Biznews

“มาร์เวล” บุกเมกาบางนาดึงต่างชาติเพิ่ม

เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 5 ปีย่างเข้าสู่ปีที่ 6 สำหรับศุนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง “เมกาซิตี้ บางนา” ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาพื้นที่พาณิชยกรรมขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และอาคารที่พักอาศัย ตั้งอยู่บนพื้นที่ 400 ไร่บริเวณมุมด้านตะวันตกเฉียงใต้ ของทางแยกต่างระดับวัดสลุด (ถนนกาญจนาภิเษกตัดกับถนนเทพรัตน ช่วงกิโลเมตรที่ 8) ในพื้นที่ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ บริหารงานโดย บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท อิคาโน่ รีเทล เอเชีย จำกัด และบริษัท เอส.พี.เอส. โกลเบิลเทรด จำกัด

ล่าสุด ศูนย์การค้าเมกาบางนา เตรียมพื้นที่ส่วนต่อขยายอีกสองเฟส เพื่อตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางธุรกิจค้าปลีก และนำเสนอประสบการณ์ทั้งด้านความบันเทิงและการศึกษา โดยไฮไลท์คือการเผยโฉม “เดอะ มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์” (Marvel Experience) แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวบันเทิงแบบอินเตอร์แอคทีฟ พร้อมเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคมปีนี้ พร้อมด้วยโรงเรียนประถมศึกษานานาชาติดิษยะศริน กรุงเทพ ในเครือเดียวกับโรงเรียน ดิ อเมริกัน สคูล ออฟ แบงค็อก (The American School of Bangkok) ซุ้งทั้ง 2 ส่วนนี้ใช้เงินลงทุน 2,000 ล้านบาท

การเปิดให้บริการในส่วนของ“เดอะ มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์”ในครั้งนี้จะถือเป็นจุดเปลี่ยนฐานลูกค้าของเมกาบางนา จากปัจจุบันมีสัดส่วนคนไทย 95% ต่างชาติ 5% ในปีที่ผ่านมามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการทั้งปีที่ 42 ล้านคน ซึ่งหลังการเปิดให้บริการของ “เดอะ มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์” ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้ จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มสัดส่วนเป็น 10%

สำหรับ“เดอะ มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์”อยู่ภายใต้การทำตลาดโดยบริษัท ฮีโร่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด มีทุนจดทะเบียน 127.5 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของนักธุรกิจที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านสื่อและความบันเทิงหลายแขนงมากว่า 10 ปี และเห็นแนวโน้มนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มชื่นชอบกิจกรรมที่ให้ประสบการณ์แแปลกใหม่มากขึ้น จึงวางแผนระยะยาวในการสร้างธุรกิจใหม่ โดยเจรจากับบริษัท ฮีโร เวนเจอร์ สหรัฐ เจ้าของลิขสิทธิ์ “เดอะ มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์” (ทีเอ็มเอ็กซ์) และบรรลุข้อตกลงในการสร้างแหล่งท่องเที่ยวในไทยเป็นครั้งแรก และครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท มีกำหนดเปิดตัวภายในไตรมาส 2 ปี 2018 และถือเป็นครั้งแรกที่มาร์เวลออกนอกประเทศสหรัฐอเมริกาและเลือกไทยเป็นประเทศแรก

แผนการสร้าง เดอะ มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์ ใช้พื้นที่รวมมากกว่า 1 หมื่นตร.ม. เลือกทำเลย่านบางนา บริเวณศูนย์การค้าอิเกีย โดยมีโครงสร้างแบ่งเป็น 7 โดม ใช้เทคนิค “ดิจิทัล ไฮเปอร์ เรียลลิตี้” ผสานกับเรื่องราวที่ผูกโยงขึ้นโดยใช้ฉากหลังในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในเรื่องราวของตัวละครภายใต้แบรนด์มาร์เวลกว่า 20 คาแรกเตอร์ และมีแผนจะเพิ่มเติมอีกในอนาคต เมื่อมาร์เวลเปิดตัวภาพยนตร์ใหม่ๆ ตามมา โดยมีความสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 1.3 หมื่นคน/วัน ทั้งนี้ คาดว่าลังเปิดให้บริการ จะมีนักท่องเที่ยวกว่า 1 ล้านคน เป็นชาวไทยราว 30% และต่างชาติ 70%

