ฝันเป็นจริง “บ้านนอกเบียร์” เตรียมเปิดโรงงานปีหน้า
กระแส “คราฟต์เบียร์ (Craft Beer)” หรือเบียร์ที่เกิดจากผู้ผลิตรายเล็กซึ่งต้องการอิสระเเละสร้างสรรค์เบียร์ด้วยตัวเอง นั่นคือเบียร์ที่ผ่านการผลิตจากผู้ผลิตรายเล็ก หรือการทำเบียร์ปริมาณไม่มาก ซึ่งก็จะมีเอกลักษณ์ของแต่ละเจ้าที่ผลิตแตกต่างกันไป คราฟต์เบียร์เริ่มเข้ามามีบทบาทกับตลาดเบียร์ในประเทศไทยมากขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากติดปัญหาที่ข้อกฎหมายของบ้านเราจึงทำให้ไม่สามารถทำได้อย่างเสรี
หนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายคราฟต์เบียร์ที่น่าสนใจต้องยกให้ ฟาง-ปณิธาน ตงศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บ้านนอกเข้ากรุง ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์คราฟต์เบียร์แบรนด์ลำซิ่ง และบ้านนอกเบียร์ หนุ่มน้อยจากสกลนครที่เดินทางมาตามฝันของตัวเอง หลังจบการศึกษาที่จุฬาฯ เขาก็เริ่มบุกเบิกธุรกิจส่วนตัวเรื่อยมาตั้งแต่ทำเสื้อผ้า อาหารเสริม ธุรกิจสแน็ค ภายใต้แบรนด์ “แมลงทอดไฮโซ” แมลงทอดบรรจุซองพร้อมทานปรุงรสที่สร้างฮือฮาและยอดขายถล่มถลายมาแล้ว
เมื่อถึงจุดที่ธุรกิจเริ่มเริ่มอิ่มตัว หนุ่มฟางออกเดินทางตามฝันของตัวเองอีกครั้งด้วยการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในต่างแดนเพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเอง และเมื่อเดินทางไปในแต่ละที่ก็จะพบว่าทุกที่ที่เขาไปมีคราฟต์เบียร์ของตัวเอง และคราฟต์เบียร์ของแต่ละที่ก็รสชาติไม่เหมือนเบียร์ที่เคยดื่มในบ้านเราอีกด้วย จึงตั้งต้นศึกษาคราฟต์เบียร์อย่างจริงจัง จนเป็นเจ้าของบ้านนอกเบียร์ในทุกวันนี้
สาเหตุที่เบียร์นี้ชื่อบ้านนอกเบียร์เพราะ 2 สาเหตุคือ 1.ตั้งใจออกแบบมาให้คนไทยที่ไม่เคยดื่มเบียร์ประเภทAleในตลาดแมสได้ลองดื่ม แต่ทำให้มันดื่มง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องมีคนมาอธิบายเยอะก่อนดื่ม เราตีความความเรียบง่ายนี้เป็นคำว่าบ้านนอก คือซื่อๆ ตรงๆ ไม่มีพิธีรีตรอง 2.ตลาดเบียร์ไทยเป็น1ในตลาดเบียร์ที่บ้านนอกที่สุดในโลก เพราะไม่มีเบียร์ประเภทอื่นในตลาดเลยมาหลายสิบปี
“เป้าหมายของเราคือทำคราฟต์เบียร์ไทย มาตรฐานสากล ราคาบ้านนอกสมชื่อ มีโรงผลิตของตัวเองในประเทศ ญาติพี่น้อง ครอบครัว คนรอบข้างด่าผมว่าโง่ ด่าผมแรงกว่านี้ที่ทิ้งงานดีๆมาทำคราฟท์เบียร์ ด่าเบียร์ผมแค่นี้ผมไม่เคืองหรอกนะคร้บ เพราะผมรู้ว่าผมไม่ได้ทำเบียร์โง่ๆมาหลอกขายคน และคนที่รู้จักผม+เบียร์ของผม ในโพสนี้ ผมขอบคุณที่ช่วยอธิบายแทนผมนะครับ แต่ผมขอร้องอย่างนึงว่า ถกเถียงกัน ติเพื่อก่อได้ แต่อย่าทะเลาะกันเพราะเบียร์นะครับ อันนี้ผมเสียใจกว่าคนด่าเบียร์ผมอีก”ความในใจจากหนุ่มฟาง
ถึงวันนี้ แม้ว่าสัดส่วนของคราฟต์เบียร์ยังมีไม่ถึง 1% ของตลาดเบียร์ที่มีมูลค่ากว่า 1.8-2 แสนล้านบาท แต่เบียร์พันธุ์ใหม่ก็มีทิศทางการเติบโตที่น่าติดตามไม่น้อย จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มองหาอะไรแปลกใหม่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างจากสินค้าเมนสตรีมทั่วไปตามท้องตลาด ทำให้คราฟต์เบียร์ที่มีลูกเล่นจากสไตล์ที่มีอยู่จำนวนมากได้รับความนิยม
ก่อนหน้านี้ เขาได้ปฏิวัติวงการคราฟต์เบียร์เมืองไทยด้วยการส่งบ้านนอกเบียร์เข้าสู่ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่อย่าง 7- Eleven ด้วย 2 รสชาติคือ Kiss Me Deadly และ Honey Bomb ถือเป็นการขยายตลาดและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างทั่วถึง และยังถือเป็นมิติใหม่ ที่ได้เป็นคราฟต์เบียร์เจ้าแรกที่วางขายใน 7- Eleven
ซึ่งใน 3-5 ปีข้างหน้า หนุ่มฟาง ตั้งใจจะสร้างความรับรู้ให้กับกลุ่มผู้ดื่มเบียร์ และขยายสัดส่วนให้กับคราฟต์เบียร์ไทยอิมพอร์ตสามารถเข้าถึงตลาดแมสได้ไม่ต่ำกว่า 50% เป็นการเปิดทางให้กับผู้ผลิตรายอื่นๆ รวมถึงการปรับพฤติกรรมการดื่มของคนไทยที่เน้นปริมาณ มาเพิ่มประสบการณ์ในการดื่มให้มากขึ้น
ปัจจุบันคราฟ์เบียร์ไทยเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้บริโภคมีการรับรู้ในตัวผลิตภัณฑ์และชื่นชอบ ดังนั้น ก้าวต่อไปและถือเป็นการทำความฝันของตัวเองให้กลายเป็นจริง หนุ่มฟางจึงตัดสินใจที่จะก่อตั้งโรงงานผลิตคราฟท์เบียร์ของตัวเอง ณ บริเวณนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการยื่น ERA มากว่า 80% และหากผ่านการทำประชาพิจารณ์ครั้งที่ 2 เรียบร้อยก็จะสามารถเข้าไปลงทุนได้ราวเดือนกุมภา- มีนา 2562 คาดเงินลงทุนเบิ้องต้นประมาณ 300 ล้านบาท
เขายังอธิบายด้วยว่า ปัจจุบันกฎหมายระบุการตั้งโรงงานเบียร์ขนาดใหญ่จะต้องมีการผลิตขั้นต่ำ 10 ล้านลิตรต่อปี หรือประมาณ 1 แสนลังต่อเดือน หรือหากเป็นโรงเบียร์ขนาดเล็ก ที่ผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิตนั้น (Brew Pub) ก็ต้องมีการผลิต 1 แสน-1 ล้านลิตร ต่อปี ทำให้ผู้ผลิตเบียร์รายเล็กต้องไปหาโรงงานผลิตต่างประเทศ และส่งกลับเข้ามาจำหน่าย เกิดเป็นต้นทุนการขนส่ง ภาษีนำเข้า ฯลฯ ทำให้ราคาคราฟท์เบียร์ในปัจจุบันค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสรา้งการรับรู้คราฟท์เบียร์ให้ดียิ่งขึ้น หนุ่มฟางได้จัดงานไทยแลนด์ เบียร์เฟสติวัล 2018 งานเบียร์ที่รวบรวมเบียร์ทุกประเภท ทุกยี่ห้อเข้ามาไว้ในที่เดียวมากที่สุด จัดระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคมนี้ ณ บริเวณด้านหน้า Show DC
นี่คือ บิ๊กมูฟของวงการคราฟต์เบียร์ไทยที่จะสร้างปรากฏการณ์หน้าใหม่ให้กับตลาดเบียร์ก็ว่าได้ !