“นึกถึงส้มตำ นึกถึงตำมั่ว” MINDSET “ศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์”
กว่า 27 ปี ที่ “ตำมั่ว” ได้ให้บริการร้านอาหารอีสานภายใต้สโลแกน “อาหารรสจัด ถนัดเรื่องตำ” ซึ่งเกิดจากการนำภูมิปัญญาในการประกอบอาหารของท้องถิ่นอีสานซึ่งเน้นรสชาติที่ถูกปากคนในครอบครัว และสะอาดบวกกับวัตถุดิบชั้นเลิศในท้องถิ่น มาปรุงในรูปแบบและรสชาติที่คนไทยคุ้นเคย จึงเป็นที่มาของสูตรอาหารที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคคนไทยที่พิสมัยอาหารรสชาติจัดจ้าน โดยเฉพาะเมนูส้มตำที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากมาทุกยุคทุกสมัย
ปัจจุบัน ตำมั่ว โดยชายหนุ่มเจ้าของแบรนด์ในวัยเพียง 40 เท่านั้น อย่าง “ศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์” หรือคุณเบส ผู้ก่อตั้งธุรกิจร้านอาหารไทยแบรนด์ตำมั่วและหัวหน้ากลุ่มบริหารธุรกิจอาหารไทยในเครือเซ็นกรุ๊ป บอกว่า ปัจจุบันตลาดร้านอาหารไทย-อีสานมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการของผู้บริโภคที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ติดใจอาหารรสชาติจัดจ้านตามแบบฉบับบของอาหารไทย ร้านตำมั่วจึงมีการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วเพื่อให้ครอบคลุมและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทยในปัจจุบันที่นิยมรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น
ศิรุวัฒน์ มุ่งมั่นเกินร้อยที่จะนำพาธุรกิจครอบครัวให้ขยายไปยังวงกว้างด้วยการเลือกใช้รูปแบบแฟรนไชส์เป็นตัวช่วยในการสปริงบอร์ดแบบก้าวกระโดดในวันที่เขามีความพร้อมโดยใช้เวลาถึง 3 ปีเต็มกว่าจะตัดสินใจขายแฟรนไชส์ พร้อมกับมองหาโอกาสในการแตกแบรนด์ใหม่ๆ โดยคงคอนเซ็ปต์เดิมคือ ตลาดแมส ที่ใครๆ ก็ทานได้
ฝันของคนหนุ่ม คือนำพาร้านอาหารไทย ไปกระจายความแซ่บอยู่ทั่วโลก เหมือนกับหลายแบรนด์ดังได้ทำไว้ ฝันใหญ่ของเขา ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน หลังขายแฟรนไชส์ไปที่ สปป.ลาว, เมียนมา และกัมพูชา ทั้งในแบรนด์ ตำมั่ว และเฝอ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 4 สาขา และกำลังจะเปิดอีกสาขา ที่เวียงจันทน์ โดยมีเป้าหมาย ‘โกลบอลแบรนด์’
เมื่อคำว่า โกลบอลแบรนด์ปรากฏในสมองเขาจึงคิดการใหญ่อีกครั้ง ด้วยวิธีการดับเบิ้ลสปริงบอร์ดด้วยการควบรวมกับบริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัดที่มีอายุอานามไล่เลี่ยกันแต่ธุรกิจอาหารคนละประเภทเพื่อมาเสริมซึงกันและกันให้แข็งแกร่งโดยหมายมั่นปั้นมือให้แบรนด์ตำมั่วไปไกลถึงยุโรปในสเต็ปต่อไปหลังจากที่ปักหมุดในอาเซียนเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่ควบรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเซ็นกรุ๊ปเรียบร้อย ภายใต้วิชั่นของผู้บริหารคนใหม่อย่าง บุญยง ตันสกุล ที่ดูแลภาพรวมการบริหารธุรกิจทั้งหมดของเซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป เพื่อขับเคลื่อนสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมร้านอาหาร โดยพันธกิจหลักคือ การต่อยอดกลยุทธ์หลักทั้ง 4 ได้แก่ การเสริมสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภค การขยายเครือข่ายธุรกิจผ่านแบรนด์และบริการใหม่ การยกระดับประสิทธิภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และการพัฒนาความเชี่ยวชาญของบุคลากร เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายหลักคือการบรรลุยอดขาย 1 หมื่นล้านบาทภายในปี พ.ศ. 2565 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า
ในฐานะผู้ที่ดูแลรับผิดชอบในส่วนของร้านอาหารไทย ศิรุวัฒน์ ปัจจุบัน ดูแล Thai Brands นำโดย
ตำมั่ว 111 สาขา
ลาวญวน 18 สาขา
เฝอบายตำมั่ว 14 สาขา
เฝอคลาสสิค
แจ่วฮ้อน 16 สาขา
ข้าวมันไก่ คุณย่า 1 สาขา