ถือเป็นครั้งแรกของเมืองไทยกับ Indoor Themed Entertainment Attraction ระดับโลก พร้อมเปิดประสบการณ์การต่อสู้พร้อมเหล่ามาร์เวลซูเปอร์ฮีโร่ ทั้ง Iron Man, Spider-Man, Captain America และอีกมากมาย

นอกจากนั้น ยังมีส่วนต่อขยายเพื่อเพิ่มพื้นที่กิจกรรมความบันเทิงกึ่งการเรียนรู้ สำหรับเด็กๆและสมาชิกในครอบครัว (Indoor Family Entertainment Complex) ซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่ “เมกา คิดส์” ตอกย้ำความแข็งแกร่งของเมกาบางนา ซึ่งเป็นสถานที่แห่งความสุขและการใช้ชีวิตสำหรับครอบครัว ซึ่งจะเปิดให้บริการในไตรมาสที่สองของปี 2019 ภายใต้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ในโครงการยังมี “เมกา พาร์ค” (Mega Park) ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวให้ลูกค้าของเมกาบางนาได้ใช้พักผ่อนกับครอบครัวและกลุ่มเพื่อน อีกทั้ง เมกาบางนาได้เปิดให้บริการถนนวงแหวนที่อยู่ล้อมรอบศูนย์ เพื่อรองรับปริมาณรถยนต์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาโครงการในอนาคต

“คริสเตียน โอลอฟสัน” ผู้อำนวยการศูนย์การค้าและโครงการมิกซ์ยูส อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ได้ตั้งเป้าหมายให้เมกาบางนาเป็นศูนย์กลางชุมชนที่ทันสมัย และเป็นเมืองที่คนสามารถทำงานและพักอาศัย รวมทั้งช้อปปิ้ง รับประทานอาหาร พบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง และใช้เวลากับครอบครัว โดยจะแบ่งการพัฒนาเป็นหลายเฟส ซึ่งในที่สุดแล้ว โครงการเมกาซิตี้จะเป็นศูนย์รวมแห่งประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย และสวนพักผ่อน บนพื้นที่ 400 ไร่ รองรับผู้ใช้บริการได้มากกว่า 250,000 คนต่อวัน ตามรูปแบบการพัฒนาแบบยั่งยืนในระดับเมือง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อโครงการ “เมกาซิตี้”

พื้นที่บางนาเป็นพื้นที่ชานเมืองที่ได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนและลูกค้าทั่วไปมากที่สุดแห่งหนึ่ง ด้วยกำลังซื้อของคนในพื้นที่ สถานศึกษาที่มีคุณภาพ และระยะทางที่ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติและโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก รวมทั้งระบบขนส่งมวลชนในอนาคต ทั้งรถไฟฟ้า MRT และรถโมโนเรล ทำให้นักพัฒนาและนักลงทุนสนใจเข้าร่วมโครงการพัฒนาเมกาบางนาและเมกาซิตี้ นายคริสเตียนกล่าว

“ปพิตชญา สุวรรณดี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การค้าเมกาบางนา กล่าวว่า จากการเปิดเฟสแรกสำเร็จตามเป้าหมาย คือ เมกา ฟู้ดวอล์ค ซึ่งส่วนต่อขยายนี้ทำให้เพิ่มจำนวนร้านอาหารให้ลูกค้าได้เลือกมากถึง 160 ร้าน โดยในปีนี้จะมีผู้เช่าใหม่กว่า 100 ราย และยังมีโครงการปรับปรุงพื้นที่เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้า โดยตั้งใจจะทำให้เมกาบางนาเป็นสถานที่พบปะ (meeting place) ที่เป็นมากกว่าที่ช้อปปิ้ง ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ อีกทั้ง เดอะ มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์ และโรงเรียนประถมศึกษานานาชาติดิษยะศริน กรุงเทพ โดยจะเปิดให้บริการให้ช่วงเดือนพฤษภาคม และสิงหาคมนี้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญภายใต้เป้าหมายของโครงการเมกาซิตี้

สำหรับปี 2561 เมกาบางนาทุ่มงบการตลาดเพิ่มอีก 20% จากปีที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับส่วน ต่อขยายที่เปิดใหม่ กับกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น ทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเมกาบางนาคาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่ม 10% ในปีนี้

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: