Real Estate

“พฤกษา” การข้ามห้วยครั้งสำคัญ “สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์”

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของเมืองไทย อย่าง “พฤกษา” ที่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มายาวนานย่อมมีทั้งด้านลบและด้านบวกควบคู่กันเนื่องด้วยพฤกษาจับกลุ่มลูกค้าแมสราคาจับต้องได้ คือคนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นหลักรวมท้ังปริมาณการส่งมอบสินค้าไปยังมือผู้บริดภคค่อนข้างสูงในแต่ละปี ทำให้ที่ผ่านมา ผู้บริโภคมักกล่าวถึงแบรนด์พฤกษาใน แง่ลบ มากกว่าแง่บวก ซึ่งพฤกษาเล็งเห็นและตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงพยายามมองหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยงานอยู่เป็นระยะๆ

จนเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2560 พฤกษา ได้ประกาศแต่งตั้ง “สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์” เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และ “ไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล” เป็น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินกลุ่ม

ต้องยอมรับว่า สุพัตรา นั้นเป็นผู้ที่คร่ำหวอดในแวดวงตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคและเป็นลูกหม้อองค์กรยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง “ยูนิลีเวอร์” มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี โดยตำแหน่งสูงสุดที่ได้รับคือ “ประธานกรรมการบริหาร” กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย และตำแหน่งล่าสุดก่อนลาออก คือ ประธานที่ปรึกษา บริษัท ยูนิลิเวอร์ และยังรั้งตำแหน่ง นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย การันตีความรู้ความสามารถอีกหนึ่งตำแหน่ง

ล่าสุด พฤกษาเปิดนโยบายการทำตลาดประจำปี 2561 สุพัตรา ในฐานะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) มือขวาของ”ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์” ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บอกถึงแผนธุรกิจในปีนี้ว่า ด้วยวิสัยทัศน์ละพันธกิจที่จะก้าวไปสู่แบรนด์อันดับหนึ่งในใจคนไทย และเป็นที่หนึ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ พฤกษาจึงใส่ใจทุกคุณภาพเพื่อทั้งชีวิตที่ดีขึ้น ในปีนี้จึงมุ่งเน้นศึกษาเรื่องเมกะเทรนด์ของตลาด โดยอีก 5 ปีข้างหน้ามูลค่าตลาด Smart Home จะเติบโตเพิ่มสูงขึ้น 13.65% บริษัทฯ จึงนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้การพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อเพิ่มคุณภาพและบริการ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในวันนี้และอนาคต อาทิ การเยี่ยมชมโครงการใหม่ผ่านระบบ VR รวมถึงการสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ในบ้านผ่านระบบ AI เป็นต้น รวมถึงพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อรองรับสำหรับสังคมสูงวัย

นอกจากนี้ยังได้ใช้แผนกลยุทธ์การตลาดแบบ Digital Marketingเพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ส่งผลให้เว็บไซต์พฤกษามียอดผู้เข้าชมสูงสุด และก้าวขึ้นมาเป็นเว็บไซต์อันดับหนึ่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยปีที่ผ่านมามียอดขายที่มาจากสื่อดิจิทัล16,101 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 98%

ด้านภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2561 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าจะมียอดขายเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 5% มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 4.20 แสนล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนโครงการลงทุนด้านการคมนาคมของภาครัฐบาล ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ ตั้ง
เป้ายอดขายไว้ที่ 53,742 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 13% และรายได้ 50,500 ล้านบาทหรือเติบโต >10% รวมถึงการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้เติบโต >13.5% โดยมาจากแผนการเปิดโครงการใหม่ จำนวน 75 โครงการ มูลค่า 66,700 ล้านบาท และการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งบประมาณ รวมถึงการร่วมกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าให้ดียิ่งขึ้น อาทิ การใช้เสาเข็มมาตรฐาน มอก. ของ GEL,
ร่วมมือกับ SCG พัฒนาวัสดุก่อสร้างที่ทันสมัยมาใช้ในโครงการ และการพัฒนาคุณภาพสีทาบ้านร่วมกับ TOA เป็นต้น ด้านความคืบหน้าของโรงพยาบาลวิมุตขณะนี้โครงการได้ผ่าน EIA และกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างโดยใช้งบประมาณ 650 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการแก่ลูกค้าได้ในปี 2020

ด้าน นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตทบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้ภาพรวมตลาดของกลุ่มธุรกิจแวลูมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน อยู่ที่ 4.79% ทั้งตลาดบ้านเดี่ยวทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม สำหรับแผนกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจแวลูในปีนี้ยังคงเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ระดับกลาง-ล่าง เพื่อรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเดิม และขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยังระดับกลาง – บนมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์ โดยนำนวัตกรรม “พฤกษา 4.0” มาใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยทุกโครงการ พร้อมจับมือร่วมกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาโครงการแนวราบบนถนนบางนา-วงแหวนมูลค่า 8,000 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นโครงการเมกะโปรเจคที่ใหญ่ที่สุดของปีนี้

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้พฤกษาเตรียมเดินหน้าลุยตลาดพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่6,800 ล้านบาท และเป้ารายได้ไว้ที่ 3,500 ล้านบาท และมีแผนเปิดโครงการใหม่จำนวน 8 โครงการ มูลค่า 10,260 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องครั้งใหญ่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และมีปัจจัยความเสี่ยงของการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ บริษัทฯ จึงเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ ซึ่ง
จะให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า โดยพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบใหม่ให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัวเพื่อสร้างความแตกต่างจากตลาดและคู่แข่ง ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าพฤกษาได้ประสบความสำเร็จในตลาดพรีเมียมเป็นอย่างสูง และในปีนี้ก็มั่นใจได้ว่าจะเป็นอีกปีที่สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้เช่นกัน

การข้ามห้วยจากธุรกิจคอนซูเมอร์สู่อสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัวในครั้งนี้ พร้อมกับโจทย์ข้อใหญ่ที่บอสใหญ่อย่าง ทองมา ต้องการคือสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนเช่นเดียวกับที่เธอเคยพิสูจน์ฝีมือมาแล้วที่องค์กรเดิมอย่างยูนิลีเวอร์

เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับบ้านหลังใหม่อย่าง พฤกษา หรือไม่ ต้องติดตาม!

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: