ตบหน้าไทยแลนด์แดนมะพร้าว! มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคตรวจกะทิสำเร็จรูปพบ 4 ตัวอย่างมีสารกันบูด

จากการที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้รับการร้องเรียนจากชาวสวนมะพร้าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่ากะทิสำเร็จรูปที่มีขายตามท้องตลาดนั้นไม่ใช่กะทิแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2562
ดังนั้น ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ ภายใต้โครงการสนับสนุนระบบเฝ้าระวังสินค้าและบริการด้านสุขภาพ จึงสุ่มเก็บผลิตภัณฑ์กะทิสำเร็จรูป 3 แบบ คือ กะทิยูเอชที, กะทิพาสเจอร์ไรซ์ ที่วางจำหน่ายในท้องตลาด และ กะทิคั้นสด จากตลาดในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อเปรียบเทียบปริมาณกรดไขมัน วัตถุกันเสีย (ซอร์บิก, เบนโซอิก) และสารฟอกขาว (ซัลเฟอร์ไดออกไซด์) รวมทั้งหมด 11 ตัวอย่าง ได้แก่ 1) กะทิแท้ 100% ชาวเกาะ, 2) กะทิสูตรหัวกะทิ ชาวเกาะ, 3) กะทิแท้ พร้าวหอม, 4) กะทิ 100% อัมพวา, 5) กะทิแท้ 100% รอยไทย, 6) กะทิ 100% เรียลไทย, 7) กะทิ เอโร่, 8) กะทิ 100% หัวกะทิ อร่อย-ดี, 9) ร้านกะทิสด จากตลาดคลองเตย, 10) กะทิพาสเจอร์ไรส์ ชาวเกาะ (บรรจุถุง) และ 11) กะทิสำเร็จรูป (บรรจุถุง) สมุย
ผลการวิเคราะห์แบ่งเป็น กะทิยูเอชที, กะทิพาสเจอร์ไรซ์ และกะทิสด
กะทิยูเอชที 8 ตัวอย่าง | |||||||
ลำดับ | ชื่อผลิตภัณฑ์ | ผลทดสอบ | ส่วนประกอบโดยประมาณ | วันหมดอายุ /ควรบริโภคก่อน | สถานที่เก็บตัวอย่าง | ||
กรดเบนโซอิก | กรดซอร์บิก | ซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ |
|||||
1 | กะทิแท้ 100% ชาวเกาะ (CHAOKOH) |
ไม่พบ | ไม่พบ | ไม่พบ | กะทิแท้ (Coconut milk) 100%, ไม่ใช้วัตถุกันเสีย | ควรบริโภคก่อน 03. 11. 2020 |
ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า |
2 | กะทิสูตรหัวกะทิ
ชาวเกาะ (CHAOKOH) |
ไม่พบ | ไม่พบ | ไม่พบ | หัวกะทิ (Coconut Cream) 99.95%, อิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier, INS 435), ไม่ใช้วัตถุกันเสีย | ควรบริโภคก่อน 29. 10. 2020 |
ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า |
3 | กะทิแท้
พร้าวหอม (PraoHom) |
ไม่พบ | ไม่พบ | ไม่พบ | กะทิ (Coconut milk) 100%, ไม่ใช้วัตถุกันเสีย | ควรบริโภคก่อน 21/08/2020 |
ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า |
4 | กะทิ 100%
อัมพวา (Ampawa) |
ไม่พบ | ไม่พบ | ไม่พบ | กะทิ (Coconut milk) 100%, ไม่ใช้วัตถุกันเสีย คั้นทันทีตั้งแต่กระเทาะเปลือก | ควรบริโภคก่อน EXP: 15/05/20 |
ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า |
5 | กะทิแท้ 100%
รอยไทย (Roi Thai) |
ไม่พบ | ไม่พบ | ไม่พบ | กะทิ (Coconut milk) 100%, ไม่ใช้วัตถุกันเสีย | ควรบริโภคก่อน 27/08/2020 |
บิ๊กซี สาขาสุขสวัสดิ์ |
6 | กะทิ 100%
เรียลไทย (Real Thai) |
ไม่พบ | ไม่พบ | ไม่พบ | กะทิ (Coconut milk) 100%, ไม่ใช้วัตถุกันเสีย คั้นจากมะพร้าวสด | ควรบริโภคก่อน BBE : 06/06/2020 |
เดอะมอลล์ สาขา บางแค |
7 | กะทิ เอโร่
