หลังจากที่ต้ังปณิธานสู่การเป็น “ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับโลก” ภายใต้ การวางกลยุทธ์ ‘4R: ประกอบด้วย รีแบรนด์-รีออกาไนซ์-รีโนเวท-รีคอนเนค’ เพื่อก้าวสู่การเป็น‘ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับโลก’ ภายในปี 2564 มาลี กรุ๊ป ต่อยอดจุดมุ่งหมายสู่การเป็น “ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับโลก” ทุ่มกว่า 60 ล้านบาท รุกตลาดน้ำผลไม้ 100% มูลค่า 5,000 ล้านบาทเต็มสูบ เปิด 3 กลยุทธ์ ทั้งการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์โฉมใหม่ กระชับพอร์ตผลิตภัณฑ์ และโปรแกรมสื่อสารการตลาดรอบด้าน ประเดิมส่งนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์กล่อง UHT แถบดีไซน์รูปทรง “ใบไม้” ขนาด 200 มล. เป็นน้ำผลไม้รายแรกในประเทศไทย ชูจุดขายจับถนัดมือและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเจาะช่องทางร้านสะดวกซื้อ ตั้งเป้าเติบโต 10% ภายในสิ้นปี
Malee
นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดน้ำผลไม้ในรอบปีที่ผ่านมาว่า มีอัตราการเติบโตลดลงถึง 7% โดยมีมูลค่าตลาดรวม 13,200 ล้านบาท แบ่งเป็นย้ำผลไม้พรีเมียม มีสัดส่วน 38% หรือราว 5,000 ล้านบาท เติบโตติดลบ 2% น้ำผลไม้มีเดียม มูลค่า 1,200 ล้านบาท เติบโต 2% น้ำผลไม้อีโคโนมี่ มูลค่า 2,700 ล้านบาท เติบโตติดลบ 17% น้ำผลไม้ซูเปอร์อีโนโมนิค มูลค่า 2,300 ล้านบาท เติบโต 1% ซึ่งการเติบโตถดถอยดังกล่าวอยู่ในลักษณะเดียวกับเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ ยกเว้นน้ำเปล่าที่ยังมีการเติบโต สาเหตุมาจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก
มาลี ในฐานะหนึ่งผู้เล่นคนสำคัญป้จจุบันมีส่วนแบ่งตลาด 21% จากน้ำผลไม้พรีเมียม ถือโอกาสรุกตลาดน้ำผลไม้ 100% ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งน้ำผลไม้ 100% เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงด้วยสัดส่วน 1 ใน 3 ของตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 14,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2560) ทั้งนี้ “น้ำผลไม้ 100%” ยังเป็นผลิตภัณฑ์ฮีโร่ที่ขายดีที่สุดของมาลี โดยมียอดขายมากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 50% ของยอดขายในประเทศ
Malee
ทั้งนี้ มาลีฯ จัดสรรงบประมาณกว่า 60 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนและขยายตลาดน้ำผลไม้ 100% เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสกับความใส่ใจ เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ กระบวนการผลิต จนถึงการบรรจุลงกล่อง เพื่อให้ทุกคนได้คุณค่าจากใจ 100% จาก “มาลี น้ำผลไม้ 100%” โฉมใหม่ โดยผ่าน 3 กลยุทธ์ ได้แก่
กลยุทธ์ที่ 1) เปิดตัวบรรจุภัณฑ์โฉมใหม่ นับเป็นการปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นสากล ได้รับการออกแบบที่โดดเด่นดูดีมีสไตล์โดนใจด้วยภาพถ่ายผลไม้สีสันสดใสในมุมมองด้านบน กับผลไม้ที่ถูกผ่าครึ่ง และรูปใบไม้สีเขียวสด รวมทั้งยังมีการใช้แถบสีตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ตามโอกาสในการดื่ม เพื่อสร้างความแตกต่าง จดจำได้ และช่วยให้ลูกค้าทั้งในส่วนผู้บริโภคและร้านค้า สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ที่ 2) การกระชับพอร์ตผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการผลิต การเก็บรักษา การทำตลาด และการจัดจำหน่าย โดยได้ปรับลด SKU ที่ได้รับความนิยมน้อยลง 20% ที่ช่วยทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ตรงตามความต้องการได้ง่ายขึ้น
กลยุทธ์ที่ 3) โปรแกรมสื่อสารทางการตลาดรอบด้าน ที่เข้าถึงผู้บริโภคด้วยช่องทางการสื่อสารแบบครบวงจร 360 องศา ประกอบด้วย ภาพยนตร์โฆษณาที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมาลี สื่อออนไลน์ กิจกรรมโรดโชว์และแจกสินค้าตัวอย่างให้ชิมในซูปเปอร์มาร์เก็ต โมเดิร์นเทรด ร้านค้าหลักในต่างจังหวัดครอบคลุมทุกช่องการจำหน่ายทั่วประเทศ
Malee
“เราเชื่อมั่นว่าการรุกเซกเม้นท์น้ำผลไม้ 100% ในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตให้กับกลุ่มน้ำผลไม้ 100% เพิ่มขึ้น 10% ภายในสิ้นปี 2560 และสร้างยอดจัดจำหน่ายในขนาด 200 มล. ในช่องทางร้านสะดวกซื้อ เพิ่มขึ้น 15% และขยายฐานผู้บริโภคกลุ่มใหม่ให้หันมาดื่มน้ำผลไม้ 100% เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยทุกคน รวมทั้งเป็นก้าวสำคัญของมาลีกรุ๊ปเพื่อเดินหน้าสู่จุดมุ่งหมาย “ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับโลก” ได้อย่างแน่นอน” นางสาวรุ่งฉัตร กล่าวทิ้งท้าย
