จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในเมืองอู่ฮั่นและลุกลามขยายวงกว้างไปยังเมืองอื่นๆ ของประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตและติดเชื้อเป็นจำนวนมากในขณะนี้ จนทางการจีนต้องอมาตรการเข้มข้นโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ออกคำสั่งห้ามบริษัททัวร์นำคนจีนออกไปเที่ยวทั่วโลกนั้น
คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นพร้อมๆกับการเริ่มต้นของช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ก่อนหน้านี้มีตัวเลขประมาณการณ์ว่าจะมีชาวจีนออกเดินทางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศจำนวนรวมกว่า 3,000 ล้านเที่ยวการเดินทาง ดังนั้น การตัดสินใจของรัฐบาลจีนครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมภาคบริการของจีนในภาพรวม เชื่อมโยงไปถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศอื่นๆด้วย
ทั้งนี้ สถิติในปี 2561 ชี้ว่านักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายเงินในการท่องเที่ยวต่างประเทศคิดเป็นมูลค่าถึง 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 3.9 ล้านล้านบาท พวกเขาเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุดในโลก และ 55% หรือกว่าครึ่งของนักท่องเที่ยวจีนที่ออกเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศยังนิยมใช้บริการของบริษัททัวร์
มาตรการดังกล่าวถือเป็นการส่งผลกระทบโดยตรงต่อหลายอุตสาหกรรมในบ้านเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ 2 วงการสำคัญอย่างท่องเที่ยวที่ในแต่ละปีมียอดนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาปีละกว่า 10 ล้านคนที่ต้องสูญเสียรายได้มหาศาล รวมทั้งธุรกิจค้าปลีกในย่านใจกลางเมืองอย่างราชประสงค์ที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มต่างชาติและเกินครึ่งมาจากจีน แผ่นดินใหญ่
นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ประเมินความเสียหายจากมาตรการดังกล่าวของทางการจีนที่กระทบต่อประเทศไทยจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปช่วง 2 เดือนนี้ประมาณ 1.2-1.3 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวหายไปประมาณ 48,000-52,000 ล้านบาท
ส่วนผู้ประกอบการบริษัทท่องเที่ยวของไทยต้องปรับตัวในเมื่อตลาดนักท่องเที่ยวจีนจะหายไป ด้วยการหาตลาดใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาเซียน CLMV ซึ่งประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม รวมไปถึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินเดีย ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต้องเป็นหัวหอกในการทำตลาดนี้
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ขณะนี้จากการระบาดที่ยังค่อนข้างรุนแรง และยังไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดได้ ไทยจะสูญเสียนักท่องเที่ยวประมาณ 70% หรือสูญเสียนักท่องเที่ยวประมาณ 1.89 ล้านคน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน-เม.ย.2563 หากรัฐบาลจีนสามารถควบคุมการระบาดได้เร็วขึ้น อาจจะประเมินผลเสียหายอีกครั้ง
ซึ่งสิ่งที่ไทยควรทำคือประชาสัมพันธ์มาตรการดูแลนักท่องเที่ยวในกรณีการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส และดูแลนักท่องเที่ยวจีนกรณีตกค้างอยู่ในไทย เนื่องจากบางสายการบินหยุดบิน โดยเฉพาะเส้นทางเชื่อมกับเมืองอู่ฮั่น และเตรียมหาตลาดทดแทนนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งอาจจะหยุดเดินทางอย่างน้อย 3 เดือน
ส่วนผลกระทบต่ออุตสาหกรรมค้าปลีก อีกหนึ่งอุตสาหกรรมหลักของประเทศปฏิเสธไม่ได้ว่าได้รับผลกระทบโดยตรงจากการสั่งห้ามนักท่องเที่ยวจีนออกนอกประเทศ จากปรกติอุตสาหกรรมค้าปลีกที่ผ่านมาก็อยู่ในขั้นวิกฤตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
‘วรวุฒิ อุ่นใจ’ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผย BIZpromptINFO ว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลเสียแน่นอน ส่วนจะเสียมาก เสียน้อยขึ้นอยู่กับความรุนแรงในการระบาด และการควบคุมป้องกันจากภาครัฐ
ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกในประเทศในประเทศ วรวุฒิ ฟันธงชัดเจนว่า ยอดตกแน่นอน เพราะการท่องเที่ยวมีผลต่อค้าปลีกด้วย
ส่วนแนวทางในการตั้งรับ ขณะนี้ต้องขอฟังจากรัฐก่อนและยังเร็วไปที่จะประเมินว่าผลนั้นจะสั้นยาวแค่ไหน แต่หวังว่าไม่เกิน 3 เดือน ทุกคนต่างรอดูท่าทีก่อน
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่ค่อนข้างน่าหวั่นวิตกนี้ เหล่าค้าปลีกบ้านเรากลับยังไม่มีมาตรการใดๆ ออกมารองรับ ทั้งที่เหล่าคนจีนคือเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงธุรกิจก็มิปาน ….