ครัวไทย บาย ตำมั่ว 1 สาขา
เดอ ตำมั่ว 1 สาขา
แบรนด์ตำมั่ว ในครึ่งปีหลังจะเปิดอีก 30 สาขา รวมต่างประเทศ ที่ปัจจุบันมี 7 สาขาสิ้นปีเพิ่มเป็น 10 สาขา ขณะที่ลาวญวน จะเพิ่มเมูอาหารเวียดนาม แบรนด์ VT เจ้าดังในอุดร แบรนด์แจ่วฮ้อน จะขยายสาขาเพิ่มที่เมืองเสียมราฐ กัมพูชาอีก 1 สาขา เป็นต้น
ล่าสุด ศิรุวัฒน์ นำเหล่ากองทัพแฟรนไชส์ซีมากกว่า 100 สาขาในเครือตำมั่วเข้าร่วมประชุมในงาน TUMMOUR Franchise Conference 2018 ครั้งที่ 2 ภายใต้แคมเปญ “Stronger Together Part II” ณ ห้องประชุม Ballroom A ชั้น 5 โรงแรมเบสท์ เวสเทิร์น พลัส แวนดา แกรนด์ แจ้งวัฒนะ โดยภายในงานได้มีการสรุปผลงานในไตรมาสที่ 1 และจะเดินหน้าลุยแผนการตลาดในไตรมาสที่ 2 ซึ่งจะเน้นกลยุทธ์การสื่อสารเชิงรุกในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ สื่อโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ สื่อนอกสถานที่ รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ ที่จะทำให้ตำมั่วสามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น
ทิศทางที่คาดหวังไว้ต่อจากนี้ คือ การปูทางให้ธุรกิจร้านอาหารตำมั่วได้เข้าสู่เวทีสากลมากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่าสามารถทำได้ไม่ยาก เนื่องจากตำมั่วมีจุดเด่นที่แข็งแกร่ง คือ เป็นร้านอาหารอีสานยุคใหม่สัญชาติไทยที่เน้นรสชาติของความเป็นอีสานแท้ๆ และในปัจจุบันเราก็มีการขยายสาขาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายแฟรนไชส์สาขาในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งล่าสุดจากการเปิดแบรนด์ใหม่ “แจ่วฮ้อนบายตำมั่ว” สาขาใหม่ที่เมืองเวียงจันทน์ประเทศลาวเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตำมั่วก็ได้รับผลตอบรับจากคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ในอีก 5 ปีข้างหน้าจะสามารถขยายสาขาไปทั่วโลกภายใต้แบรนด์ที่แข็งแรง โดยใช้งานไทยเฟ็กซ์ที่กำลังจะเริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ (29 พฤษภาคม 2561) เป็นตัวแปรสำคัญในการขยายตลาดต่างประเทศ โดยในงานดังกล่าวได้นำทุกแบรนด์ที่ขายแฟรนไชส์ร่วมออกบูธ หลังจากปีที่ผ่านมาใช้งานไทยเฟ็กซ์เป็นตัวแปรในการส่งออกผลิตภัณฑ์ แต่ปีนี้จะใช้งานไทยเฟ็กซ์เป็นตัวแปรสำคัญในการนำสาขาออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีสาขาตำมั่วและร้านอาหารไทยในเครือรวม 500 สาขาทั้งในและต่างประเทศ และยอดขายเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท จากปีนี้ตั้งไว้ที่ 1,400 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีรายได้ 1,200 ล้านบาท
ศิรุวัฒน์ มั่นใจว่าจุดแข็งของตำมั่วคือเรื่องของรสชาติอาหารที่เน้นความเข้มข้นจัดจ้าน ซึ่งไตรมาสที่ผ่านมาได้ออกสองเมนูใหม่ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ปลายไตรมาสที่ 2 นี้ จึงมีแผนการออกเมนูใหม่เพิ่มอีกหนึ่งเมนู คือ เมนูไก่กระด้ง สูตรลับความอร่อยกว่า 30 ปี แซ่บสะเด็ด เผ็ดร้อนด้วยเครื่องเทศแบบไทยๆ เสริฟมาในกระด้ง โดยนำร่องขาย 3 สาขา คือ เดอ ตำมั่ว เกษรพลาซ่า ลาวญวน เซ็นทรัลอีสวิล และ ตำมั่ว บิ๊กซีพระราม4 สาขาอื่นๆ จะเริ่มขายในลำดับถัดไป
ศิรวุฒน์ ทิ้งท้ายว่า การทำตลาดในธุรกิจร้านอาหารปัจจุบันแตกต่างจากอดีตที่อาศัยอร่อยบอกต่อ แต่ปัจจุบันแบรนด์ต้องแข็งแรง อาหารอร่อย ออกเมนูใหม่อย่างสม่ำเสมอ ทำตลาดอย่างเข้าใจไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค มีวิธีบริหารต้นทุนให้ต่ำที่สุดและที่สำคัญทำแบรนด์ให้ยั่งยืนในที่สุด
และที่สำคัญ ทั้งคนไทยและต่างชาติ เมื่อนึกถึงส้มตำ ต้องนึกถีงตำมั่วเท่านั้น ถือเป็นก้าวสำคัญและอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของสินค้าแบรนด์ไทยที่สามารถขยายสาขาไปยังต่างประเทศได้อย่างไม่อายใคร