Biznews
มหกรรมเท!’SCBX’ เลื่อนดีล ‘บิทคับ’ หวั่นซ้ำรอย‘อีลอน มัสก์’ ล้มดีลซื้อทวิตเตอร์!

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยเรื่องการเข้าลงทุนบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด(มหาชน) หรือ บิทคับ ของ บริษัทที่ได้แจ้งว่าคาดการณ์ว่าธุรกรรมการซื้อขายหุ้นดังกล่าวจะสามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปี 2565 นั้น
บริษัท เอสซีบีเอกซ์ จำกัด (มหาชน) แจ้งถึงการเข้าทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นใน บิทคับ ดังกล่าวอยู่ภายใต้การปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องและมีเงื่อนไขว่าผลการสอบทานธุรกิจของบิทคับ ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญต้องเป็นที่น่าพอใจและคู่สัญญาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้นครบถ้วน
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างกระบวนการสอบทางธุรกิจและระหว่างการหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องโดยมีการขยายเวลาการเข้าทำธุรกรรมออกไปจากกำหนดการเดิม

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยกลุ่มเอสซีบีเอ็กซ์ แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ประกาศเข้าซื้อหุ้นของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ Bitkub กระดานเทรดคริปโตเคอร์เรนซี อันดับหนึ่งของไทย ในสัดส่วน 51% มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 17,850 ล้านบาท โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2565

‘อีลอน มัสก์’ ล้มดีลซื้อทวิตเตอร์!
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 9 กรกฏาคม 2565 กล่าวว่า อีลอน มัสก์ แจ้งกับทางทวิตเตอร์เมื่อวันศุกร์ว่า เขาจะถอนข้อเสนอซื้อกิจการทวิตเตอร์มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท
อีลอน มัสก์ กล่าวหาทวิตเตอร์ว่าชักนำให้เขาเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับจำนวนของบัญชีปลอม
มัสก์ยุติข้อตกลงมูลค่ามหาศาลที่เขาลงนามในเดือนเมษายนเพื่อขอซื้อทวิตเตอร์ และอาจต้องต่อสู้ในศาลเรื่องค่าธรรมเนียมการบอกเลิกกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และอีกมากมาย
“อีลอน มัสก์ใช้สิทธิ์ในการยุติข้อตกลงการควบรวมกิจการและยกเลิกการทำธุรกรรม” ทนายความของมัสก์กล่าวในจดหมายถึงทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นสำเนาที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ
ขณะที่ทวิตเตอร์ไม่ยอมรับการถอนข้อเสนอดังกล่าว และเตรียมฟ้องร้องต่อศาล เพื่อบังคับใช้ข้อตกลงมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามที่เคยได้ลงนามกันไว้
เมื่อเดือนพฤษภาคม มัสก์กล่าวว่า ข้อตกลงเสนอซื้อทวิตเตอร์ถูกระงับชั่วคราว เนื่องจากเขากำลังรอข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนบัญชีผู้ใช้งานปลอมและสแปมของทวิตเตอร์ เพราะเขาต้องการหลักฐานสนับสนุนการยืนยันของบริษัทว่าบัญชีเหล่านี้มีสัดส่วนน้อยกว่า 5% ของบัญชีผู้ใช้งานทั้งหมด เนื่องจากเขาเชื่อว่าบัญชีดังกล่าวน่าจะมีสัดส่วนถึง 20% หรือมากกว่า
หลังคำประกาศล้มดีลครั้งนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ราคาหุ้นของทวิตเตอร์ร่วงลง 7% ทันที
อย่างไรก็ตาม เรื่องไม่จบเพียงแค่นี้ ยังมีผลต่อเนื่องในอีกหลายประเด็น หนึ่งในนั้นคือ การออกบันทึกภายในของทวิตเตอร์ไปยังพนักงาน ระบุไม่ให้พนักงานแสดงความเห็นเกี่ยวกับการซื้อกิจการครั้งนี้
สาเหตุที่ทวิตเตอร์ออกบันทึกภายในเป็นเพราะว่า กระบวนการควบรวมกิจการระหว่างทวิตเตอร์ และอีลอน มัสก์ ยังอยู่ในขั้นตอนทางกฎหมายที่กำลังดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ บริษัทจะพร้อมแบ่งปันข้อมูลต่อไป เมื่อสามารถทำได้ เพียงแต่ในเวลานี้ บริษัทยังมีความจำเป็นที่จะต้องจำกัดการแบ่งปันข้อมูลไปก่อน