม่เคยคิดขยายสาขาเพิ่ม กระทั่งเร็ว ๆ นี้รู้สึกว่าถ้ายังอยู่แบบเดิมก็เติบโตกว่านี้ได้ไม่มาก การเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆก็ทำได้ยาก เพราะเพชรบุรีตัดใหม่รถติดมาก ลูกค้าอาจเลือกไปร้านอื่นที่สะดวกกว่าแทน อีกทั้งไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตในศูนย์การค้ามากขึ้นจึงสนใจพาเรือนเพชรสุกี้ขึ้นห้างเสิร์ฟให้ถึงที่เพื่อขยายฐานลูกค้า

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการจัดทิศทางธุรกิจครั้งใหม่ ผสมผสานการทำงานสไตล์ครอบครัวกับระบบแบบบริษัทเข้าด้วยกันพูดคุยในกลุ่มญาติพี่น้องเพื่อให้ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และตั้งบริษัท“บริษัท เรือนเพชรสุกี้ จำกัด” ขึ้นมาดูแลการขยายสาขาใหม่ ๆ ต่อจากนี้  โดยตั้งเป้าขยายสาขาอย่างน้อยปีละ 1 สาขาและเปิดสาขาล่าสุดสาขาที่  4  เซ็นทรัล พระราม 2 ถือเป็นการยึดหัวหาดจุดสำคัญของกรุงเทพฯ ทุกด้าน

ด้วยความที่วางโพสิชั่นนิ่งเรือนเพชรสุกี้ ต้องการเป็นสุกี้ที่คนกรุงเทพฯ รู้จัก เรือนเพชรสุกี้จึงต้องนำแบรนด์และร้านเข้าไปอยู่ในสถานที่นั้นๆ ทั้งหัวเมืองสำคัญๆ ชานเมือง เพื่อให้คนรู้จักมากขึ้น โดยเล็งพื้นที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เป็นสาขาต่อไป

การนำเรือนเพชสุกี้ขึ้นห้าง พงศ์ธรรศ ยอมรับว่า ไม่ใช่งานง่ายเพราะรายล้อมไปด้วยคู่แข่งคนสำคัญจำนวนมากที่ล้วนแข็งแกร่งแต่ด้วยจุดแข็งคือการเป็นแบรนด์ที่อยู่มานาน คนส่วนใหญ่รู้จักแบรนด์เป็นอย่างดีช่วยให้การทำตลาดง่ายขึ้น โดยอาศัยความรู้ด้านนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาประยุกต์ใช้ความรู้เรื่องการตลาด การประชาสัมพันธ์ มาทำให้แบรนด์อยู่ในการรับรู้ของผู้บริโภคมากขึ้น จากก่อนหน้านี้แทบไม่ได้สื่อสารผ่านสื่อหลักใด ๆ ในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา บวกกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคที่ทุกอย่างต้องรวดเร็วแต่ยังมีผู้บริโภคบางกลุ่มที่ถวิลหาความเก่าซึ่งถือเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งท่ามกลางโลกดิจิตอลในเวลานี้

ในฐานะเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ การทำตลาดจึงต้องทันยุคทันสมัย โดยเน้นการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อออนไลน์เป็นหลัก อาทิ  เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และไลน์@ โดยเน้นคอนเทนต์ประเภทภาพอาหาร คลิปวิดีโอขนาดสั้นๆ และโปรโมชั่นต่างๆ  เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายและเพื่อให้เกิดการแชร์ต่อให้กับกลุ่มเป้าหมายในเครือข่ายต่อไป

นอกจากสื่ออนไลน์ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำแล้ว ก็ยังคงสื่อสารผ่านช่องทางสื่อหลักประเภทต่างๆ  ทั้ง โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย เช่น รายการโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลานั้น  หนังสือพิมพ์คอลัมน์ประเภทบทความ แนะนำอาหาร หรือ เชิงธุรกิจผสมผสานสื่อทั้งออฟไลน์ประเภท In-storeMedia ภายในศูนย์การค้าและออนไลน์ผ่านแอพไลน์เพื่อสร้าง Traffic ของลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการภายในร้านโดยเสียค่าดำเนินการที่ต่ำแต่ได้ผลตอบรับที่น่าพอใจ

ความใฝ่ฝันของทายาทเรือนเพชรสุกี้คือ การเปิดสาขาให้ได้ 8-10  สาขา ในอีก  5 ปีนับจากนี้ ก็เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าแล้วซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป สามารถควบคุมได้ โดยไม่มีนโยบายขายแฟรนไชส์เพราะควบคุมยากอาจส่งผลเสียต่อแบรนด์ได้หากควบคุมไม่ดีพอ

“ผมชอบความมั่นคง เติบโตอย่างมั่นคง มีฐานลูกค้าและสามารถตอบสนองได้มากขึ้นเรื่อยๆ ขยับมาตรฐานให้สูงขึ้น ในฐานะSME ขอโตแบบมั่นคงและยั่งยืนดีกว่า”

ขณะที่คติประจำใจในการบริหารงานของหนุ่มคนนี้คือ การเป็นผู้บริหารร้าน ไม่ใช่หัวหน้า ทุกคนต้องไปด้วยกัน พนักงานทุกคนเป็นเหมือนเข็มนาฬิกา เป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้นาฬิกาเดินตรงต่อเวลา เพียงทุกคนทำตามหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เดินไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน ในบางครั้งที่ถ่านอ่อน เราก็เพียงเปลี่ยนถ่านใหม่ ก็จะทำให้นาฬิกาเรือนนี้เดินตรงเวลาในที่สุด  

วันนี้ เรือนเพชรสุกี้แบรนด์เดิม ที่เพิ่มเติมคือความทันสมัย พร้อมยกตำนานความเก๋ามาเสิร์ฟในห้างเรียบร้อยแล้ว

ปักหมุดเปิดตำนานเรือนเพชรสุกี้

1968 – ก่อตั้งขึ้นริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จุดเริ่มต้นของตานานสุกี้โบราณที่มีอายุยาวนานกว่า50 ปี

2002 -เปิดเรือนเพชรสุกี้ สาขาถนนศรีนครินทร์

2016 – เปิดเรือนเพชรสุกี้ สาขาเซ็นทรัลพลาซา บางนา นับเป็นสาขาขึ้นห้างสาขาแรก

2017 – เปิดเรือนเพชรสุกี้ สาขาเซ็นทรัลพลาซา พระรามสอง ในเดือนพ.ย.