ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศขยายไลน์อัพของ ฟอร์ด เรนเจอร์ เปิดตัวสุดยอดกระบะพันธุ์แกร่ง 6 รุ่นย่อยใหม่ เพื่อมอบตัวเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้า ตอบรับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะใช้เพื่อการทำงานหรือไลฟ์สไตล์อื่นๆ
ฟอร์ด เรนเจอร์ มาพร้อม 6 รุ่นย่อยใหม่ ได้แก่ ไวล์ดแทรค 1 รุ่น XLT 1 รุ่น XL และ XL+อีก 4 รุ่น ทำให้ลูกค้าในประเทศไทยมีตัวเลือกที่หลากหลายยิ่งขึ้น ถึง 26 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นไวล์ดแทรค รุ่นลิมิเต็ด รุ่น XLT รุ่น XLS รุ่น XL+ รุ่น XL รุ่นกระบะฐานล้อสั้น (SWB)และสุดยอดรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง อย่าง เรนเจอร์ แร็พเตอร์
ฟอร์ด เรนเจอร์ ปฏิวัติมาตรฐานวงการรถกระบะ ด้วยการผสมผสานสมรรถนะอันแข็งแกร่ง การออกแบบเหนือระดับ และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เหนือกว่า มาพร้อมกับความประณีตและความสะดวกสบาย แต่ยังคงโดดเด่นด้วยมาตรฐานความแกร่งสมบุกสมบันของกระบะนิยาม‘เกิดมาแกร่ง’ นับได้ว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ คือ สัญลักษณ์ความแกร่งอันชาญฉลาดที่พร้อมช่วยลูกค้าให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น
ความคุ้มค่าและตัวเลือกที่หลากหลาย
เรนเจอร์ 6 รุ่นย่อยใหม่ ได้แก่
- ฟอร์ด เรนเจอร์ สแตนดาร์ดแชสซีแค็บ 2.2L XL 4×2 เกียร์ธรรมดา 6 สปีดเหมาะสำหรับการขนส่งสินค้า ด้วยสมรรถนะเหนือชั้นที่ และสามารถดัดแปลงเป็นตู้เก็บของเย็นหรือร้อนได้ ในราคา 528,000 บาท
- ฟอร์ด เรนเจอร์ สแตนดาร์ดแค็บ 2.2L XL 4×4 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รถกระบะสมรรถนะสูงพร้อมรับมือกับงานสุดหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นการลากจูง การบรรทุก และออฟโรด ด้วยราคา 649,000 บาท
- ฟอร์ด เรนเจอร์ ดับเบิ้ลแค็บ XL 2.2L 4×2 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันชาญฉลาด ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD เสนอขายที่ราคา 689,000 บาท
- ฟอร์ด เรนเจอร์ ดับเบิ้ลแค็บ 2.2L XL+ 4×2 Hi-Rider เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รถกระบะดับเบิ้ลแค็บ 4 ประตูยกสูงพันธุ์แกร่ง มาพร้อมล้ออัลลอย 16” และขุมพลังสมรรถนะสูง ในราคา 749,000 บาท
- ฟอร์ด เรนเจอร์ โอเพนแค็บ 2.2L XLT 4×4 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รถกระบะสมรรถนะสูงมาพร้อมกับล้ออัลลอย 17” เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ในราคาที่คุ้มค่าที่สุดที่ 799,000 บาท
- ฟอร์ด เรนเจอร์ ดับเบิ้ลแค็บ 2.0L ไวล์ดแทรค เทอร์โบ 4×2 เกียร์ธรรมดา 6สปีด รถกระบะดับเบิ้ลแค็บพันธุ์แกร่ง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมมอบความสะดวกสบายเหนือระดับ ด้วยราคา 979,000 บาท
แกร่งกว่า ฉลาดกว่า
ฟอร์ด เรนเจอร์ ทุกรุ่น มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เหนือชั้น เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ ในฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นไวล์ดแทรค 4×4 ประกอบด้วย
· ระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ซึ่งผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติแบบ Inter-Urban Autonomous Emergency Braking (AEB) เข้ากับระบบตรวจจับยานพาหนะและคนเดินถนน
· ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
· ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System)
· ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)
· ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System)
· ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control)
· ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Active Park Assist)
· กล้องมองหลังและเซ็นเซอร์
· กุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท
ระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) ใน เรนเจอร์รุ่นแร็พเตอร์ รุ่นไวล์ดแทรค และรุ่นลิมิเต็ด สามารถรองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto พร้อมบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง มาพร้อมระบบจดจำเสียงและระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทย
สำหรับรุ่นแร็พเตอร์ รุ่นไวล์ดแทรค และรุ่นลิมิเต็ด มาพร้อมกับฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift เพื่อช่วยลดการออกแรง และเพิ่มความสะดวกในการปิดเปิดฝาท้าย
ฟอร์ด เรนเจอร์ ยังเป็นรถกระบะรุ่นแรกที่ติดตั้งพวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าในทุกรุ่น เพื่อเพิ่มสมรรถนะรถกระบะพันธุ์แกร่งในการใช้งานทุกรูปแบบทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและที่ทำงานในไซต์ก่อสร้างรวมถึงพื้นที่การเกษตรทั่วประเทศ
ราคา สี และการบริการ
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 26 รุ่น ตามราคาจำหน่ายดังต่อไปนี้
- แร็พเตอร์ – ราคา 1,699,000 บาท
- ไวล์ดแทรค – ราคา 979,000 – 1,265,000 บาท
- ลิมิเต็ด – ราคา 889,000 – 1,039,000 บาท
- XLT – ราคา 749,000 – 879,000 บาท
- XLS – ราคา 659,000-789,000 บาท
- XL+ – ราคา 659,000-749,000 บาท
- XL – ราคา 528,000-689,000 บาท
ฟอร์ด เรนเจอร์ มีสีให้เลือกทั้งหมด 8 สี ได้แก่ สีเทาคองเคอร์ เกรย์ (เฉพาะรุ่นแร็พเตอร์) สีส้มเซเบรอ (เฉพาะรุ่นไวล์ดแทรค) สีเทาเมทีออร์ เกรย์ เมทัลลิค (เฉพาะรุ่นไวล์ดแทรค รุ่นลิมิเต็ด และรุ่น XLT) สีดำแอพโซลูท สีขาวอาร์กติก ไวท์ สีเงินอะลูมิเนียม เมทัลลิค สีแดงทรู เร้ด และสีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (ยกเว้น รุ่นไวล์ดแทรค และรุ่น XL)
นอกจากนี้ ลูกค้าฟอร์ด เรนเจอร์ ยังจะได้รับบริการพิเศษด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะ สูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กิโลเมตร เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก15,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี พร้อมรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร จาก Ford Protect
ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากการเปิดตัวรถ 6 รุ่นย่อยใหม่ครั้งนี้ ฟอร์ด ยังได้ปรับปรุงแผงหน้าปัดมาตรวัดความเร็วให้แสดงผลภาษาไทยได้สำหรับ เรนเจอร์ XLS XLT ลิมิเต็ด ไวล์ดแทรค และแร็พเตอร์ ด้วย