(Coconut Milk) |
ไม่พบ | ไม่พบ | ไม่พบ | กะทิ 99.7% สารป้องกันการเกิดออกซิเดชั่น (INS 223) สารทำให้คงตัว(INS 407, INS410, INS 412, INS 415, INS 466) อิมัลซิไฟเออร์ (INS 471) ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร : มีซัลไฟต์ | 11/06/20 | – |
8 | กะทิ 100% หัวกะทิ อร่อย-ดี (AROY-D) | 2.19 | ไม่พบ | ไม่พบ | กะทิ (Coconut milk) 100%, ไม่ใช้วัตถุกันเสีย | ควรบริโภคก่อน 09/08/2020 |
ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า |
กะทิพาสเจอร์ไรซ์ 2 ตัวอย่าง | |||||||
ลำดับ | ชื่อผลิตภัณฑ์ | ผลทดสอบ | ส่วนประกอบโดยประมาณ | วันหมดอายุ /ควรบริโภคก่อน | สถานที่เก็บตัวอย่าง | ||
กรดเบนโซอิก | กรดซอร์บิก | ซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ |
|||||
9 | กะทิพาสเจอร์ไรส์
ชาวเกาะ |
776.62 | ไม่พบ | ไม่พบ | กะทิ 100 %, วัตถุกันเสีย : โซเดียมเบนโซเอต 0.1% | ควรบริโภคก่อน 05/07/19 |
เดอะมอลล์ สาขา บางแค |
10 | กะทิสำเร็จรูป
(บรรจุถุง) สมุย |
804.24 | ไม่พบ | ไม่พบ | น้ำกะทิ 98.5% กลูโคสไซรัป 1% วัตถุกันเสีย 0.1% (โซเดียมเบนโซเอต, INS 211, เกลือบริโภคไม่เสริมไอโอดีน, สารให้ความคงตัว (INS No.460(i), 407, 466) สำหรับผู้ที่ต้องการจำกัดการบริโภคไอโอดีน | ควรบริโภคก่อน 07/06/19 |
เดอะ มอลล์ สาขา
บางแค |
กะทิสด 1 ตัวอย่าง | |||||||
ลำดับ | ชื่อผลิตภัณฑ์ | ผลทดสอบ | ส่วนประกอบโดยประมาณ | วันหมดอายุ /ควรบริโภคก่อน | สถานที่เก็บตัวอย่าง | ||
กรดเบนโซอิก | กรดซอร์บิก | ซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ |
|||||
11 | กะทิสด ตลาดคลองเตย | 325.09 | ไม่พบ | ไม่พบ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | ตลาดคลองเตย |
ดร.แก้ว กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า อาหารสำเร็จรูปที่มีขายทั่วไปนั้น ผู้บริโภคต้องยอมรับความเสี่ยง เพราะความสะดวกนั้นมากับพร้อมความเสี่ยงและการได้รับความอร่อยที่ลดลง อีกทั้งทุกวันนี้กระบวนการผลิตอาหารมักใช้วัตถุเจือปนอาหาร และใช้กระบวนการผ่านความร้อนที่ทำให้ความหอมและรสอร่อยของอาหารลดลง เช่น กะทิ เมื่อนำมาผ่านความร้อนบรรจุลงกล่องหรือขวด จะมีคุณภาพลดลงไปเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่เก็บอาหารนั้น จะสังเกตว่าเมื่อเราจะนำกะทิสำเร็จรูปมาปรุงอาหาร ในส่วนคุณภาพของกะทิ เช่น ความหอมและรสชาติจะถูกลดทอนไปมากแล้ว
“ผมคิดว่ากะทิเป็นวัตถุดิบที่มีอยู่ในส่วนผสมของอาหารไทยเกือบทุกเมนู ฉะนั้นจึงเสนอให้ทางสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เห็นถึงความสำคัญของอาหารประเภทกะทิ เร่งออกมาตรฐานคุณภาพของกะทิในบ้านเรา เพื่อทำให้กะทิของไทยมีคุณภาพดี รสชาติเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมการใช้มะพร้าวภายในประเทศในการผลิตอีกด้วย” ดร.แก้วกล่าว
