แอดมินเพจขโมยรูปช่างภาพ เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์
โดย…ธนก บังผล
พระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาล ที่ 9 เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายที่ชาวไทยเริ่มนับถอยหลังด้วยความเศร้าสลด ซึ่งการเตรียมงานต่างๆที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี
โดยเมื่อวันที่ 15 ต.ค. มีการซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 1 ถึง 3 ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพื้นที่จริงเป็นครั้งที่ 2 ประชาชนต่างพากันมารอการซักว้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเคลื่อนผ่าน อีกทั้งยังได้รับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์มาทรงร่วมซ้อมด้วย
ซึ่งในวันต่อมาพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเทพฯ ได้เผยแพร่ทางสื่อต่างๆทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์สร้างความปลาบปลื้มกับพสกนิกรชาวไทยเป็นล้นพ้น
แต่ปรากฏว่ามีเพจหนึ่งได้นำรูปของช่างภาพเนชั่น ที่ได้ถ่ายพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเทพฯ ไปตัดต่อนำลายน้ำของช่างภาพออก แล้วนำมาลงเพจเพื่อเรียกยอดไลค์ยอดแชร์ โดยไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของภาพ
จนทำให้ ชาลินี ถิระศุภะ ช่างภาพในเครือเนชั่นผู้ถ่ายพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเทพฯ โพสต์ข้อความสอบถามไปยังหน้าเพจดังกล่าวตั้งแต่ช่วงสายของวันที่ 16 ต.ค. เนื่องจากรูปที่ถ่ายนั้นเป็นลิขสิทธิ์ของผู้ถ่ายและสำนักข่าว การนำไปเผยแพร่ด้วยการตัดต่อ ทำซ้ำ แล้วเผยแพร่จึงเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แต่ทางแอดมินเพจก็ไม่ได้ตอบกลับใดๆ
นอกจากจะไม่ตอบกลับแล้ว ทางแอดมินเพจยังเปลี่ยนคำอธิบายใต้พระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเทพฯ ที่ขโมยมาจากผู้อื่น เหมือนไม่สะทกสะท้านและท้าทายเจ้าของลิขสิทธิ์
ไม่เพียงแต่ไม่สะทกสะท้าน ยังนำภาพอื่นๆที่ ชาลินี ถ่ายพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่นๆ ไปโพสต์เพิ่มเติมซ้ำอีก จนทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวร้อนแรงเป็นอย่างมากในโลกโซเชียล
จากการกระทำข้างต้นของแอดมินเพจดังกล่าวนี้ เป็นการกระทำที่เรียกว่าขโมยภาพ ซึ่งมีความผิดตามลิขสิทธิ์อยู่แล้ว โดยมีบางคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าในช่วงโอกาสเช่นนี้ไม่ควรจะถือเอาเรื่องเล็กน้อย เรื่องลิขสิทธิ์มาทวงถามกัน ซึ่งความจริงแล้วการทำงานของช่างภาพนั้น ทุกภาพที่ลงตีพิมพ์ในสื่อขององค์กร มีลิขสิทธิ์ หากช่างภาพไม่ปกป้องรูปภาพของตัวเอง อาจทำให้หัวหน้างานเข้าใจผิดได้ว่านำภาพที่ถ่ายไปขายให้กับผู้อื่น ซึ่งผิดกฎระเบียบของบริษัท มีโทษรุนแรง
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ การขโมยภาพของคนอื่น การตั้งเพจเฟซบุ๊กใช้ชื่ออ้างอิงสถาบันพระมหากษัตริย์ การตัดต่อพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเทพฯ การตัดชื่อและสังกัดที่ปรากฏในรูปภาพมาเป็นของตัวเอง เป็นความผิดร้ายแรง
ทั้งนี้ ชาลินี ได้ยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายกับแอดมินเพจที่ขโมยภาพของเธอไปอย่างแน่นอน
กรณีตัวอย่างก่อนหน้านี้ไม่นาน น.ส.อรการ จิวะเกียรติ หรือ “กวาง” ผู้ประกาศสาวช่องทรูโฟร์ยู ได้เข้าแจ้งความกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. จากที่เพจคำขวัญชั้นใต้ดิน นำรูปภาพของเธอไปโพสต์และมีการระบุข้อความว่าเป็นมือที่ 3 จนทำให้ครอบครัวของ ของน.ส.ทักษอร เตชะณรงค์ หรือ แอฟ นางเอกสาวช่อง 3 และนายสงกรานต์ เตชะณรงค์ เกิดความระหองระแหงกัน อันเป็นการทำให้น.ส.อรการ เสื่อมเสียชื่อเสียง
เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.โอฬาร สุขเกษม ผกก.3 บก.ปอท. เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวผู้เสียหายได้นำหลักฐานมาแจ้งความเอาผิดเพจดัง 2 เพจแล้ว เบื้องต้นพิจารณาแล้วพบว่า ไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่เป็นลักษณะหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จึงได้แจ้งข้อหากับผู้ทำเพจดังกล่าว ตามที่ผู้เสียหายต้องการเอาผิด
อย่างไรก็ตามทาง บก.ปอท.นั้น จะทำเพียงสอบสวนเบื้องต้นและนำเรื่องส่งกลับไปยังสน.พื้นที่เกิดเหตุดำเนินการต่อไป ทั้งนี้อยากเรียนชี้แจงกับประชาชนว่าหากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้หรือเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สามารถไปแจ้งความได้ใน สน.พื้นที่ใกล้เคียง ไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาแจ้งความที่ ปอท.
สำหรับกรณีของแอดมินเพจขโมยรูปนั้น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 16 ระบุว่า การเผยแพร่ภาพ ตัดต่อ/ดัดแปลง : ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีที่เกิดขึ้นนี้ จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับบรรดาแอดมินเพจทั้งหลาย ซึ่งเชื่อว่าวันพระราชพิธีจะต้องมีภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมามากมาย โดยช่างภาพทุกคนไม่ได้หวงรูปถ่ายที่จะนำไปใช้ เพียงแต่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปตัดลายน้ำหรือเครดิตของช่างภาพและสื่อในสังกัดออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่เสียมารยาทอย่างมาก
