พนักงานเซเว่นฯ ขุมทองแห่งใหม่ธุรกิจ”ศัลยกรรมความงาม”
ต้องบอกว่า “สถาบันศัลยกรรมความงาม” ถือเป็นตลาดที่เติบโตแบบติดสปริงบอร์ดเลยก็ว่าได้ จากตัวเลขในปี 2012 ที่มีมูลค่า 19,500 ล้านบาท ทะลุถึง 30,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมาพร้อมทั้งตัวเลขการเติบโตที่สวยงามมากกว่า 20% ต่อปี
จากตัวเลขมหาศาลดังกล่าวทำให้ตลาดศัลยกรรมความสวยความงามกลายเป็นบ่อทองคำที่ใครๆ ก็หมายปองนั่นเพราะทุกคนอยากดูดีอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าเศรษฐกิจจะย่ำแย่ก็ไม่ใช่ปัญหาแม้ว่าสถนนราคาจะแพงลิบลิ่วแถมลูกค้ายังเจ็บตัวก็ตาม เพราะความสวย ความหล่อเป็นสิ่งที่คนไทยไขว่คว้า
ล่าสุด สถาบันความงามที่ใช้ชื่อว่า sodsoi House Clinic ถือโอกาสขยายกลุ่มเป้าหมายด้วยการจัดรายการโปรโมชั่นสำหรับพนักงานร้านสะดวกซื้ออันดับหนึ่งของเมืองไทยอย่าง เซเว่น อีเลฟเว่น เพียงแสดงบัตรพนักงานเซเว่น ทำศัลยกรรม จมูก คาง ตัดปีก ในราคา 7,110 บาท เท่านั้น จากราคาปรกติสูงถึง 16,500 บาท ปิดท้ายอีกว่ารับจำนวนจำกัด ให้รีบจองด่วน!!!
เหตุผลที่คลินิคเสริมความงามแห่งนี้พุ่งตรงไปที่พนักงานเซเว่นโดยเฉพาะนั่นเป็นเพราะจำนวนพนักงานในแต่ละสาขาประมาณ 10 คนหมุนเวียนสลับกะทำงาน ขณะที่เซเว่นมีกว่า 9,700 สาขา คิดเล่นๆ จำนวนพนักงานเซเว่นทั่วประเทศมีประมาณ 1 แสนคนๆ ละ 7 พันกว่าบาท ก็ปาเข้าไป 700 ล้านบาท มหาศาลไม่ใช่เล่น
“วุฒิศักดิ์”เร่งขยายแฟรนไชส์ทั้งในและต่างประเทศ
บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด อีกหนึ่งผู้เล่นคนสำคัญในตลาดความสวยความงามได้ปรับโมเดล “วุฒิศักดิ์ คลินิก” ทั้งหมด ให้เป็นรูปแบบแฟรนไชส์ (Franchise Model) พร้อม ๆ กับ ยกระดับและขยายการให้บริการ ด้วยการศัลยกรรม ผ่าตัดและตกแต่ง เสริมความงาม โดยเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบราว 4-6 สาขาในปีนี้
ปัจจุบันวุฒิศักดิ์มีสาขาเพื่อให้บริการในประเทศทั้งหมด 120 แห่ง และ ภายใน 3 ปี ตั้งเป้าขยายธุรกิจให้ได้ 300 แห่งในรูปแบบคลินิกจำนวน 150 แห่ง รูปแบบบิวตี้เซ็นเตอร์จำนวน 50 แห่ง และรูปแบบรีเทลช็อปจำนวน 100 แห่ง
ก่อนหน้านี้ อีไอซี ของธนาคารไทยพาณิชย์เผยแพร่ผลวิจัยเกี่ยวกับภาพรวมของตลาดเสริมความงามพบว่า ตลาดเสริมความงามทั่วโลกเติบโตสูง โดยภูมิภาคเอเชียมีการเติบโตสูงถึง 14% ต่อปีในช่วงปี 2012-2014 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเทรนด์การดูแลสุขภาพและความงาม และการเข้าสู่สังคมสูงอายุ โดยภาพรวมตลาดเสริมความงามทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 21 ล้านล้านบาท เติบโต 7% ต่อปี ในขณะที่ตลาดในเอเชียมีมูลค่าราว 1 ใน 5 ของตลาดเสริมความงามทั่วโลก
ทั้งนี้ การให้บริการในตลาดเสริมความงามที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่มีแนวโน้มมุ่งไปสู่การใช้บริการด้านการชะลอวัย ซึ่งเพิ่มขึ้น 7.5% ต่อปี โดยเฉพาะการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ขณะที่ตลาดศัลยกรรมยังมีแนวโน้มเติบโตดีมีการใช้บริการเติบโต 7.4% ต่อปี อาทิ ศัลยกรรมตา จมูก และเสริมหน้าอก นอกจากนี้ แนวโน้มการใช้บริการในตลาดเสริมความงามไม่ได้จำกัดเฉพาะวัยใดวัยหนึ่งเท่านั้น แต่มีการขยายตัวในทุกช่วงวัยซึ่งมีความนิยมแตกต่างกัน โดยวัยทำงานเป็นกลุ่มที่ใช้บริการทั้งการดูแลรักษาผิวและศัลยกรรมมากที่สุดถึง 40%
ตลาดศัลยกรรมและการชะลอวัยของไทยมีศักยภาพเติบโตสูงจากความนิยมของกลุ่ม medical tourist เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการทำศัลยกรรม โดยสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (ISAPS) ได้จัดอันดับให้ไทยเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านศัลยกรรมเป็นอันดับที่ 8 ของโลก และยังมีจำนวนศัลยแพทย์ต่อประชากรมากเป็นอันดับที่ 25 อีกด้วย เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการให้บริการและค่าบริการที่ถูกกว่าประเทศคู่แข่งหลายประเทศ เช่น การทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นในไทยมีราคาถูกกว่าเกาหลีประมาณ 3-4 เท่า จึงดึงดูดให้คนในประเทศและต่างประเทศนิยมทำศัลยกรรมในไทยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดเสริมความงามที่เติบโตทำให้คลินิกเสริมความงามเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากภาวะล้นตลาด การเติบโตของตลาดเสริมความงามได้สร้างความสนใจให้กับนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะด้านการดูแลรักษาผิวและศัลยกรรม อีกทั้งมีการขยายสาขาและการพัฒนาของผู้ประกอบการเดิมเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคลินิกเสริมความงาม โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านความงามและศัลยกรรม รวมทั้งโรงพยาบาลได้เริ่มหันมาเปิดศูนย์ผิวพรรณ ศูนย์ศัลยกรรมความงาม และศูนย์ anti-aging มากขึ้น ซึ่งส่วนมากจะมีรูปแบบการให้บริการและเครื่องมืออุปกรณ์ที่คล้ายคลึงกัน จึงส่งผลให้ตลาดคลินิกเสริมความงามมีการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงมากขึ้น
ไม่ว่าเศรษฐกิจเป็นอย่างไรก็ตาม แต่เพื่อความสวย ความหล่อ คนไทยยอมจ่าย เพราะตลาดนี้เป็นเรื่องของความพึงพอใจล้วนๆ และที่สำคัญสังคมไทยในยุคนี้ให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตา จนหลายคนเชื่อว่าการทำศัลยกรรมเป็นการลงทุนให้แก่ตัวเอง เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้ทั้งงาน ได้ทั้งเงิน
แต่การทำศัลยกรรมก็เป็นเพียงเสริมแต่งรูปลักษณ์ภายนอกเท่าน้ัน เนื้อแท้ภายในนั่นคือ การมีจิตใจที่ดีสำคัญกว่า