ด้านนางสาวสารี อ๋องสมหวัง บรรณาธิการนิตยสารฉลาดซื้อ กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่าทำไมคนญี่ปุ่นต้องกินข้าวจากดินในประเทศญี่ปุ่น ผู้บริโภคไทยก็เช่นเดียวกัน เวลาเราใช้น้ำกะทิหรือกินแกงทะทิ เราต้องการข้อมูลที่จะบอกเราว่า กะทิ 100 เปอร์เซ็นต์กล่องนี้ทำมาจากมะพร้าวที่มาจากไหน ในประเทศ หรือต่างประเทศ ใช้สารเคมีมากน้อยแค่ไหน เพื่อลดการขนส่ง ลดการนำเข้า ลดการใช้พลังงานในการบริโภค โดยมีเป้าหมายในการเป็นผู้บริโภคที่ดี บริโภคอย่างยั่งยืน
“ในส่วนของฉลากบรรจุภัณฑ์ของกะทิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ควรให้ผู้ผลิตระบุด้วยว่าใช้มะพร้าวจากในประเทศหรือต่างประเทศ เพื่อระบุแหล่งที่มาของอาหารและเพื่อให้ผู้บริโภคมีบทบาทในการสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงและความปลอดภัยของอาหาร สนับสนุนเกษตรกร รวมถึงสร้างทางเลือกสำหรับผู้บริโภคด้วย” นางสาวสารีกล่าว
ในส่วนของราคามะพร้าวที่ผู้ประกอบการรับซื้อจากชาวสวนนั้น หากยอมรับในคุณภาพของมะพร้าวในประเทศ ทุกฝ่ายต่างต้องการราคาที่เป็นธรรม การรับซื้อตรงจากเกษตรกร น่าจะทำให้เกษตรกรได้ราคาเพิ่มขึ้น หากเราคิดและยอมรับว่า เกษตรกรเป็นผู้อุปการคุณต่อผู้บริโภค เกษตรกรทำงานหนัก สินค้าเกษตรมีราคาถูกเกินไปจนเกษตรกรไม่สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ การกำหนดราคาสินค้าจึงต้องมีราคาที่เป็นธรรม ไม่ใช่เกษตรกรขายสินค้าในราคาถูก ซึ่งเป็นปัญหาดึกดำบรรพ์ที่ยังมีอยู่จนถึงวันนี้ รัฐควรมีการแก้ปัญหา ควรมีข้อมูลปริมาณผลผลิตในประเทศที่ชัดเจน ทันสมัย เปิดเผย การส่งเสริมการตลาดสำหรับเกษตรกร หรือ การจำหน่ายตรงสำหรับเกษตรกร การกำกับพ่อค้าคนกลาง หรือรัฐบาลต้องมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรให้ชัดเจน ซึ่งในทางปฏิบัติ จะทำอย่างไรให้ใช้มาตรการนี้เป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการผลิตไปสู่เกษตรอินทรีย์ให้มากที่สุด รวมทั้งมีเป้าหมายในการขยายเกษตรอินทรีย์ หรือมุ่งไปสู่การเกษตรกรรมยั่งยืนต่อไปด้วย
ส่วน นายพงษ์ศักดิ์ บุตรรักษ์ ตัวแทนเครือข่ายชาวสวนมะพร้าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มาจากการพูดคุยของตัวแทนเครือข่ายมะพร้าวกับผู้ประกอบการทำให้ได้รับทราบว่ากะทิกล่อง 100 เปอร์เซ็นต์ ในประเทศไทยมีการผสมน้ำมันแบะแซผสมลงไปด้วย ซึ่งน่าจะผิดกฎหมายที่อ้างว่า กะทิ 100 เปอร์เซ็นต์นั้น ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่กะทิ 100 เปอร์เซ็นต์ใช่หรือไม่ จึงได้นำเรื่องมาร้องเรียนกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเพื่อทำการทดสอบ
“ผมคิดว่าบ้านเรามีมะพร้าวจำนวนมากและมีมะพร้าวคุณภาพดี แต่ขณะที่ผู้บริโภคในประเทศไม่ได้บริโภคมะพร้าวที่มีคุณภาพดี แต่กลับต้องไปบริโภคมะพร้าวนำเข้า ที่ผ่านกระบวนการต่างๆ มากมาย ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคก็ได้ นอกจากนี้ ผมอยากเห็นการทำกะทิจากมะพร้าวที่สามารถปลูกได้ในประเทศไทยเพื่อทำให้ผู้บริโภคได้รับกะทิที่มีคุณภาพ มีน้ำมันมะพร้าวที่มีคุณค่า แล้วราคาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งยังช่วยจำกัดปริมาณการนำเข้าจากต่างประเทศได้อีกด้วย” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
ที่มา: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค