พระรองตลาดทีวีฟัดเดือดรับบอลโลก
ภาพรวมของตลาดโทรทัศน์บ้านเราเติบโตน้อยมากมาหลายปีแล้ว โดยล่าสุดคาดการณ์ว่าปี 2560 ตลาดจะติดลบประมาณ 1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือมีมูลค่าประมาณ 2.5 ล้านเครื่องหรือประมาณ 28,000 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจ
แม้จะดูเหมือนตลาดทีวีไม่หวือหวา แต่ในความเป็นจริงแล้วแต่ละแบรนด์ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมจอภาพที่ให้ประสบการณ์การรับชมที่ดียิ่งขึ้น ทำให้โอกาสของกลุ่มสมาร์ททีวีกำลังเป็นตลาดที่น่าจับตามองมากที่สุดเพราะเป็นแนวทางทีวีของอนาคต โดยพบว่าปัจจุบันยุโรปหรือสหรัฐอเมริการวมทั้งประเทศที่พัฒนาแล้ว มีสัดส่วนของสมาร์ททีวี หรือทีวีกลุ่มพรีเมียมมากกว่า 50% ของตลาดรวม ส่วนไทยนั้นยังมีสัดส่วนเพียงแค่ 25% ยังโอกาสเติบโตได้อีกมาก
ตำแหน่งแชมป์ของตลาดทีวีเมืองไทยต้องยกให้กับ “SAMSUNG” ที่เลือกใช้วิธีทำการตลาดผ่านกลุ่มผู้นำความคิดทางสังคม (Influencers) ซึ่งจะช่วยเป็นกระบอกเสียงบอกต่อไปยังกลุ่มเป้าหมาย ล่าสุด SAMSUNG ยกระดับระบบความบันเทิงภายในบ้านด้วย QLED TV “The Next Innovation in TV” สุดยอดทีวีแห่งอนาคตที่มาพร้อมดีไซน์อันล้ำสมัย ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมอันชาญฉลาด และการแสดงผลภาพที่ยอดเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีควอนตัมดอท (Quantum Dot) ทำให้ QLED TV สามารถแสดงสีสันและค่าความต่างของสีได้อย่างแม่นยำ
แน่นอนว่า QLED TV จะเป็นแนวทางความสำเร็จที่ทางซัมซุงมองไว้ว่า มียอดขายทีวีพรีเมียมมากขึ้น และผลักดันให้เป็นผู้นำตลาดทีวีต่อไปปัจจุบัน ในราคาเริ่มต้นราวแสนบาทถึง 6.5 แสนบาท ขนาดตั้งแต่ 55-88 นิ้ว
ขณะที่ผู้เล่นเบอร์ 2 เบอร์ 3 ในตลาดก็กันไม่ยั้งเช่นกันเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางการตลาด โดยล่าสุด ค่ายผู้ท้าชิงแบรนด์อันดับ 3 ที่ห่างหายไปจากตลาดมานานอย่าง ชาร์ป หลังปัดกวาดภายในองค์กรเรียบร้อยก็พร้อมแล้วสู่การทำตลาดในไทยและพร้อมทวงตำแหน่งผู้นำในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกครั้ง
“ชาร์ป” อีกหนึ่งแบรนด์ที่ประสบภาวะวิกฤตอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนกระทั่งตัดสินใจขายหุ้นในเดือนเมษายน ปีที่แล้ว ให้กับบริษัท หงไห่ พรีซิชัน อินดัสทรี หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Foxconn เป็นผู้รับจ้างผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดในโลก หลังปรับโครงสร้างมา 1 ปี ชาร์ปที่มีอายุการดำเนินงาน 100 ปีประกาศคัมแบ็คอีกครั้ง
โดยสินค้าไฮไลท์ของชาร์ปในครั้งนี้คือ การนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนโลกให้แตกต่างไปจากเดิม นั่นคือนวัตกรรมโทรทัศน์ “อควอส 8 เค ทีวี” (AQUOS 8K TV) ขีดสุดของความคมชัดเสมือนจริงที่เหนือกว่าเทคโนโลยีโทรทัศน์ ที่มีอยู่ในปัจจุบันด้วยความละเอียดสูงสุดถึง 7,680 x 4,320 มากกว่าเทคโนโลยีจอภาพในโทรทัศน์แบบ Full HD ถึง 16 เท่า ซึ่งเป็นความละเอียดชนิดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยระบบเทคโนโลยี 8K Ecosystem สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งในวงการแพทย์ ระบบรักษาความปลอดภัย และการตรวจสอบคุณภาพในภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังได้คิดค้นนวัตกรรม AIoT ซึ่งนำจุดเด่นของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และการเชื่อมต่ออย่างไร้พรมแดนบนโลกอินเทอร์เน็ต (Internet of Things) มาผนวกเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือน และกลุ่มอุปกรณ์ใช้งานสำหรับธุรกิจ ให้สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย นอกจากจะสามารถตอบสนองการใช้งานได้แบบ Interactive แล้ว ยังมีความสามารถในการบันทึก และวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานให้มีความเหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้อีกด้วย
การกลับมาครั้งนี้ของชาร์ป ยืนยันหนักแน่นว่าต้องการทวงคืนตำแหน่งผู้นำในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ผ่านการทำตลาด 360 องศา โดยดึง หนุ่ม กันต์ กันตถาวร นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด
ปัจจุบัน ชาร์ป อยู่ในอันดับ 3 ของตลาดทีวีที่มีมูลค่า 2.2 ล้านเครื่อง โดยชาร์ปตั้งเป้าขยับทีละก้าวและขึ้นเป็นที่ 1 ในอีก 1-2 ปีนับจากนี้ ภายใต้กลยุทธ์หลักคือ เน้นความเป็นออริจินอล สินค้าไฮไลท์คือ 8K และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดยเฉพาะสินค้า 8k ชาร์ปหมายมั่นปั้นมือที่จะเป็นเรือธงส่งกลับผู้นำตลาดทีวีในเร็วๆ นี้ นำเสนอเริ่มที่ 70 นิ้ว ราคา 1 แสนเหรียญสหรัฐ
สำหรับรายได้รวมทั้งปีของชาร์ปในปี พ.ศ.2560 คาดว่ามีรายได้ 6 พันล้านบาท เติบโต 20% โดย 50% มาจากทีวี และคาดว่าจากแผนการดำเนินงานทั้งหมดจะทำให้ชาร์ปเติบโตได้อีกกว่า 20-30% ในปีหน้า
ฝั่งแอลจี ในฐานะผู้เล่นอันดับ 2 ในตลาดทีวี ด้วยส่วนแบ่งตลาด 20% จากตลาดรวมขยับอีกครั้ง ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมทีวีพรีเมี่ยมระดับโลก เปิดตัว LGSIGNATURE OLED TV ซีรี่ย์ W7T วอลเปเปอร์ทีวีไร้ขอบ สุดบางเฉียบเพียงแค่ 2.57 มิลลิเมตร ขนาด 65 นิ้ว ครั้งแรกในไทยส่งท้ายปี
นิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “LG SIGNATURE OLED TV ซีรี่ย์ W7T ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และความเป็นผู้นำ OLED TV ในตลาดพรีเมียมทีวีทั้งในประเทศไทยและระดับโลกผ่านกิจกรรมการตลาดครบวงจรเพื่อสร้างการรับรู้ใน LG SIGNATURE OLED TV ซีรี่ย์ W7T
แอลจีเลือกนำเสนอ LG SIGNATURE OLED TV ซีรี่ย์ W7T ขนาด 65 นิ้ว ราคา 299,990 บาท เนื่องจากมองว่าตลาดทีวีโดยรวมแม้ตลาดรวมจะติดลบแต่ทีวีระดับราคาตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไปมีการเติบโตกว่า 30% จึงเลือกนำเสนอกลุ่มสินค้าดังกล่าวทั้งปีนี้และปีหน้า
ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นปีที่การแข่งขันในตลาดทีวีกลับมาร้อนระอุอีกครั้งเนื่องจากมีบอลโลกที่คนทั่วโลกและแฟนบอลชาวไทยตั้งตารอ แต่จะทำให้ตลาดทีวีกลับมาเติบโตได้อีกคร้ังหรือไม่ ต้องติดตาม